เวลาต่อมา
พรึบ
"เสร็จสักที"
ฉันถอนหายใจเสียงดังหลังเอาถุงขยะใบสุดท้ายออกมาทิ้ง ตอนนี้เคลียร์งานเสร็จแล้วทุกห้อง เหลือแค่ส่งงานให้ไตรทศเท่านั้น ฉันถอดถุงมือทำความสะอาดทิ้ง และไปล้างไม้ล้างมือให้สะอาดเรียบร้อย
"เฮ้อ.."
มันอดจะถอนหายใจอีกครั้งไม่ได้ พอนึกถึงตอนที่ทำความสะอาดที่จุดต่างๆในห้องของไตรทศมันน่าอึดอัดมาก เพราะเจ้าของห้องเอาแต่นั่งมองฉันไม่วางตา ถ้าฉันทำความสะอาดในรัศมีที่สายตาเขาไปถึงฉันจะรู้ได้ทันทีว่าตัวเองกำลังโดนจ้องมองอยู่
พรึบ
หลังจากจัดการกับความน่าอึดอัดใจได้ฉันก็เดินกลับมาที่กระเป๋าตัวเองเพื่อหยิบเอกสารออกมาให้ไตรทศเซ็น
"ขออนุญาตค่ะ"
ไตรทศที่กำลังนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่นหันมามองฉันด้วยความสงสัย ตอนนี้เขากำลังกินข้าวอยู่ แต่มันเป็นอาหารเวฟแทบจะทั้งหมดเลย...จนถึงตอนนี้เขาก็ยังทำข้าวกินเองไม่เป็นสินะ...แต่นั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องของฉัน เลิกสนใจเขาแล้วทำงานตัวเองให้เสร็จ จะได้รีบไปจากที่นี่สักที
"ตอนนี้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณไตรทศเซ็นรับรองในเอกสารให้ด้วยนะคะ"
"หือ...เสร็จเร็วจัง ไหนว่าสามชั่วโมงนี่มันเพิ่งจะสองชั่วโมงเองนะ"
"อีกยี่สิบนาทีจะสามชั่วโมงแล้วค่ะ อีกอย่างห้องคุณไตรทศไม่ได้สกปรกมากทำความสะอาดแป๊บเดียวก็เรียบร้อยแล้วค่ะ"
"อ่า...นั่นสินะ ห้องเรามันสะอาดอยู่แล้วสินะ ถึงว่าเราไม่รู้สึกว่ามันสะอาดขึ้นเลย"
ฉันขมวดคิ้วมองไตรทศทันทีหลังเขาพูดออกมาแบบนั้น ท่าทีของฉันมันทำให้เขาหัวเราะขำก่อนจะหยิบกระดาษไปเซ็นให้
"เวลาโมโหหน้าเหมือนแมวเวลาขู่อ่ะ"
ไตรทศเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มก่อนเขาจะยื่นกระดาษกลับมาให้พร้อมกับเลิกคิ้วมองฉัน
"เหลือเวลาอีกเป็นสิบนาที เพราะงั้นตอนนี้ยังเป็นเวลาของเราอยู่ถูกไหม?"
ฉันมองไตรทศด้วยความสงสัยก่อนเขาจะขยับลุกขึ้นมายืนตรงหน้าทำเอาฉันผงะจนเผลอถอยหลัง แต่ไตรทศกลับรั้งเอาไว้ด้วยท่อนแขนอันแข็งแรงของเขาก่อนจะใช้ท่อนแขนดันฉันเข้าไปใกล้จนฉันต้องยกมือดันอกไตรทศไว้
"ดะ เดี๋ยวค่ะมันสกปรก"
"เลิกพูดเป็นทางการสักทีแพร ฟังแล้วแม่งปวดหูฉิบหาย"
ไตรทศหรี่ตามองฉันพร้อมกับโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ส่วนฉันแม้จะขยับขื่นตัวออกขนาดไหนก็ไม่อาจสู้แรงเขาในตอนนี้ได้เลย
"เราแค่มาทำงาน...ปล่อยให้เรากลับไปเถอะนะ"
"กลัวอะไร นี่ทำตัวยังกับว่ากำลังถูกคุกคามอยู่นั่นแหละ?"
"เปล่า.."
ไตรทศขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ และฉันรู้ว่าเขากำลังไม่พอใจกับท่าทีของฉันที่กำลังแสดงออกไปแบบนั้น
"แล้วทำไมถึงได้มาทำงานนี้ ไหนว่าชีวิตตัวเองกำลังจะดีขึ้นหนักหนา?"
"..."
ฉันมองสบตาไตรทศ และนี่สินะเราถึงได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เพราะเขาอยากรู้เรื่องนี้นี่เอง...ฉันมองเขาอย่างกล้าๆกลัวๆแต่ก็พยายามสบตาสู้ เพราะกลัวเขาจับได้ว่าฉันกำลังโกหกอยู่
"ชีวิตตอนนี้ของเราก็ไม่ได้แย่อะไรนะ เราแค่ทำงานที่เราอยากทำเท่านั้น"
"เธออยากเป็นครูไม่ใช่เหรอ?"
คำถามของไตรทศทำเอาฉันชะงักค้าง เพราะไม่คิดว่าเขายังจำอาชีพที่ฉันอยากจะทำได้
"แล้วตอนนี้งานที่ทำอยู่มันใกล้เคียงกับคำว่าครูตรงไหนกัน...งงว่ะ"
"มันจะได้เป็นหรือไม่ได้เป็นตอนนี้เราก็ทำงานนี้แล้วทศ อีกอย่างเราสองคนก็เลิกกันไปนานแล้ว ทศไม่จำเป็นต้องมาสนใจอะไรเราเลยด้วยซ้ำ"
ไตรทศเอียงใบหน้ามองฉันทันทีหลังฉันหลุดพูดเรื่องของเราออกไป เขาหัวเราะในลำคอพร้อมกับขยับตัวออกห่างจากฉัน ก่อนจะยืนเต็มความสูงจนทำให้ฉันรู้สึกตัวเล็กลงไปอีก..
"ใช่ เราเลิกกันไปนานแล้ว แต่พอได้เห็นเธออีกมันก็ทำให้คิดถึงเหตุผลที่เธอบอกเลิก มันเลยทำให้น่าสงสัยน่ะ..."
"สงสัยอะไร"
"ก็ตอนนั้นแพรบอกเองไม่ใช่เหรอว่าคนอย่างไอ้ทศเนี่ยมันไม่มีอนาคต ไม่มีปัญญาหาเลี้ยงเธอได้แน่นอน.."
ฉันเม้มปากพร้อมกับกำมือแน่นหลังไตรทศพูดถึงคำที่ฉันสรรหามาพูดกับเขาในวันที่ตัวเองต้องการจะเลิก และเขาคงฝังใจมากแม้ว่ามันจะผ่านมาหลายปีแต่เขาก็ยังจำมันได้ทุกคำพูดเลย
"แล้วตอนนี้ใครมันหาเลี้ยงเธออยู่วะ ทำไมถึงให้เธอมาทำงานหนัก เพื่อให้ได้เศษเงินไม่กี่บาทจากไอ้ทศคนนี้?"
ไตรทศเหยียดยิ้มมุมปากมองฉันด้วยแววตาดุดันพร้อมทั้งหัวเราะในลำคอ เมื่อเห็นว่าฉันเอาแต่ก้มหน้ามองแผ่นกระดาษส่งมอบงานในมือ
"เฮอะ นี่น่ะเหรอผู้หญิงที่ปฎิเสธกูไป รู้สึกยังไงบ้างล่ะที่ไอ้คนไม่มีปัญญาคนนั้นมันมีทั้งเงิน บ้าน และงานดีๆ แถมมันยังประสบความสำเร็จจนเป็นเธอที่ต้องเงยหน้ามองมันแทน"
ขอบตาที่ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่ทำให้ฉันรู้ทันทีว่าคำพูดของไตรทศที่ถามออกมา มันมีอิทธิพลต่อความรู้สึกฉันมากคำพูดของเขามันตอกย้ำจนฉันรู้สึกราวกับว่ามันมีมีดนับร้อยที่กำลังทิ่มแทงที่หัวใจของตัวเองอยู่
"สภาพแม่งดูไม่ได้เลยว่ะแพร เอาเงินไปซื้อเสื้อผ้าดีๆไม่ก็หาซื้อรองเท้าใหม่ดีๆสักใบใส่ซะนะ"
พรึบ!
ดวงตาฉันเบิกกว้างหลังไตรทศยัดเงินใส่มือ การกระทำของเขามันทำให้ฉันหน้าชาจนลามไปทั้งตัว ฉันเงยหน้ามองไตรทศทั้งน้ำตาพร้อมกับโยนแบงค์พันหลายใบในมือใส่เขา
"เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อขอเงินใคร! ถึงเราจะไม่ได้รวยหรือมีงานดีๆอย่างทศทำแต่เราก็ไม่ได้มาเพื่อขอเงินทศ! เราไม่ใช่ขอทานนะ!"
"อ่า..ร้องไห้เลยเหรอ ทำไมล่ะถือซะว่ามันเป็นทิปก็ได้หนิ"
ฉันยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากข้างแก้มพร้อมกับมองไตรทศที่กำลังยืนยิ้มด้วยแววตาแข็งกร้าว
"เราทำงานแลกเงิน ถึงตอนนี้ทศจะสูงส่งขนาดไหน แต่ถ้าจิตใจมันต่ำเตี้ยก็ไม่ได้มีอะไรที่มันน่าเยินยอหรอก"
"เฮอะ ทำตัวน่าขำซะไม่มี"
ไตรทศหัวเราะในลำคอพร้อมกับมองฉันด้วยรอยยิ้ม
"ครับ งั้นก็หวังว่าแพรจะโชคดีในงานของเธอนะ สักวันเธอก็คงจะได้รางวัลแม่บ้านมือทอง ไม่ก็แม่บ้านดีเด่นสักรางวัลอ่ะ พอถึงตอนนั้นก็อย่าลืมถ่ายรูปอัพเหมือนตอนที่แอบถ่ายรูปบรรดาโล่รางวัลในห้องเราไปด้วยล่ะ"
นี่เขาเห็นที่ฉันไปถ่ายรูปในห้องเขาด้วยเหรอ? ฉันเม้มปากมองไตรทศก่อนจะรีบเดินไปหยิบอุปกรณ์ทำงานตัวเองก่อนจะเดินออกมาจากห้องของไตรทศทั้งน้ำตา ฉันหยิบแมสในกระเป๋าขึ้นมาสวมพร้อมกับจัดหมวกให้เข้าที่ทั้งที่น้ำตาตัวเองยังไม่หยุดไหล ขณะที่มือก็กำแน่นพร้อมกับก้มลงมองรองเท้าสีขาวที่เต็มไปด้วยฝุ่นและรอยเปื้อนทั้งน้ำตา...เขาได้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ฉันได้ทำให้ไตรทศคนที่มองฉันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักเปลี่ยนไปเป็นใครแล้วก็ไม่รู้...แต่ฉันจะไม่โทษเขา เพราะฉันรู้ว่าตัวเองเองนี่แหละที่เป็นคนที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปแบบนั้น...
เวลาต่อมา
"เดี๋ยววันนี้พี่ขอคุยด้วยหน่อยนะทุกคน"
"ค่า"
ทั้งฉันและแตงพยักหน้าตอบพีหน่อยหลังพี่หน่อยเดินเข้ามาในห้องพักพนักงาน ขณะที่ฉันกับแตงกำลังเตรียมตัวกลับแล้วหลังจากเคลียร์งานเสร็จ
"แตงลูกค้าที่คุยไว้ตอนนี้ตัดสินใจจ้างเป็นรายเดือนนะ ไปทำความสะอาดอาทิตย์ละสองวัน เดี๋ยวส่วนกลางจัดลงตารางแล้วจะส่งมาให้"
"เริด! ลูกค้าบ้านนี้ใจดีมากนะพี่หน่อย ดีใจอ่ะที่เขาทำสัญญากับแตงรายเดือน"
"ก็ยินดีด้วยนะน้องแตง กว่าจะจีบลูกค้าติดอ่ะเนาะ"
"ฮ่าๆ แน่สิ"
ฉันยิ้มให้แตงด้วยความยินดี เพราะทีมเรามีน้อยมากที่จะมีลูกค้าทำสัญญารายเดือนแบบนี้ และถ้าได้ลูกค้านะเราก็จะได้ค่าคอมเพิ่มด้วย
"ส่วนแพร"
"ค่ะพี่หน่อย"
"พี่ก็ต้องยินดีด้วย เพราะลูกค้าที่แพรไปทำให้วันนี้เขาทำสัญญารายเดือนด้วย"
"คะ?"
ดวงตาฉันเบิกกว้างทันทีหลังพี่หน่อยพูดออกมาแบบนั้น
"เดี๋ยวนะคะพี่หน่อย ลูกค้าที่เพิ่งเคยรับบริการจากเราเขาต้องใช้บริการจากหลายๆคนก่อนนะถึงจะทำสัญญาได้"
"เขาเป็นวีไอพีน่ะสิ เห็นว่าเขาชอบที่แพรทำความสะอาดดีเยี่ยมเขาเลยให้แพรไปทำทุกอาทิตย์"
ให้ตาย...ไตรทศต้องการอะไรจากฉันกันแน่นะ
"แต่ยังไม่พอนะคะ เพราะพวกเราได้งานที่ค่ายมวยเป็นทีมที่จะได้เข้าไปทำให้ค่ายแบบประจำด้วย!"
"เฮ้ย ค่ายมวยที่แพรไปถ่ายรูปกับนักมวยหล่อๆอ่ะนะพี่หน่อย!?"
"ใช่ ผู้ใหญ่ที่นั่นชอบทีมเรามากเลยขอเปลี่ยนจากทีมพี่กงมาเป็นทีมเรา หลังจากนี้พวกเราได้จับงานใหญ่กันแล้วน๊า!"
"เริดๆๆ แบบนี้ต้องฉลองแล้วไหมพี่หน่อย!?"
"ต้องฉลองสิไม่งั้นพี่ไม่ขอคุยกับพวกแกหรอก เอาไงไปร้านเดิมกันไหมวันนี้?"
"เอาๆ ไปๆวันนี้แตงว่า"
"แพรล่ะ?"
ฉันหลุดออกจากภวังค์หลังดิ่งไปเมื่อได้รู้ว่าจะได้ไปทำที่ค่ายมวยเป็นประจำ แค่เรื่องที่ต้องไปทำความสะอาดที่ห้องไตรทศมันก็แย่มากแล้ว แต่นี่ยังต้องไปทำที่ค่ายมวยอีกงั้นเหรอ
นี่ไตรทศจงใจจะทำอะไรของเขากันแน่?