หนึ่งปีก่อนหน้านี้...
“ดาว เอาข้าวไปเสิร์ฟโต๊ะเจ็ดหน่อยลูก”
“ได้ค่ะแม่”
ดารภา หรือ ดาว รีบวิ่งไปรับถาดอาหารก่อนจะนำไปเสิร์ฟให้กับลูกค้าซึ่งเป็นนักศึกษาที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี เพราะบางคนก็เป็นเพื่อนหรือรุ่นพี่รุ่นน้องของเธอเอง
“อาหารได้แล้วค่ะ อยากได้อะไรเพิ่มก็บอกดาวได้เลยนะคะ” สาวสวยส่งยิ้มหวานให้ลูกค้าดังเช่นที่ทำประจำทุกวัน
“อยากได้เบอร์น้องดาวครับ”
หนุ่มคนหนึ่งในโต๊ะพูดขึ้น เลยได้ยินเสียงเพื่อนๆ ของเขาโห่แซวขึ้นมาพร้อมกัน
“เอาเบอร์ร้านไปก่อนนะคะ เบอร์ของดาวคงต้องไปขอที่พ่อเองค่ะ”
“โอ้โห งานยากเลยแบบนี้ งั้นขอน้ำใบบัวบกมากินแก้ช้ำในแทนละกันนะครับ” หนุ่มหล่อบอกยิ้มๆ
“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ”
แล้วเธอก็ไปหยิบน้ำใบบัวบกในตู้เย็นมาเสิร์ฟให้เขา จากนั้นก็ไปเสิร์ฟอาหารให้โต๊ะอื่นต่อไป
ร้านอาหารตามสั่งหน้ามหาวิทยาลัยคือกิจการครอบครัวของเธอ โดยพวกเขาใช้พื้นที่บริเวณชั้นล่างของตึกแถวขนาดสามชั้นมาเป็นร้านที่ตกแต่งอย่างน่ารักด้วยฝีมือของเธอเอง โดยมีบิดาเป็นพ่อครัว และมีมารดาคอยเป็นลูกมือรวมถึงทำบัญชีของร้าน
คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเธอเป็นลูกคนเดียวของที่บ้าน แทบไม่มีใครรู้เลยว่าเธอยังมีพี่ชายต่างบิดาอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกที่เกิดกับอดีตสามีชาวอเมริกัน ซึ่งตอนนี้เขาเป็นนาวิกโยธินอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ปีหนึ่งจะกลับเมืองไทยแค่สองหรือสามครั้งเท่านั้น แต่เขาก็มักจะโทรหาเธอทุกเดือน แต่สามเดือนที่ผ่านมาเขากลับเงียบหายไปทำให้เธอไม่ค่อยสบายใจนักเพราะเขาเคยบอกเอาไว้ว่าถ้าเขายังมีชีวิตอยู่เขาจะติดต่อมา ถ้าหากว่าการติดต่อนั้นหายไปก็ขอให้เธอทำใจว่าเขาอาจจะไม่อยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว
ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังรอคอยสายโทรเข้าของพี่ชายเสมอ เพราะเขาบอกแล้วว่าอย่าโทรกลับไปเพราะเขาอาจจะทำภารกิจสำคัญอยู่ ให้เธอรอเขาเป็นฝ่ายติดต่อมาเท่านั้น แต่เพราะมันผ่านมาสามเดือนแล้วเธอจึงได้ลองขัดคำสั่งโดยการโทรไปเบอร์เดิม ทว่ากลับไม่สามารถติดต่อเขาได้เลย
สี่ทุ่มเป็นเวลาปิดร้าน หลังจากเปิดมาตั้งแต่แปดโมงเช้า ตอนนี้มารดานั่งสรุปยอดของวันที่เคาน์เตอร์ ส่วนเธอก็ทำความสะอาดพื้นร้าน และบิดาก็ทำความสะอาดครัวเหมือนทุกวัน
“ถูพื้นเสร็จก็ไปอาบน้ำนอนนะลูก วันนี้มีการบ้านต้องทำรึเปล่า”
ดาริกา มารดาวัยห้าสิบปีของเธอเงยหน้าจากสมุดบัญชีแล้วเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“มีค่ะแม่ แต่หนูทำที่มหาวิทยาลัยเสร็จไปแล้ว”
ตอนนี้ดารภาเป็นนักศึกษาภาควิชาบริหารธุรกิจ เอกการตลาด ชั้นปีที่สามของมหาวิทยาลัยเอกชนที่อยู่ตรงข้ามบ้าน และมหาวิทยาลัยเพิ่งจะเปิดเทอมสองมาได้ราวๆ หนึ่งเดือนแล้ว
“งั้นก็ไปอาบน้ำพักผ่อนนะจ๊ะ พรุ่งนี้วันหยุดอยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า ตอนเช้าพ่อกับแม่จะได้ซื้อของที่ตลาดมาทำให้กิน”
“อืม...ไม่มีอะไรที่อยากกินเป็นพิเศษเลยจ้ะ พ่อทำอะไรก็อร่อยหนูกินได้หมดแหละ”
“จ้า ถ้าพ่อออกมาได้ยินคงตัวลอย” มารดามองบุตรสาวอย่างหมั่นไส้
“ใครจะตัวลอยเหรอแม่”
สมบัติ บิดาวัยห้าสิบห้าปีเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับถอดผ้ากันเปื้อนออก
“ก็ลูกสาวของพ่อน่ะสิ แม่ถามว่าอยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ยก็บอกว่าพ่อเค้าทำอะไรก็อร่อย ไม่มีอะไรที่อยากกินเป็นพิเศษเลย ได้ยินแล้วตัวลอยมั้ยล่ะพ่อ”
“ฮ่าๆๆ ลอยจริงๆ ด้วย ดาวรีบมาดึงพ่อไว้เร็ว” บิดาหัวเราะร่วน เธอจึงได้รีบเดินเข้าไปกอดแขนท่านเอาไว้
“ดึงไว้แล้วจ้ะ รับรองว่าลอยไปไหนไม่ได้แน่นอน”
“เอาล่ะๆ มัวแต่เล่นกันอยู่นั่นแหละ นี่มันสี่ทุ่มกว่าแล้วนะ ดาวไปอาบน้ำนอนไปลูก”
“จ้า...พ่อกับแม่จะสวีทกันสองคนล่ะสิถึงรีบไล่หนูจัง งั้นพรุ่งนี้หนูจะรีบตื่นมาช่วยเปิดร้านแต่เช้าเลยนะจ๊ะ”
“ตื่นสายหน่อยก็ได้ลูก ไหนๆ ก็เป็นวันหยุดแล้ว หนูอยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต นอนดึกตื่นสายทุกวันจะไม่ดีนะ” บิดาลูบศีรษะบุตรสาวอย่างเอ็นดู
“ได้ช่วยพ่อกับแม่หนูรู้สึกมีประโยชน์มากกว่าจ้ะ ถ้ามันจะโตช้าไปกว่านี้สักหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก ยังไงหนูก็อึ๋มกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันอยู่แล้ว”
คนขี้เล่นแกล้งแอ่นหน้าอกเล็กๆ นั้นอย่างภาคภูมิใจ
“โถ อกแฟบอย่างกับไข่ดาวโดนเหยียบยังจะกล้าอวดอีกลูกสาวฉัน” มารดาของเธอแกล้งว่าแล้วส่ายหน้าอย่างระอาใจ ส่วนคนเป็นพ่อได้แต่หัวเราะอย่างขบขัน
“โธ่ แม่น่ะ ชอบว่าหนูอยู่เรื่อยเลย หนูงอนแล้ว...ไปนอนดีกว่า”
เธอเบะปากให้มารดาก่อนจะจุ๊บแก้มบิดาแล้วรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องนอนที่อยู่ชั้นสามของตึก ส่วนห้องนอนของบิดาและมารดาจะอยู่ที่ชั้นสองเพราะบิดาบอกว่าเผื่อมีหนุ่มๆ ที่ไหนย่องขึ้นชั้นบนจะได้เจอลูกปืนของท่านก่อน
“เฮ้อ ยัยลูกคนนี้นี่มันกวนประสาทแม่จริงๆ” ดาริกาส่ายหน้าน้อยๆ
“เอาน่าแม่ก็อย่าไปบ่นลูกนักเลย”
“พ่อก็เข้าข้างยัยดาวตลอด แล้วนี่ปิดแก๊สเรียบร้อยแล้วใช่มั้ยจ๊ะ”
“เรียบร้อยแล้ว แม่ทำบัญชีเสร็จรึยังล่ะจะได้ขึ้นไปอาบน้ำนอนกัน”
“เสร็จแล้วจ้ะพ่อไปปิดไฟเลย”
“โอเคงั้นแม่ขึ้นห้องเลยเดี๋ยวพ่อปิดไฟเอง”
“จ้ะ”
แล้วสมบัติก็เดินไปปิดไฟชั้นล่างทั้งหมดก่อนที่เขาจะเดินตามภรรยาขึ้นไปบนห้องเพื่อพักผ่อน และพรุ่งนี้ก็จะตื่นกันตั้งแต่ตีสี่เพื่อออกไปจ่ายตลาดเหมือนเช่นทุกวัน เว้นแค่วันอาทิตย์ที่เป็นวันหยุดของร้าน พวกท่านจึงจะได้ตื่นกันสายหน่อย