รอยยิ้มที่ดูเป็นฝ่ายชนะ สร้างแรงกดดันให้ทินกรอย่างหนักเมื่อเห็นผลชิ้นงานโมเดลของตัวเองไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรู
ห้องประชุม
"งานเหมือนกันทั้งคู่แบบนี้ ผมจะตัดสินใจได้ยังไง" บริษัทลูกครึ่งจีนคิ้วขมวดพร้อมวางแฟ้มของทั้งคู่เอาไว้ "ผมไม่รู้หรอกนะว่าใครจะ copy ใคร แต่หวังว่าอาทิตย์หน้าเรื่องนี้คงกระจ่าง"
"ครับ"
ทั้งทินกร และ ไรเฟิลพยักหน้าพูดพร้อมกัน หลังจากที่บริษัทใหญ่ออกไปทั้งสองคนก็สาดแววตาโกรธเกรี้ยวเข้าใส่
"หน้าด้าน!" ทินกรเป็นฝ่ายเริ่มเนื่องจากหัวร้อนหนัก "งานของฉันแกมาขโมยเอาไปได้ยังไง"
"ใครขโมยพูดจาดีๆ นะครับ ก็เห็นอยู่ว่าเราใจตรงกัน"
"ฝันไปเถอะคนอย่างแกก็ดีแต่แทงลับหลัง"
"ถ้างานนี้เป็นของคุณจริงทำไมปล่อยให้หลุดมือง่ายนักล่ะ หึ"
แววตาเจ้าเล่ห์สื่อความร้ายกาจ สักพักทั้งคู่ก็แยกออกไปโดยมีผู้ติดตามหรือเลขาติดตัว
บนรถ
"ไปตามสืบมาให้ทีว่างานของฉันนอกจากกิ่งแก้วมีใครที่รู้ผลงานชิ้นนี้อีก" ทินกรเอ่ยสั่งลูกน้องคนสนิท กิ่งแก้วรีบโต้ตอบ "กิ่งเปล่านะคะ แต่หลายวันมานี้เหมือนมีคนสะกดรอยตาม"
"แค่สะกดรอยตามงานของฉันมันคงไม่ลอยไปในอากาศแล้วพวกมันก็เซฟเอาไว้หรอก"
"พูดแบบนี้แปลว่าท่านประธานไม่ไว้ใจกิ่ง?"
"คุณเป็นเลขาของผมทำไมจะไม่ไว้ใจ แต่แค่อยากรู้ว่างานมันหลุดออกไปได้ยังไง"
"กิ่งจะลองช่วยอีกแรงนะคะ"
บ้านมหาเศรษฐี
"สุดท้ายแกก็พลาดจนได้สินะทินกร" ผู้เป็นพ่อยกชาอู่หลงดื่มก่อนจะวางลงบนที่วางแก้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
"งานชิ้นนี้นอกจากผมกับเลขาก็ไม่ได้พูดหรือว่าดีลงานกับใครส่วนตัวนอกรอบ"
"ว่าจะถามหลายครั้ง..ทำไมถึงรับเลขาคนนั้นเข้ามาทำงาน ทั้งที่คนอื่นก็มีคุณสมบัติที่มากกว่า แถมบางคนเป็นถึงลูกนักการเมืองพรรคที่เราหนุนหลังให้"
"กิ่งแก้วเป็นผู้หญิงที่กระตือรือร้นในการทำงาน ว่องไว และ หัวเร็ว อีกอย่างรับมือกับอารมณ์ของผมได้"
"อย่าเป็นสมภารกินไก่วัดเด็ดขาดฉันขอเตือนปัญหาวุ่นวายอาจจะตามมา"
คำสั่งสอนของพ่อเพียงตักเตือนทินกรน้อมรับก่อนจะกลับขึ้นห้องนอนตัวเองแล้วคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ทุกอย่างบ่งชี้ไปที่เลขา ผู้ที่กุมความลับ และ รู้จักเขาเป็นอย่างดี
วันต่อมา
ทาวน์เฮ้าส์เก่าซอยแปด
"พี่โดนพักงาน?" กานดาเน้นเสียง "แปลว่าเงินเดือนของพี่ก็จะลดลง"
