“ขอบคุณค่ะ” เธอยกมือไหว้เขาเมื่อเห็นข้อความเงินโอนเข้าในโทรศัพท์ของตนเอง
“ตอนนี้ก็ขึ้นรถได้แล้วนะ อ้อ แล้วจะถ่ายรูปรถกับทะเบียนรถฉันส่งไปให้พ่อแม่หรือเพื่อนก่อนก็ได้ ถ้ากลัวฉันเป็นพวกคนเลวน่ะ ญาติพี่น้องเธอจะได้แจ้งตำรวจได้สะดวก”
ดารภากะพริบตาปริบๆ ตั้งแต่เกิดมาเธอก็เพิ่งเคยเจอคนแบบนี้ เขาคิดรอบคอบมากกว่าคนที่อาจจะเป็นเหยื่ออย่างเธอเสียอีก ทั้งเรื่องค่าจ้างส่วนแรก ข้อมูลที่จะสามารถทำให้ตำรวจติดตามตัวเขาได้ง่ายขึ้น ซึ่งเธอยังคิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ
หญิงสาวมองสบตาเขาครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูคิดว่าคุณน่าจะไว้ใจได้ แต่ถ้าหากว่าหนูคิดผิด ก็ถือซะว่าหนูโง่เองละกัน เรารีบไปเถอะค่ะ หนูง่วงแล้วกลัวจะจำข้อมูลของคุณได้ไม่หมดถ้ามันดึกมากไปกว่านี้”
เห็นท่าทางอ่อนเพลียของเธอเขาก็รู้สึกเอ็นดูขึ้นมา ทั้งที่เธอเป็นคนสวยมาก รูปร่างก็ดี สามารถทำงานเป็นโคโยตี้หรือพริตตี้ได้สบายๆ แต่เธอกลับเลือกทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ คิดว่าเธอคงจะมีเหตุผลส่วนตัวบางอย่าง แต่จะเหตุผลอะไรก็ช่างตอนนี้เขาเองก็ง่วงเต็มที ควรจะพาเธอกลับได้แล้ว
เมื่อคิดได้อย่างนั้นเขาก็พาเธอไปที่รถไม่นานรถหรูก็เคลื่อนไปตามถนนด้วยความเร็วคงที่ไม่ช้าแต่ก็ไม่ได้เร็วจนน่ากลัว ราวครึ่งชั่วโมงเขาก็พาเธอมาจอดที่ได้คอนโดหรูแห่งหนึ่ง
หญิงสาวเดินตามเขาไปที่ลิฟต์ตัวใหญ่ จากนั้นลิฟต์ก็มาส่งเขาและเธอที่ชั้นบนสุดของอาคาร และเธอไม่จำเป็นต้องถามว่าเขาพักห้องไหน เพราะทั้งชั้นนี้มีประตูทางเข้าบานใหญ่อยู่บานเดียว
นั่นแปลว่าทั้งชั้นนี้เป็นของเขาทั้งหมด!
นี่สินะคนรวย มิน่าล่ะเขาถึงสามารถจ้างเธอด้วยเงินขนาดนั้นสำหรับการทำงานเพียงวันเดียว แถมยังเอาเงินให้แท็กซี่แบบไม่นึกเสียดายเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะซึ่งคงทำให้เขาเสียเวลามากไปกว่านี้
“เข้ามาสิ” จิณณ์หันมาบอกเมื่อเห็นว่าเธอยังยืนอยู่ที่หน้าประตูไม่ก้าวตามเขามาเสียที
“ค่ะ” ดารภาเดินตามเขาไปในที่สุด และเธอก็ได้เจอกับห้องรับแขกขนาดใหญ่เป็นห้องแรก
“เดี๋ยวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายตัวก่อนละกันนะ แต่ห้องนี้ไม่มีเสื้อผ้าของผู้หญิง เธอคงต้องใส่เสื้อฉันนอนไปก่อน แต่ก็ไม่ต้องกลัวนะ ฉันมีห้องนอนสองห้อง เธอนอนห้องเล็กไปละกัน ตามมาสิ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเราค่อยลงมาคุยกัน แล้วหิวรึเปล่ากินอะไรมาหรือยัง”
“หิวค่ะ แต่ดึกแล้วหนูไม่กินดีกว่าเดี๋ยวนอนไม่หลับค่ะ”
“อืม งั้นก็ไปอาบน้ำเถอะ ตามมาสิ”
เขาบอกพร้อมกับเดินนำเธอไปยังบันไดทางขึ้นชั้นสองซึ่งมีห้องนอนอยู่บนนั้น ห้องแรกน่าจะเป็นห้องเขา เพราะชายหนุ่มเดินเข้าไปหยิบเสื้อเชิ้ตของเขามาตัวหนึ่งแล้วยื่นให้เธอที่รออยู่หน้าห้อง
“ใส่ตัวนี้นอนละกัน เนื้อผ้ามันหนาไม่โป๊หรอก”
“ขอบคุณค่ะ”
เธอยกมือไหว้เขา ก่อนจะเดินตามเขาไปยังห้องที่อยู่ถัดไป
“คืนนี้เธอนอนห้องนี้นะ ปกติห้องนี้พี่ชายฉันจะใช้นอนเวลาที่เค้าแวะมาแล้วขี้เกียจกลับน่ะ แต่ก็ไม่บ่อยนักหรอก นานๆ มาที ด้านในมีห้องน้ำใช้ตามสบาย แปรงสีฟันอันใหม่อยู่ในตู้ที่อยู่ในห้องน้ำ ลองเปิดดูละกัน อาบน้ำเสร็จแล้วก็ลงไปรอฉันที่ห้องรับแขก เดี๋ยวฉันตามลงไป”
“ได้ค่ะ” เธอทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่าย
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวก้าวเข้าไปแล้ว เขาจึงได้กลับเข้าห้องของตนเองเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนให้สบายตัวเช่นกัน
และเมื่อเขากลับลงมาก็เจอกับดารภาที่นั่งรออยู่ตรงโซฟาในห้องรับแขก ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ แล้วมองคนตัวเล็กที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตของเขาอย่างพอใจปนขบขัน เพราะเสื้อของเขามันดูเทอะทะเหลือเกินเมื่ออยู่บนร่างกายของเธอ
“เอาล่ะดาว ฉันจะไม่ทำให้เราเสียเวลามากไปกว่านี้นะ ตอนนี้เรารู้จักชื่อกันหมดแล้ว แต่ฉันคงต้องรู้จักเธอให้มากกว่านี้ก่อนจะได้ไปคุยกับปู่รู้เรื่อง เริ่มที่เรื่องครอบครัวของเธอก่อน บ้านเธอมีกันกี่คน”
“หนูอยู่กับพ่อแม่ค่ะ แล้วก็มีพี่ชายอีกคนแต่เค้าอยู่ต่างประเทศ บ้านเราทำร้านอาหารตามสั่งที่หน้ามหาวิทยาลัยค่ะ แต่...สองอาทิตย์ก่อนพ่อกับแม่เกิดอุบัติเหตุตอนที่ไปซื้อของที่ตลาด แม่เค้าต้องผ่าตัดสมอง ส่วนพ่อแขนขาหัก ตอนนี้พวกท่านยังอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งคู่ค่ะ หนูก็เลยต้องออกมาหางานทำเพราะเรายังต้องผ่อนตึกที่อยู่ ไหนจะค่าเทอม ค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก”
ได้ยินอย่างนั้นจิณณ์ก็อึ้งไปชั่วขณะ เพราะไม่คิดว่าชีวิตของเธอมันจะหนักหน่วงขนาดนี้
“แล้วอาการของพวกท่านเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ยังทรงตัวค่ะ แต่ต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลอีกนานเลย ไม่รู้จะได้ออกมาเมื่อไหร่”
“เพราะแบบนี้เธอก็เลยตัดสินใจรับงานของฉันสินะ”
“ค่ะ ความจริงหนูจะรับตั้งแต่แสนแรกแล้วด้วย แต่มัวตกใจอยู่ ความจริงคุณจะจ้างหนูแสนเดียวก็ได้นะคะ แค่ไปแกล้งเป็นแฟนปลอมๆ เองไม่ได้ทำอะไรหนักหนาซะหน่อย หนูไม่อยากเอาเปรียบคุณค่ะ”
จิณณ์อมยิ้มให้คนแสนซื่อ เพราะคงไม่มีใครมาลดราคาให้เขาแบบนี้หรอก ส่วนใหญ่ก็น่าจะมีแต่คนขอขึ้นราคามากกว่า และนั่นก็ทำให้เขารู้สึกสนใจเธอมากขึ้น