จ้าวเจ๋อหยวนมองบุตรชายที่อยู่ในอ้อมแขนอย่างแปลกใจ เพราะเขาพูดคุยรู้เรื่องขึ้นเยอะ อีกอย่างเนื้อตัวก็แน่นขึ้นไม่ผอมแห้งเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
“เช่นนั้นหรือ”
“ท่านพ่อ ข้าอยากกลับไปนอนกับท่านแม่ ท่านแม่นอนผู้เดียวน่าสงสาร” อาเยี่ยนคิดถึงมารดาของเขา
จ้าวเจ๋อหยวนขมวดคิ้วคิด นางอยู่ที่เรือนบิดามารดา เหตุใดบุตรชายถึงบอกว่านางอยู่คนเดียว
“ไม่ต้องห่วงท่านแม่ของเจ้า นางอยู่กับท่านตา ท่านยาย ยังมีท่านน้าของเจ้าอยู่ด้วย”
“ไม่ใช่ขอรับ ข้ากับท่านแม่อยู่ที่เรือนหลังใหม่” จ้าวเยี่ยนโบกมือน้อยๆ ของเขาปฏิเสธบิดา
“อาเยี่ยนไม่คิดถึงพ่อหรือ ไม่อยากนอนกับพ่อแล้วรึ”
“อยากขอรับ แต่ข้าก็อยากนอนกับท่านแม่ด้วย” จ้าวเยี่ยนก้มหน้าซบอกของบิดา แล้วเอ่ยพูดเสียงเบา
จ้าวเจ๋อหยวนถอนหายใจก่อนจะพาบุตรชายล้างหน้าล้างตาแล้วเข้าห้องนอน
“ท่านพ่อ ไม่อาบน้ำให้ข้าหรือขอรับ” จ้าวเยี่ยนเอ่ยถามบิดาอย่างสงสัย
เพราะมารดาอาบน้ำให้เขาวันละสองครั้ง ตอนเช้ากับก่อนเข้านอน
“หนาวเพียงนี้หากอาบให้เจ้าก็เป็นไข้กันพอดี”
“ท่านแม่ต้มน้ำให้ข้าขอรับ”
จ้าวเยียนยังมองบิดาด้วยดวงตากลมโตไร้เดียงสา
จ้าวเจ๋อหยวนไม่รู้จะทำเช่นไร เขาจึงต้องจุดไฟเพื่อต้มอาบให้บุตรชายอาบ
เขาคิดไม่ถึงว่าชิงหลิงนางจะเปลี่ยนไปมากถึงเพียง จากที่เขารู้มา นางจะอาบน้ำสามวันครั้งกับจ้าวเยี่ยนก็เช่นกัน แต่ตอนนี้บุตรชายบอกว่านางอาบน้ำตนเองและบุตรชายวันละสองครั้ง เขาแทบไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง
“เล่านิทานให้ข้าฟังด้วยขอรับ”
จ้าวเยี่ยนมองบิดาด้วยแววตารอคอย แต่เจ๋อหยวนเขา ไม่เข้าใจ สิ่งใดคือนิทาน
“ข้าอยากนอนกับท่านแม่ ข้าอยากฟังนิทาน”
จ้าวเยี่ยนเริ่มงอแง เมื่อก่อนไม่ว่าเรื่องใด ท่านพ่อมักจะฉลาดกว่าท่านแม่เสมอ แต่วันนี้ท่านพ่อกลับไม่รู้จักนิทาน
“พรุ่งนี้ค่อยฟังดีหรือไม่” จ้าวเจ๋อหยวนลูบหลังปลอบบุตรชาย ให้เขานอนเช่นทุกครั้งหากเขาทำเช่นนี้จ้าวเยี่ยนก็จะหลับโดยง่าย แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้ จ้าวเยี่ยนเริ่มร้องไห้ แม้จะปลอบหรือหลอกล้อเช่นใด เขาก็ไม่ยอมหยุด
“หยุดร้องได้แล้ว พ่อจะพาเจ้าไปหาท่านแม่” จ้าวเจ๋อหยวนคงเป็นเพราะเขาอยู่กับบุตรชายน้อยเกินไป พอกลับมาหมู่บ้านครั้งนี้บุตรชายเหมือนจะไม่ต้องการเขา
จ้าวเยี่ยนแม้ดวงตาใกล้จะปิดจากการที่เขาวิ่งเล่นมาทั้งวัน แต่ก็ยอมถ่างตาไว้สุดกำลังจนมาถึงเรือนหลังใหม่ของมารดา
เจ๋อหยวนในตอนแรกเขาจะพาบุตรชายไปส่งที่เรือนตระกูลโจว แต่บุตรชายกับบอกให้เขาเดินมาอีกทาง
ชิงหลิงที่เพิ่งจะเก็บของเสร็จนางยังไม่ทันได้อาบน้ำ เสียงเคาะประตูเรือนก็ดังขึ้น
ดึกป่านนี้แล้วผู้ใดยังมาหานางที่เรือนอีก ชิงหลิงนางเดินไปเปิดประตู
“อ้าว เหตุใดถึงมาป่านนี้เล่า” เมื่อเห็นว่าคนที่มาคือสองพ่อลูก นางก็อดแปลกใจไม่ได้
ยิ่งเห็นใบหน้าของจ้าวเยี่ยนมีน้ำตาคลออยู่ด้วยนางก็ถึงกับขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ เพราะหลังจากที่แยกกับเจ๋อหยวนและซูซินแล้วนางไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นบุตรชายของนางจึงร่ำไห้เช่นนี้
“อาเยี่ยนมาหาแม่ จ้าวเจ๋อหยวน เรื่องของเจ้ากับซูซินข้าไม่อยากจะยุ่ง แต่หากเจ้าทำให้อาเยี่ยนต้องเสียใจเช่นนี้ คราวหลังอย่าพาเขาไปจะดีกว่า”
“หึ เรื่องนี้เกี่ยวอันใดกับซินเออร์” เขาเอ่ยถามนางอย่างยียวน เป็นเพราะนางคงคิดว่าเขาอยู่กับซูซินตลอดเวลาจนละเลยบุตรชายกระมัง
“ส่งอาเยี่ยนมา ข้าไม่อยากจะสนทนากับท่านแล้ว” ชิงหลิงเป็นห่วงบุตรชายที่ตอนนี้เขามองมาที่นางอย่างน่าสงสาร
“อาเยี่ยนอาบน้ำแล้ว เจ้าคงยังไม่อาบสิท่า ไปอาบน้ำเสียก่อน ข้าจะดูอาเยี่ยนให้เจ้า ไม่เช่นนั้นกลิ่นเหม็นของเจ้าจะมาติดตัวเขาได้”
ชิงหลิงหลับตาลง เพื่อสงบอารมณ์ไม่ให้ตะโกนใส่หน้าเขาในยามนี้ หากเป็นเมื่อตอนที่นางอยู่ภพก่อน แม้แต่ตื่นนอนกลิ่นกายของนางก็ยังหอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นน้ำหอม
จ้าวเจ๋อหยวนไม่สนใจท่าทีของชิงหลิง เขาถือวิสาสะเดินเข้าไปในเรือนของนางทันที แล้วเอ่ยถามอาเยี่ยนว่าพักอยู่ที่ห้องใด
ชิงหลิงอ้าปากค้างมองคนหน้าหนาเดินเข้าไปในห้องของนาง ก่อนที่นางจะปิดประตูเรือน แล้วรีบไปอาบน้ำเพื่อไล่เขากลับไปเสียที
ชิงหลินนางว่าวันนี้นางอาบน้ำเร็วที่สุดตั้งแต่นางอยู่มาสองภพแล้ว แต่เมื่อเข้ามาในห้อง สองพ่อลูกนอนกอดกันหลับไปแล้วบนที่นอนของนาง
ชิงหลิงปล่อยมือทิ้งข้างตัวอย่างหมดแรง เช่นนั้นนางจะเร่งรีบเพื่ออาบน้ำทำไมเล่า
“เจ๋อหยวน ท่านกลับเรือนได้แล้ว” นางเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียงแล้วเขย่าตัวของเขา
นางไม่รู้ว่าเขาเพลียจากการเดินทางกลับหมู่บ้านหรือเขากำลังกลั่นแกล้งนางอยู่กันแน่ เพราะนางเขย่าตัวเรียกเขา เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น
ชิงหลิงทิ้งตัวนั่งลงที่พื้นอย่างเหนื่อยหอบ หากเขานอนที่ของนางแล้วนางจะไปนอนที่ใดเล่า เครื่องนอนอีกชุดนางก็เพิ่งซักตากไปเมื่อวันนี้เอง
จ้าวเจ๋อหยวนไม่ได้กลั่นแกล้งนางอย่างที่นางคิด เขาเหนื่อยจากงานที่ทำแล้วยังต้องเร่งเดินทางกลับหมู่บ้านก่อนตะวันจะตกดินอีก เมื่อเจอที่นอนหอมกรุ่นของแดดอ่อนๆ ไม่เหม็นอับอย่างที่เรือนของตน เขาจึงเผลอหลับไปพร้อมกับบุตรชาย
ชิงหลิงที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันก็ไม่อาจจะทนต่อหนังตาที่จะปิดลงมาไหว นางถีบไปที่จ้าวเจ๋อหยวนอย่างหมั่นไส้ทีหนึ่งก่อนจะเดินไปนอนอีกฝั่งข้าวจ้าวเยี่ยน
ยังดีที่เตียงนอนมีขนาดใหญ่ ต่อให้นอนด้วยกันสามคนก็ยังไม่ถึงกับนอนลำบาก ไม่นานชิงหลิงนางก็หลับไปอย่างรวดเร็ว จ้าวเยี่ยนเมื่อรู้มามารดาขึ้นมาอยู่บนเตียงแล้ว
เขาก็พลิกตัวกลับเข้ามาซบอกของมารดาเพื่อหาไออุ่นแล้วหลับไป