“แม่ถามหนูอิงตัวดีของแม่สิครับว่าทำอะไรใครไว้?”
“ทำอะไร ตาทศพูดเรื่องอะไร”
“ผู้หญิงคนนี้ส่งคนไปทำร้า—”
“ค...คือ หนูปวดหัวมากเลยค่ะ”
คนตัวเล็กแกล้งทำเป็นจับศีรษะตัวเองและนิ่วใบหน้า คุณนายละมัยเห็นแบบนั้นก็ประคองว่าที่ลูกสะใภ้และหันไปเอ็ดลูกชายทันที
“ตาทศหยุดแกล้งน้องได้แล้ว แม่จะพาน้องไปหาหมอ”
“หนูไม่ไปได้ไหมคะ คือ...หนูอยากนอนพักค่ะ”
“จะดีเหรอลูก”
“ค่ะ ให้หนูนอนพักสักหน่อยก็คงดีขึ้นค่ะ”
“จ้ะ ๆ แม่ตามใจหนูอิงนะ”
อิงดาวถูกว่าที่แม่สามีประคองเข้าห้องนอนก่อนอีกฝ่ายจะปิดประตูลง ทิ้งให้ร่างใหญ่ยืนกำมือแน่นมองประตูตรงหน้า
แม่ของเขาถือหางผู้หญิงคนนั้นมาตลอด รักเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง เผลอ ๆ รักมากกว่าเขาที่เป็นลูกแท้ ๆ ด้วยซ้ำ เป็นเหตุผลที่ทศวรรษยังสลัดปลิงน่ารังเกียจตัวนั้นออกไปไม่ได้สักที
เขาเกลียดอิงดาว เกลียดนิสัย เกลียดท่าทางเสแสร้ง และเกลียดที่ต้องมามีพันธะผูกพันกับเธอ
อีกไม่นาน เขาจะกำจัดผู้หญิงคนนี้ให้ออกไปจากชีวิตด้วยมือของเขาเอง
อิงดาวนั่งลงบนเตียงนุ่ม โดยมีคุณนายละมัยนั่งลงข้าง ๆ หญิงสาวอึกอักเพราะทำตัวไม่ถูก ในนิยาย...คุณนายละมัย มารดาของทศวรรษเป็นเพื่อนสนิทกับมารดาของอิงดาว และคุณนายละมัยรักอิงดาวเหมือนลูกแท้ ๆ คนหนึ่ง อาจเป็นเพราะหล่อนอยากมีลูกสาว แต่หลังจากคลอดทศวรรษ คุณนายละมัยก็มีปัญหาด้านสุขภาพทำให้มีลูกอีกไม่ได้ ความฝังใจจึงมีมาถึงทุกวันนี้ พอเห็นเพื่อนสนิทมีลูกสาว คุณนายละมัยก็รักและเอ็นดูหลานคนนี้มากจนอยากได้มาเป็นสมาชิกในครอบครัว ถ้าเด็กทั้งคู่รักกันและแต่งงานกัน คุณนายละมัยก็คงจะนอนตายตาหลับ
หนูอิงดาวรักลูกชายของเธอ แต่ติดตรงที่ลูกของเธอนั่นแหละที่เอาแต่อคติต่อเด็กสาวคนนี้
“หนูอิงลูก แม่ขอโทษแทนพี่เขาด้วยนะ เจ็บหรือเปล่า?”
มือที่เริ่มจะเหี่ยวย่นจับที่ข้อมือเล็กของเธอ อิงดาวส่ายหน้าพลางยิ้มเจื่อน
“หนูไม่เป็นไรค่ะ”
อิงดาวมองสายตาของอีกฝ่ายที่เต็มไปด้วยความรักอันบริสุทธิ์ พลางคิดในใจว่าขนาดเป็นแม่ของคู่หมั้น เธอยังถูกรักขนาดนี้เลย ไม่อยากจะคิดว่าแม่ของอิงดาวจริง ๆ เธอจะได้รับความรักมากขนาดไหน
ต่างจากชีวิตของมัทราวฟ้ากับเหวเลยแหะ...
“หนูอิงลูก อีกสองวันพี่ทศจะไปคุยงานกับพ่อค้ายางพาราที่นครศรีธรรมราช หนูอิงไปกับพี่เขาสิจ๊ะ”
“หนูเหรอคะ?”
“ใช่จ้ะ ไปเป็นเพื่อนพี่เขาหน่อยนะ”
อิงดาวค่อย ๆ หุบยิ้ม พลางครุ่นคิดในใจว่าควรทำอย่างไรดี ถ้าเป็นในนิยาย อิงดาวคนเดิมคงตอบตกลงอย่างไม่ลังเล แต่ถ้าเป็นเธอก็ไม่ได้อยากไปขนาดนั้น แถมตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าตัวเองจะได้อยู่ในร่างนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี่คือเรื่องจริงหรือความฝันหลังความตาย ใบหน้าซีดหม่นหมองลง แต่ในเมื่อปัจจุบันเธอยังต้องอยู่ในร่างของอิงดาว เธอก็ต้องแสดงเป็นอิงดาวและเอาตัวรอดในชีวิตใหม่นี้ให้ได้...
“หนูไปก็ได้ค่ะ”
“น่ารักมากลูก งั้นหนูอิงพักผ่อนเถอะนะจ๊ะ แม่ไม่กวนแล้ว”
คนตัวเล็กพยักหน้า คุณนายละมัยออกจากห้องไปแล้ว เหลือเพียงเธอที่นั่งขมวดคิ้วด้วยความกังวล ไม่ง่ายเลยที่จะมาอยู่ในร่างของคนอื่น แถมยังต้องรับมือกับคู่หมั้นที่ตั้งแง่และจงเกลียดจงชังเธอ แม้ว่าจะรู้เส้นเรื่องพอสมควร แต่ในนิยายก็ไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับคู่ของทศวรรษและคู่หมั้นมากขนาดนั้น
ทว่าตอนจบที่ไม่ค่อยดีกับตัวร้ายนัก ในนิยาย เนื้อเรื่องดำเนินไปถึงความต่ำตมของจิตใจทศวรรษขั้นขีดสุด ทศวรรษตัวร้าย สั่งฆ่าอาคินพระเอกของเรื่อง ตามบทของนิยาย พระเอกรอดชีวิตและลงเอยกับนางเอกอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง ส่วนตัวร้ายอย่างคู่หมั้นเธอต้องติดคุกตามชะตากรรม อิงดาวที่บทหายไปหลังจากทศวรรษประกาศถอนหมั้นก่อนใกล้จบเรื่อง
เธอไม่รู้ว่าชีวิตต่อจากนี้จะเป็นไปในทิศทางไหน
แต่ในเมื่อโชคชะตาหรืออะไรก็ตามที่ส่งเธอมามีชีวิตใหม่ หญิงสาวก็ต่อสู้และเผชิญมันสักตั้งเหมือนกัน
...ใด ๆ ก็ตาม มันคงไม่เลวร้ายเท่าชีวิตของมัทหรอก
สองวันต่อมา
“เดินทางปลอดภัยนะจ๊ะ”
“ค่ะ ค...คุณแม่”
รอยยิ้มหวานปรากฏบนใบหน้าของอิงดาวเมื่อคุณนายละมัยออกมาส่งลูก ๆ ทั้งสองที่โถงหน้าบ้าน
บ้านหลังใหญ่สามชั้น มีพื้นที่รอบข้างหลายร้อยตารางวา นับว่าเป็นบ้านเศรษฐีชื่อดังของจังหวัดสงขลาที่ไม่มีใครไม่รู้จักตระกูลอัครเมธา เช้าวันนี้เธอและคู่หมั้นจะออกเดินทางไปนครศรีธรรมราชเพื่อคุยเรื่องงาน ร่างสูงใหญ่กำยำยืนข้างอิงดาวทำหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อรู้ว่าปลิงที่เกาะแกะชีวิตของเขาจะตามไปด้วย ทศวรรษเบื่อแต่ก็ขัดมารดาไม่ได้ เมอร์เซเดสเบนซ์ทรงสปอร์ตคันหรูสีดำจอดรออยู่ เขาจะขับรถไปเอง อิงดาวส่งยิ้มเจื่อนให้คุณนายละมัยก่อนจะเงยหน้ามองคนข้าง ๆ ทศวรรษตวัดสายตาดุดันมองหนึ่งทีก่อนเขาจะเดินไปขึ้นรถยนต์
ร่างบอบบางในชุดเดรสกระโปรงยาวแขนปาดไหล่สีขาวรีบตามอีกฝ่ายไปนั่งเบาะข้างคนขับ ตุ๊กตาหน้ารถที่ไม่ค่อยถูกใจคนขับนัก ทำให้ทศวรรษเหยียบคันเร่งและขับออกจากรั้วบ้านหลังใหญ่ด้วยความเร็ว
อิงดาวนั่งลูบมือตัวเองบนตักเพราะทำตัวไม่ถูกระหว่างที่รถยนต์แล่นไปตามถนน ลอบมองใบหน้าด้านข้างของคนตัวสูง ก่อนจะถูกจับได้
“มองอะไร?”
“...!”
เสียงทุ้มกดต่ำอย่างน่ากลัว หญิงสาวรีบหันหน้ากลับไปมองถนนตรงหน้าแทน
“ป...เปล่าค่ะ”
ทศวรรษพ่นเสียงไม่พอใจขึ้นจมูก ก่อนมุมปากหยักจะยกยิ้มร้ายกาจเมื่อคิดบางอย่างออก มือหนาหยิบมือถือมากกดโทรออกหาใครบางคน ไม่นานปลายสายก็กดรับ เสียงในโทรศัพท์ของทศวรรษดังออกลำโพงของรถยนต์ที่เชื่อมบลูทูธเอาไว้
(พี่ทศ)
น้ำเสียงหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า แววตาของทศวรรษอ่อนลงเพียงเพราะได้ยินเสียงของคนที่เขารัก
“วันนี้แพรว่างไหม”
(แพรเหรอคะ ก็ว่างค่ะ พี่ทศมีอะไรเหรอ)
“นั่งรถเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ วันนี้พี่ต้องไปนคร นัดคุยงานกับลูกค้า”
(อ๋อ...)
“...”
(ได้สิคะ แพรเบื่อ ๆ อยู่พอดี)
“เดี๋ยวพี่ไปรับนะ”
(ค่ะพี่ทศ)
ติ๊ด
อิงดาวแหล่สายตามองทศวรรษพลางคิดในใจว่าอีกฝ่ายทำแบบนี้จงใจจะแกล้งเธอชัด ๆ นั่งรถเป็นเพื่อนงั้นเหรอ ทำอย่างกับเขามาคนเดียว แล้วเธอที่นั่งหัวโด่อยู่นี่ล่ะ
ถ้าเป็นอิงดาวคนเก่า เรื่องวุ่นวายคงเกิดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย แต่นี่คืออิงดาวคนใหม่ คนที่ไม่รู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนี้เลยสักนิดเดียว เธอหันมองนอกหน้าต่างนิ่ง ๆ ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ ส่งผลให้ทศวรรษขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขาเตรียมตัวฟาดฝีปากกับคู่หมั้นเต็มที่ เพราะถ้าเป็นอย่างที่เขาคิดไว้ อิงดาวจะต้องหันมาโวยวายเป็นคนบ้าไปแล้ว
แต่นี่เธอเงียบแถมยังนิ่งผิดปกติ ชายหนุ่มหมุนพวงมาลัยเปลี่ยนเส้นทางไปรับแพรไหม ผู้หญิงที่เขารัก อีกไม่ไกลก็ถึงอพาทเมนต์ของเธอ