"ไม่หรอก บริษัทใหญ่เขาไม่ได้หักเล็กน้อยอะไรแบบนั้น แค่มีเรื่องงานที่หลุดไปอยู่ที่ฝ่ายตรงข้าม ดันเป็นศัตรูคู่อาฆาตของท่านประธานเท่านั้น"
"แล้วเราจะทำยังไงดีทีนี้ ค่าเทอม ค่ากิน ค่ากิจกรรมรับน้อง"
"ไม่ต้องห่วงหรอกยังไงพี่จะต้องหามาจ่ายให้ได้อยู่แล้ว"
น้องสาวบูดบึ้งตามนิสัย แม้จะเป็นพ่อแม่เดียวกันแต่ทั้งคู่กลับนิสัยไม่เหมือนกันเลยสักนิด
บริษัทยักษ์ใหญ่
"วันนี้กิ่งถูกพักงานทำไมท่านประธานถึงเรียกมา" เลขาสาวรีบนั่งแท็กซี่มาตามคำสั่ง
"ฉันให้คนไปสืบทุกอย่างแต่กลับไม่มีรอยรั่วที่ไหนเธอคิดว่ามันน่าแปลกไหมล่ะ"
"กิ่งรู้ว่าตอนนี้ท่านประธานกำลังสับสน และ คิดว่ากิ่งขายงานให้กับศัตรูของบริษัทใช่ไหมคะ"
"ก็ไม่ขนาดนั้น..ฉันรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงซื่อสัตย์ แต่แค่สงสัยว่าทำไมงานที่เป็นความลับถึงอยู่ในมือของมัน"
ทินกรถอนหายใจ แววตาเขาไม่ได้สิ้นหวังแต่กลับแน่วแน่ กลิ่นบุหรี่ชั้นดีคลุ้งไปทั่วห้องทำงาน
"วันนี้ท่านประธานคงจะเครียดจัดถึงขั้นสูบซิก้าแล้วยังได้กลิ่นไวน์ตลบอบอวลไปหมด" กิ่งพูดต่อ "ควรกลับไปพักผ่อนที่บ้านหรือคอนโดให้สบายใจกว่านี้ดีกว่านะคะ"
"ฉันชอบนะเวลาเธอเป็นห่วง"
"ก..ก็เป็นหน้าที่เลขาอยู่แล้ว"
"ทำหน้าที่ดีเกินไปหรือเปล่า หึ"
ท่านประธานพูดจบก็ลุกขึ้นยืน ใบหน้าหล่อเหลาแดงไปด้วยไวน์ที่ดื่มก่อนหน้า
อักกก!
เขาพุ่งปะทะจนตัวเล็กถอยเซจนติดกำแพง
"เธอได้เงินไปแล้วสองแสนแต่ฉันยังได้ไม่คุ้มเลย"
"วันนี้ไม่สะดวกหรอกค่ะ"
"ทำไม..หรือมีนัดอะไรสำคัญ กว่าฉัน?"
"กิ่งต้องไปจ่ายค่ากิจกรรมให้น้องสาว"
"ฉันจะส่งคนไปจัดการให้"
กลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งออกมาจากลมหายใจ ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้เกินไป
มือหนาเงื้อมจับกระดุมก่อนจะปลดออกทีละเม็ด ชุดชั้นในสีดำปกคลุมความอึ๋มได้ไม่มิด สองเต้าอวบกำลังถูกสัมผัสด้วยปลายจมูกโด่ง
"ทะ ท่านประธาน" มือเรียวผลักแผง'อกแกร่งออก "วันนี้กิ่งยังไม่พร้อม เราเลื่อน ปะ ไปก่อนได้ไหมคะ"
"สองแสนที่ให้ไปอีกชั่วโมงนำมาคืนด้วย"
"จะบ้าหรือไงคะ กิ่งไม่ใช่ซุปเปอร์ฮีโร่หรือมีเวทย์มนต์เสกอะไรได้ตามใจ เงินตั้งสองแสนจะให้หามาคืนภายในชั่วโมงได้ยังไง"
"นั่นสิ..แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรมาต่อรอง?"