Episode 2 | ขย่มให้เร็วกว่านี้ NC+

1303 คำ
หลายชั่วโมงต่อมา... เวลาล่วงเลยจนมาถึงช่วงเย็น ซึ่งเป็นเวลาสำหรับมื้ออาหารเย็นแล้ว ทว่าบนเตียงกว้างอันเป็นสนามรบขนาดย่อม ยามนี้กลับยังไม่สงบลง ร่างสูงกำยำ เรือนกายเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อเอนกายไปด้านหลัง โดยที่สองแขนค้ำยันกับฟูกนอน ดวงตาคมทอดมองคนที่กำลังควบขย่มบนกายตนพลางนึกชื่นชมเด็กสาวในใจ มะนาวเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ทว่ากลับมีส่วนอวบอิ่มเด่นชัด ทั้งหน้าอกอวบอัด สะโพกกลมเกลี้ยง อีกทั้งยังมีผิวขาวจัด หากแต่เขามักจะหงุดหงิดกับนิสัยอ่อนแอของเธอ โดนดุนิด ๆ หน่อย ๆ ก็น้ำตาคลอ จนบางครั้งเขาเองก็นึกรำคาญ เพียงแต่ยามอยู่บนเตียง ถึงในช่วงแรกเธอจะไม่เต็มใจ แต่พอถูกเขาเร้าเข้าหน่อยก็คล้อยตาม บางครั้งเธอต้องการมาก ๆ ก็จะขึ้นให้เขาเอง บางครั้งก็เอาใจเขา ถึงปากจะปฏิเสธ แต่ร่างกายกลับพร้อมตอบสนองเขาอยู่ตลอด ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขายังไม่เบื่อเธอ ทั้งที่ระยะเวลาที่เราสองคนเริ่มความสัมพันธ์ตลอดจนถึงปัจจุบันนั้น จะมากกว่าหนึ่งปีแล้วก็ตามที ชายหนุ่มบรรเลงบทรักมาตลอดช่วงบ่ายกับหญิงสาว ที่ถึงแม้เธอจะพร่ำบอกว่าไม่ไหวแล้ว ทว่ายามที่ถูกเขากระตุ้นเร้าเธอกลับร้อนแรงจนลืมสิ้นทั้งความอาย และความกลัว เขาปล่อยให้เธอควบขี่ตามความต้องการของเธอ จะขย่ม บด หรือร่อนเอว ล้วนแล้วแต่มาจากการพร่ำสอนของเขา ถึงทุกอย่างจะเป็นความต้องการของเขาเป็นส่วนใหญ่ก็ตามที “อ๊ะ ๆ อึก ลึกจัง อ๊า” มะนาวแหงนใบหน้าครวญครางเสียงหวาน สองมือจับยึดบ่ากว้างไว้มั่น ในขณะที่ช่วงล่างโยกขย่ม บดร่อนร่องรักขึ้นลงรัวเร็ว “ซี๊ดด เก่งขึ้นแล้วนี่” เขาเอ่ยชมพลางส่งมือไปช่วยประคองสะโพกกลมไว้ ภูวดลช่วยยกสะโพกนุ่มให้ควบขยับขึ้นลงเร็วขึ้น ก่อนฟาดฝ่ามือใส่ก้นนิ่มเบา ๆ จนถูกเธอกระตุกร่องตอดถี่ยิบ เขามองสบกับดวงตากลมโตที่ฉ่ำเยิ้มด้วยพิษใคร่ แล้วเคลื่อนใบหน้าเข้าหาหญิงสาว จวบจนริมฝีปากแนบชิดกัน ทว่า... ก๊อก ก๊อก ก๊อก! “คุณภูคะ ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วค่ะ” พลันเสียงเคาะประตูและตามมาด้วยเสียงพูดของแม่บ้านก็ดังขึ้น ใบหน้าหล่อชะงักค้าง เรียวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน อารมณ์ที่กำลังดีจากการได้รังแกหญิงสาวบนตัว ถูกกวนจนขุ่นมัวอีกครั้ง เขาถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด ก่อนตะโกนตอบกลับไป “เดี๋ยวฉันลงไปเอง ไม่ต้องให้ใครขึ้นมาตามอีก!” ซึ่งหลังจบคำก็ได้ยินเสียงตอบรับจากคนด้านนอก เมื่อจัดการปัญหาเสร็จชายหนุ่มก็หันมาสนใจหญิงสาวที่ยังคงขยับกายขึ้นลงอย่างเร่าร้อนอยู่บนตัวเขาต่อ “ขย่มเร็วอีก อื้ม! นั่นแหละ” เอ่ยสั่งเธอเสร็จก็ครางเสียงทุ้มด้วยความพอใจ เพราะเธอเป็นเด็กดีกว่าที่คาด สะโพกอิ่มบดร่อนขย่มเอ็นร้อนรัวแรง เมื่อความต้องการพุ่งสูงเจียนระเบิด มะนาวยิ่งขยับกายเร็วขึ้น จนเรือนผมที่ถูกปล่อยลงสยายไปทั่วแผ่นหลัง ใบหน้างามเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อพร่างพราว “อ๊ะ ๆ คุณภู อื้อ อะ...อ๊ายยยย!” และคล้ายว่าภูวดลเองก็ชักจะทนไม่ไหวแล้ว เขาดันร่างหญิงสาวลงนอนโดยที่ลำกายยังคงสอดประสานไว้ในร่องเธออยู่ เอวสอบตอกตรึงกายเข้าออกไม่ยั้งแรง มือหนาจับล็อกเอวคอดกิ่วไว้แน่น สอดกระแทกพลางหมุนคว้านลำเอ็นร้อนจนทั่วโพรงรัก เพียงไม่นานความต้องการของคนทั้งสองก็มาถึงสิ้นสุด ร่างเล็กเกร็งกระตุกอย่างแรงเพราะความเสียดเสียว และปลดปล่อยน้ำรักออกมาจนชุ่มฉ่ำ ไม่ต่างกับชายหนุ่มที่กระแทกเอ็นปลดปล่อยน้ำคาวเหนียวข้นเข้าไปในกายสาวอีกครั้ง จนท่วมทะลักเต็มท้องของมะนาวตามที่ใจเขาต้องการ ภูวดลถอดลำกายที่เริ่มอ่อนตัวลงออกมาจากร่องสาวช้า ๆ จนเมื่อไม่มีสิ่งใดปิดกั้น มวลน้ำรักขาวข้นของชายหนุ่ม ก็ไหลย้อนออกมาจากรูสวาทของหญิงสาว ไหลทะลักลงมาเปื้อนที่นอนเป็นวงกว้าง ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็อยากที่จะทำต่ออีก ทว่าวันนี้คงไม่ทันการ “จัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วเปลี่ยนผ้าปูเตียงด้วย” เขาเลือกที่จะเอ่ยบอกเธอเสียงเรียบ แล้วหันหลังเดินเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ ทิ้งให้คนตัวเล็กมองตามด้วยความจุกหน่วงกลางอก ดวงตากลมรื้นด้วยหยาดน้ำสีใสก่อนมันจะไหลลงมาเป็นทางยาว หากแต่ก็ต้องรีบยกหลังมือขึ้นเช็ดออกลวก ๆ เสียใจไปก็เท่านั้น เขาไม่เคยสนใจความรู้สึกของเธอเลยสักนิด แม้กระทั่งเรื่องที่ทำกันเป็นประจำ เขาก็เลือกให้เธอรับผิดชอบตัวเอง แทนการที่เขาจะป้องกัน ดวงตากลมมองบานประตูห้องน้ำด้วยหัวใจอันเจ็บปวด ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานเท่าไหร่ เธอก็ยังคงเป็นแค่ของเล่น เขาสนุกกับร่างกายเธอ หากแต่เธอกลับเจ็บปวดที่หัวใจ เธอชอบเขามาตลอด ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน เพียงแต่เธอไม่ได้บอกเขา ทว่าเสียใจได้ไม่นาน มะนาวก็ลุกขึ้นจัดการตัวเอง พร้อมกับจัดการเปลี่ยนผ้าปูเตียงให้เขาใหม่ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็เป็นเวลาเดียวกับที่ชายหนุ่มออกมาจากห้องน้ำ เขาใช้เวลาแต่งตัวไม่นาน คนทั้งสองจึงเดินตามกันออกจากห้องมาเงียบ ๆ ไร้ซึ่งบทสนทนาใดใด ระหว่างทางที่ทั้งสองเดินมาจากบันได พลันก็พบว่าร่างใหญ่ของผู้เป็นพ่อก็กำลังยืนรออยู่ที่พื้นด้านล่าง บริเวณหน้าบันได พร้อมทั้งกอดอกและจ้องมองมาด้วยแววตาคาดคั้น ทว่าภูวดลกลับไม่ได้แสดงสีหน้าใดใดออกมา ถึงขนาดที่ถ้าหากว่าภูมดิศักดิ์ไม่เอ่ยทักขึ้นก่อน คนเป็นลูกชายก็คงจะเดินเลยผ่านไปอย่างไม่สนใจเป็นแน่ทีเดียว และในจังหวะที่ภูวดลกำลังกึ่งลากกึ่งจูงมะนาวที่เดินช้าลง ให้เลยผ่านหน้าผู้เป็นพ่อไปนั้น พลันเสียงทุ้มทรงอำนาจของภูมดิศักดิ์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะเข้าพอดี “แกเรียกหนูมะนาวขึ้นไปทำไม” คำถามของคนเป็นนายใหญ่ของบ้านทำให้ภูวดลเองก็เริ่มมีท่าทีฉุนเฉียว เขามองผู้เป็นพ่อด้วยสายตานิ่ง ๆ ทั้งที่ภายในใจนั้นหงุดหงิดไม่น้อย ตั้งแต่มารดาของเขาจากไป ความสัมพันธ์ระหว่างตนและบิดาก็ห่างเหินกันมากขึ้น ยิ่งในยามที่ผู้เป็นพ่อแต่งงานใหม่กับหญิงสาวคราวลูก เขายิ่งไม่อยากมองหน้าพ่อของเขานัก และต่อมาหลังจากที่พ่อแต่งงานกับกชกรได้สี่ปี เขาก็ถูกบังคับให้แต่งงาน ซึ่งแน่นอนว่าเขาปฏิเสธ นั่นยิ่งสร้างรอยร้าวให้สองพ่อลูก ภูมดิศักดิ์มองว่าลูกชายตนถึงวัยสร้างครอบครัวแล้ว ตัวเขาก็แก่ตัวลงทุกวัน จึงอยากให้ลูกชายเพียงคนเดียวมีลูกมีเมีย ใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุข ไม่ใช่เอาแต่คั่วผู้หญิงไปทั่ว มั่วไม่ซ้ำหน้า เปลี่ยนไปมาอย่างกับเปลี่ยนเสื้อผ้า ทว่าไม่ว่าเขาจะพูดยังไง ลูกชายตัวดีก็เอาแต่ปฏิเสธ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม