ตอนที่ 1 รักแรกพบ

1771 Words
"ตันตันเอากระเป๋ามึงมานี่กูถือให้" ตันตันเป็นชื่อเรียกของผมและคนที่เรียกก็ไม่ใช่ใครที่ไหน มันเป็นเพื่อนรักของผมเอง ชื่อไอ้ธีม มันตามผมมาเรียนถึงกรุงเทพทั้งที่ผมกับมันยังไม่เคยเข้าเมืองใหญ่ๆ แบบนี้มาก่อน จากสายตามันที่มองผมมันคงเห็นผมถือของพะรุงพะรังเลยจะอาสาช่วยถือกระเป๋านักศึกษาของผมอีกใบ "ขอบใจมึงนะธีม ที่ตามกูมาเรียนถึงกรุงเทพจากเพื่อนในห้องเกือบ 40 คน ก็มีมึงกับไอ้เคนี่แหละที่ตามกูมาเรียนถึงที่นี่" ผมมักจะเรียกมันสั้นๆ ว่าไอ้ธีมแบบนี้แหละครับ "มึงสองคนจะมาระลึกชาติอะไรกันตอนนี้วะรีบเดินหาตึกคณะเถอะ ใกล้เวลาจะรับน้องแล้วนะเว้ยเดี๋ยวก็โดนรุ่นพี่เล่นงานเอาหรอก" นี่แหละครับไอ้เค มันพูดแทรกระหว่างผมกับไอ้ธีมเปรียบเหมือนเป็นเสียงระฆังพักยกของเราสองคนเพื่อให้กลับมามีสติกับการเดินตามหาตึกคณะที่พวกเราจะต้องไปร่วมกิจกรรมรับน้องให้ทันตามตารางของคณะ ไม่อย่างนั้นพวกผมคงจะโดนลงโทษอย่างที่ไอ้เคมันพูดไว้แน่ๆ พวกผมสามคนเดินตามหาตึกคณะที่กำลังมีการทำกิจกรรมรับน้องโดยผมกับไอ้ธีมเราสองคนเรียนเอกและสาขาเดียวกันนั่นก็คือวิทยาการคอมพิวเตอร์แต่ไอ้เคมันอยากจะเป็นอบต.แถวบ้านมั้ง มันเลยเลือกเรียนการเมืองการปกครองคนเดียว เสียงกลองเคล้าเสียงเพลงประจำคณะดังสนั่นหวั่นไหวแทบทุกตึก ขณะที่ผมกับเพื่อนอีกสองคนกำลังเดินตามหาตึกคณะของตนเอง ในที่สุดไอ้เคก็เจอคณะของมันก่อนพวกผมจึงแยกไปร่วมกิจกรรมที่คณะของมันจัดขึ้น "เฮ้ยไอ้ตันตันเดี๋ยวกูไปทำกิจกรรมก่อนนะเว้ย กูไปไม่นานหรอก มึงน่ะอย่าคิดถึงกูนะอย่างน้อยก็ยังมีไอ้ธีมอยู่ข้างๆ มึงแทนกูอยู่" ผมชักจะไม่เข้าใจคำพูดของไอ้เคสักเท่าไหร่มันกำลังพูดถึงอะไรกันแน่หรือมว่ามันนกำลังกวนตีนผมอยู่ "มึงจะพูดอีกนานไหมเดี๋ยวรุ่นพี่ก็เล่นมึงหรอกไปร่วมกิจกรรมได้แล้วเว้ย" ผมได้ยินเสียงไอ้ธีมด่าไล่หลังไอ้เคไปแต่ผมก็แอบเห็นสายตาที่มันแสดงออกถึงความไม่พอใจไอ้ธีมที่มันพูดประโยคเมื่อกี้ออกมา หากฟังดีๆ จะรู้สึกตะหงิดๆ ก่อนที่ไอ้เคจะเดินจากไปก็ถูกไอ้ธีมกอดคอดึงไปที่มุมๆ หนึ่งข้างทางเดิน… "มึงอย่าปากมากนะไอ้เคไม่งั้นกูต่อยปากมึงแน่" "มึงชอบมันทำไมไม่บอกมันไปวะธีม มึงอย่าลืมนะเว้ยนี่มันมหาลัยนะ ถ้าวันหนึ่งมันเกิดไปชอบใครขึ้นมาแล้วมึงก็จะกลายเป็นหมาหัวเน่าแน่ เชื่อกู!" "กูจะบอกหรือไม่บอกมันก็เรื่องของกูป้ะวะ ขอให้กูได้ชอบมันแค่นี้กูก็มีความสุขละว่ะ" "ขอให้คำพูดของมึงตรงกับใจมึงเถอะ มึงอย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกันที่มึงไม่ได้บอกรักมัน ถ้าถึงวันนั้นนะกูจะเป็นคนซ้ำเติมมึงเป็นคนแรกเลยหรือว่ามึงรับสภาพมันตอนนี้ไม่ได้ ที่มันทั้งอ้วนดำ สิวเต็มหน้า