จ้าวเจ๋อหยวนวันนี้เขากลับมาที่หมู่บ้านเหมือนทุกสิบห้าวันที่กลับมาครั้ง เมื่อมาถึงเรือนเขาก็ต้องขมวดคิ้ว เพราะในเรือนยังไม่ถูกจุดไฟ ยิ่งเข้ามาด้านในก็พบว่าราวกับเรือนร้างที่ไม่มีคนอยู่อาศัย
ภายในเรือนมีแต่ฝุ่นจับหนาไปหมด รอบเรือนหญ้าก็เริ่มรกเพราะไม่มีผู้ใดเก็บกวาด เหมือนเพิ่งจะคิดได้ว่าเขากับชิงหลิงหย่าขาดกันแล้ว นางคงกลับไปอยู่ที่เรือนของบิดามารดานาง
จ้าวเจ๋อหยวนจึงเข้าไปเก็บกวาดห้องของเขาเพื่อให้นอนพักได้ในคืนนี้ เมื่อทำเสร็จเรียบร้อย จึงคิดที่จะไปหาบุตรชายที่เรือนตระกูลโจว
“พี่หยวน ท่านกลับมาเมื่อใดเจ้าคะ” ระหว่างทางเขาพบซูซิน
“เพิ่งกลับมาถึง เจ้าเล่าจะไปที่ใด” จ้าวเจ๋อหยวนในตอนแรกที่พบซูซินก็อดที่จะยินดีมิได้ แต่เมื่อนึกเรื่องนางกับคุณชายหานได้เขาก็เว้นระยะห่างจากนาง
ซูซินเห็นความผิดปกติของเขาเช่นกัน แต่นางกลับเดินเข้ามาใกล้เขาแล้วพูดคุยอย่างสนิทสนมเช่นเดิม
ชาวบ้านที่กำลังกลับเรือนก็มองมาที่ทั้งคู่ จ้าวเจ๋อหยวนเห็นเช่นนั้นจึงคิดจะขอตัว เพื่อไม่ได้นางเสื่อมเสียชื่อเสียง
“ประเดี๋ยวก่อน พี่หยวนท่านจะไปที่ใด”
“ข้าจะไปหาอาเยี่ยน” เขาเอ่ยตอบตามความจริง
“เช่นนั้นข้าไปด้วยเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้อาเยี่ยนนานแล้ว” ซูซินยิ้มหวานให้จ้าวเจ๋อหยวนแล้วทั้งคู่ก็เดินไปที่เรือนของตระกูลโจว
ภายในเรือนตระกูลโจว ทุกคนกำลังนั่งกินข้าวอยู่ก็มีเสียงร้องเรียกอยู่ที่หน้าเรือน
“ข้าไปดูเองขอรับ” โจวเทียนลุกขึ้นเพื่อไปเปิดประตูเรือน
“พวกท่านมาทำไม” เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใดที่มา โจวเทียนก็มีสีหน้าที่เคร่งเครียดขึ้น
“ข้ามาหาอาเยี่ยน เจ้าไปพาตัวเขามาให้ข้าก็พบ” จ้าวเจ๋อหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เช่นนั้นท่านก็รู้สักครู่ อาเยี่ยนกำลังกินข้าวอยู่”
โจวเทียนกำลังจะปิดประตูเรือน เขาไม่แม้แต่จะชวนทั้งคู่เข้ามาในเรือน
“ไม่คิดจะให้ข้ากับพี่หยวนเข้าไปรอด้านในหรือ” ซูซินเดินขึ้นมาอยู่ด้านหน้าแล้วเอ่ยถามโจวเทียน
“เหตุใด ข้าถึงต้องให้พวกท่านเข้าเรือนของข้าด้วยเล่า” เขายิ้มมุมปากมองทั้งคู่
โจวเทียนไปสนใบหน้าของซูซินที่ลืมจะบิดเบี้ยว เขาปิดประตูเรือนทันที แล้วกลับเข้าไปกินอาหารตามเดิม
“ผู้ใดมา” อู๋หลางเอ่ยถามบุตรชายอย่างสงสัย
“จ้าวเจ๋อหยวนกับกัวซูซินขอรับ” เขาเอ่ยเรียกทั้งสองด้วยนามเต็ม ราวกับไม่สนิทกับคนทั้งคู่
“ท่านพ่อ ข้าให้เขามาพบอาเยี่ยนได้เช่นเดิมเจ้าค่ะ”
ชิงหลิงร้องห้ามบิดาที่กำลังจะลุกขึ้นไปไล่จ้าวเจ๋อหยวนที่หน้าเรือน
“เพ้ย เจ้าลูกเต่า ยังกล้ามาที่เรือนของข้าอีกหรือ” เขาสบถออกมาอย่างหัวเสีย
“ช่างเถิดเจ้าค่ะ อาเยี่ยนคืนนี้เจ้าไปนอนกับท่านพ่อเข้าใจหรือไม่” ชิงหลิงลูบหัวบุตรชาย
“ขอรับ” จ้าวเยี่ยนเงยหน้ามองมารดาด้วยดวงตากลมโต ก่อนจะพยักหน้ารับ
“เด็กดี อิ่มแล้วใช่หรือไม่ ไป แม่พอไปส่ง”
“ท่านพ่อ ท่านแม่ เช่นนั้นข้ากลับเรือนเลยนะเจ้าคะ” เพราะนางต้องกลับไปจัดการข้าวของที่ยังไม่ได้เก็บในเรือนอีก
“ไปเถิด” จงเยว่มองตามหลังของบุตรสาวไปอย่างเป็นห่วง
ชิงหลิงเมื่อเปิดประตูเรือนออกมาก็เห็นทั้งสองกำลังพูดคุยกันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม นางอดจะสงสารเจ้าของร่างเดิมไม่ได้ เพราะนางไม่เคยได้เห็นรอยยิ้มเช่นนี้ของจ้าวเจ๋อหยวนเลย
“ไปหาพ่อเจ้าอาเยี่ยน” ชิงหลิงส่งบุตรชายให้จ้าวเจ๋อหยวนแล้วนางก็หันหลังเดินกลับเรือนไป
“จะรีบไปที่ใดเล่า ข้ายังไม่ได้พูดคุยกับเจ้าเลย” ซูซินเอ่ยเรียกเสียงหวาน
ชิงหลิงหันมาก็เห็นใบหน้าของนางที่กำลังมองมาอย่างเยาะเย้ย
“เก็บสีหน้าของเจ้าเสียหน่อย หากผู้ใดเห็นเข้าจะคิดว่าเจ้ายินดีจนตัวสั่นที่คนรักเก่าหย่าเมียแล้ว” ชิงหลิงยกยิ้มที่มุมปาก
วาจาของสตรียุคนี้จะสู้ยุคนางได้อย่างไร
“เจ้าพูดกับซินเออร์เช่นนี้ได้อย่างไร”
“เจ้าก็หุบปากด้วย ข้ากับเจ้าไม่ได้เป็นอันใดกันแล้ว ข้าจะพูดกับผู้ใดเช่นไร เจ้าก็อย่าได้มาสอด” ชิงหลิงเลิกคิ้วมองเจ๋อหยวนอย่างยียวน
“อาเยี่ยน เป็นเด็กดีนะลูก” นางโบกมือให้อาเยี่ยนก่อนจะเดินกลับเรือนโดยไม่สนใจทั้งคู่อีก
จ้าวเจ๋อหยวนมองแผ่นหลังของนางที่เดินไปอย่างประหลาดใจ ชิงหลิงที่เขารู้จักนางไม่เคยพูดเช่นนี้กับเขามาก่อน
อีกอย่างหากนางได้เห็นเขาอยู่กับซูซินเช่นนี้นางคงได้อาละวาดไปแล้วแต่นี่นางกับไม่มีท่าทีหึงหวงอย่างที่เคยจะเป็น
ที่เขายอมให้ซูซินมาที่เรือนตระกูลโจวด้วยก็เพื่ออยากรู้ว่าเรื่องหย่าของนางเป็นเพียงเรื่องที่นางแสดงงิ้วให้เขาดูหรือไม่
หนังสือหย่าของเขากับนางก็ยังไม่ได้ไปจัดการที่ที่ว่าการ เพราะถึงอย่างไรตัวนางก็ต้องมาอ้อนวอนเขาอยู่ดี แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจ้าวเจ๋อหยวนจะคิดผิดเสียแล้ว
“ซูซินเจ้ากลับเรือนไปเถิด” เมื่อไม่มีชิงหลิงอยู่คำเรียกขานที่เขาใช้กับซูซินก็เปลี่ยนไป
จ้าวเจ๋อหยวนอุ้มบุตรชายขึ้นแนบอก แล้วพากันเดินกลับเรือน
ซูซินยืนนิ่งอยู่กับที่ นางมองตามหลังของจ้าวเจ๋อหยวนไปอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ว่าเขาจะเปลี่ยนท่าทางไปจากนางเช่นนี้
ซูซินนางยังคงไม่ยอม วิ่งตามจ้าวเจ๋อหยวนไปอีกครั้ง
“พี่หยวนท่านรอข้าก่อน”
“ซูซิน เจ้าอย่าลืมว่าเจ้ากำลังจะหมั้นกับคุณชายหาน” จ้าวเจ๋อหยวนมองนางด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
“เมื่อครู่ท่านยังพูดคุยกับข้าอยู่ดีๆ เลยเจ้าค่ะ” นางเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
“แต่ต่อจากนี้ไม่ใช่แล้ว เจ้ากำลังจะหมั้นหมาย เจ้าจะเสียหายได้” จ้าวเจ๋อหยวนเดินกลับเรือนโดยไม่ได้หันมามองซูซินที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
“อาเยี่ยนเจ้าตัวหนักขึ้นหรือนี่”
“ท่านแม่ให้ข้าดื่มนมแพะทุกวันขอรับ”