ใส่แว่นหนาเตอะ ทำตัวงุ่มง่ามซุ่มซ่าม ใส่เสื้อผ้าตกเทรนแบบนี้ ใช่ป้ะวะ?" "ไม่ใช่นะเว้ยถ้ากูมองมันแค่นั้นนะกูจะชอบมันทำไมวะ ก็มีแต่มึงกะกูแค่นี้แหละที่รู้ว่ากูชอบไอ้ตันตันมันมากแค่ไหน คนอื่นจะมองยังไงกูไม่สนเว้ย กูขอแค่ได้อยู่กับมันแค่นี้กูก็มีความสุขมากแล้ว ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว เปลือกนอกไม่สำคัญเท่าจิตใจของมันหรอกนะจะบอกให้..." "เออๆ กูขอโทษกูก็แค่จะแซวมึงเล่นเท่านั้นแหละมึงอะจริงจังไปได้ว่ะ" ผมยืนมองมันคุยกันสองคนที่มีท่าทีเถียงกันไปเถียงกันมาสักครู่แล้วผมก็ต้องตกใจเมื่อมีเสียงใครคนหนึ่งตะโกนอยู่ข้างหลังผม "ทะเลาะอะไรกันน่ะ" เสียงนั้นดังเต็มสองรูหูของผม ไอ้เพื่อนสองคนของผมก็พลอยตกใจและรีบวิ่งเข้ามาหาผมอย่างเร็ว "งานเข้าแล้วมึง" ไอ้เคอุทานออกมาด้วยความตกใจ "ใช่พวกน้องงานเข้าแน่ ถ้าไม่รีบบอกพี่ว่าชื่ออะไรกันบ้าง?" เสียงเพราะจังวะมันต่างจากเสียงตะโกนถามพวกผมเมื่อกี้มาก จนผมอดที่จะเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงเสียไม่ได้ ทันทีที่สายตาทั้งสองข้างของผมสบตาเข้ากับใบหน้าของคนตรงหน้า ผมแทบจะเข่าอ่อนทรุดนั่งลงกับพื้นเพราะตั้งแต่ที่ผมเกิดมาไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนที่หล่อตรงสเปกขนาดนี้มาก่อนเลย ผมมีสภาพคล้ายคนหมดแรงไปทันทีโดยมีเพื่อนสองคนช่วยประคองเพื่อไม่ให้ตัวผมล้มลงไปกับพื้นตัวหนอนบริเวณทางเดินนั้น "ตันตันมึงเป็นอะไรวะค่อยๆ นั่งนะเว้ย!" ไอ้ธีมร้องถามผมอย่างตกใจก่อนที่มันจะลงไปนั่งกับพื้นแล้วยกหัวของผมหนุนตักมัน แล้วมีไอ้เคคอยใช้ซองพลาสติกใส่เอกสารพัดตัวผมอีกแรง "ตกลงพวกน้องชื่ออะไรกันบ้างเนี่ยพี่จะได้รีบไป..." "พี่ไม่เห็นหรือครับว่าเพื่อนผมกำลังเป็นลมหมดสติ แทนที่พี่จะช่วยเพราะเป็นถึงรุ่นพี่แต่นี่อะไรจะถามเอาแต่ชื่อถ้าพี่จะไปก็ไปเลยครับ" รุ่นพี่สุดหล่อของผมถึงกับหน้า เหวอพูดอะไรไม่ออก ในขณะเดียวกันก็มีนักศึกษานับสิบชีวิตยืนมุงดูพวกเราเป็นตาเดียวพร้อมกับสลับไปมองรุ่นพี่คนนั้นด้วยความสงสัย "ตันตันมึงจะต้องไม่เป็นอะไรนะ เดี๋ยวพวกกูพามึงไปห้องพยาบาลเอง... ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าห้องพยาบาลของมหาวิทยาลัยไปทางไหนครับ เพื่อนผมเป็นลมหมดสติครับ" สักพักหนึ่งก็มีรุ่นพี่ผู้ชายอีกสองสามคนเข้ามาช่วยไอ้ธีมและไอ้เคพยุงผมไปที่ห้องพยาบาลแต่รุ่นพี่คนนั้นก็เดินมาขวางทางพวกเรา "เดี๋ยวก่อนสิ!" "พี่ยังต้องการอะไรอีกครับจะรอให้เพื่อนผมตายก่อนใช่ไหมถึงจะหลีกทางให้" ก็เป็นไอ้ธีมคนเดิมอีกแหละครับที่เหวี่ยงใส่รุ่นพี่สุดหล่อของผม "เปล่า! คือพี่ขอโทษ พี่จะช่วยพาเพื่อนของน้องไปห้องพยาบาลเอง" ทันทีที่รุ่นพี่สุดหล่อของผมพูดจบเขาก็เดินเข้ามาแทรกระหว่างผมกับไอ้ธีมโดยจับแขนของผมไปกอดคอเขาแล้วแขนของเขาก็เอื้อมมากอดเอวผม ก็คงกอดไม่ถึงเพราะขนาดตัวที่ค่อนข้างใหญ่ของผมแต่เขาก็พยายามช่วยพยุงผมไปจนถึงห้องพยาบาลจนสำเร็จ ระหว่างทางเดินไปห้องพยาบาลผมใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสโดยการพิงศีรษะลงไปซบที่ไหล่ของรุ่นพี่สุดหล่ออย่างตั้งใจ ผู้ชายอะไรทำไมกลิ่นตัวหอมจัง ไหล่ก็นุ่ม ขณะนั้นผมก็ได้ยินนักศึกษาสองข้างทางคุยกันถึงรุ่นพี่สุดหล่อของผมโดยจับใจความสำคัญได้ว่าพี่เขาเป็นถึงเดือนคณะนิเทศศาสตร์ ที่มีความน่ารัก นิสัยดี อัธยาศัยดีเป็นมิตรกับทุกคนแต่คำพูดก่อนหน้านี้ล่ะวะมันคืออะไร กับสิ่งที่ผมได้สัมผัสอยู่ในตอนนี้คำพูดก่อนหน้านั้นคงไม่สำคัญอะไรอีกแล้วล่ะเพราะผมกำลังเสพสุขกับความหล่อของรุ่นพี่ กลับมีสายตาของไอ้เพื่อนเลิฟอย่างไอ้ธีมคอยจับจ้องผมแทบจะไม่กระพริบตา ในเวลานั้นผมไม่สนใจอะไรแล้วล่ะครับ ผมเพิ่งรู้ตัวเองว่าไอ้ตันตันที่ทุกคนเรียกขานกำลังเจอรักแรกพบเสียแล้ว ผู้ชายอะไรน่ารักเป็นบ้าเลยว่ะ จนกระทั่งรุ่นพี่สุดหล่อพร้อมไอ้เคพยุงผมมาถึงเตียงที่ห้องพยาบาลของมหาลัยก็ยังถูกสายตาของนักศึกษามุงดูอยู่ด้านนอกห้องพยาบาลมากมาย ภาพที่ผมเห็นตอนนี้ผมนึกถึงที่บ้านต่างจังหวัดของผม เวลาเขาจะมีงานเลี้ยงอะไรก็ตามเขาก็จะเอาหมูมาเชือดเพื่อทำอาหารแล้วก็มีเด็กๆ มาดูหมูถูกเชือดอย่างไรอย่างนั้นเลย ผมรีบดึงความรู้สึกนั้นให้กลับมาเพื่อให้หัวใจได้มีความสุขกับภาพผู้ชายตรงหน้าที่ในขณะนี้รุ่นพี่สุดหล่อของผมเขายังคงนั่งอยู่ที่เตียงเดียวกันกับผมไม่ห่างพร้อมกับใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ มาเช็ดตามเนื้อตามตัวให้ผม หัวใจของผมเต้นแรงเลือดลมสูบฉีดเกินปกติอาการเหล่านั้นมันทำให้ผมหายใจไม่ออกแล้วรู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมากะทันหัน จนอาจารย์ที่ดูแลห้องพยาบาลรีบบอกให้รุ่นพี่สุดหล่อของผมทำการผายปอดให้ผมโดยด่วนเพราะไม่อย่างนั้นผมอาจจะหมดสติแล้วต้องส่งโรงพยาบาลอย่างแน่นอน ทันทีที่รุ่นพี่สุดหล่อได้ฟังคำกำชับของอาจารย์สาว เขาก็ไม่รังเกียจที่จะใช้ริมฝีปากของเขาเข้ามาประกบปากผมทันทีเพื่อผายปอด ความรู้สึกของผมเตลิดเปิดเปิงไปถึงไหนต่อไหนกับความสุขที่ได้รับจากผู้ชายคนที่ผมชอบ แม้จะเป็นรักแรกพบของผมมันก็สร้างความสุขให้ผมได้ไม่น้อยกับการได้จุมพิตกับริมฝีปากของเขาจนผมไม่อยากสูญเสียเวลานี้ไปเลยแม้แต่วินาทีเดียวแต่ทุกปฏิบัติการของรุ่นพี่สุดหล่อที่ทำกับผมก็ยังคงมีสายตาของเพื่อนเลิฟคอยมองด้วยความไม่พอใจอยู่ตลอดเวลาแล้วผมก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD