หลังจากดื่มด่ำสุรากับรุ่นพี่ กิ่งแก้วกลับมาถึงบ้านเดินอย่างโซซัดโซเซ พุ่งซัดตัวลงนอนบนเตียงหนานุ่มห้องสีชมพูหวานแหวว
เช้าต่อมา
"สองแสน!" เสียงสะดุ้งของกิ่งแก้ว "ท่านประธานให้กิ่งจริงๆ หรือคะ"
"ล่วงหน้าไว้ก่อน"
"แปลว่า..เรื่องนั้น"
"ฉันเป็นนักธุรกิจลงทุนก็ต้องหวังกำไร แต่พอดีมีงานด่วนแทรกเข้ามา"
แฟ้มเอกสารวางกองบนโต๊ะ แน่นอนว่าเป็นหน้าที่เลขาต้องตรวจสอบก่อน
"ท่านประธานรีบไหมคะ" เลขาหยิบแฟ้มงานหอบหิ้วไว้ "ต้องการใช้วันไหนคะ"
"อีกสามวันก็แล้วกัน แต่งานนี้สำคัญมาก เราต้องนำเสนอให้นายทุนรายใหญ่"
"เป็นงานลับสินะคะ"
"ก็คงแบบนั้น ฉันจ้างสถาปนิกจากตะวันตกเพื่องานชิ้นนี้ แถมไปซื้อไวน์ดีเยี่ยมเพื่อเป็นของกำนัล"
"รับทราบค่ะ"
วันนี้กิ่งแก้วมัดรวบผมหางม้า สวมเชิ้ตสีแดงกระโปรงสีดำ ไม่แปลกที่ทุกคนจะจ้องมองเธอ
หลายวันผ่านไป
ทาวน์เฮ้าส์เก่าซอยแปด
"สอบติดแล้วเหรอ" กิ่งแก้วลุ้นพูดเสียงตื่นเต้น "กิ่งสอบติดคณะอะไร? พยาบาลใช่ไหม"
"คือว่า..."
"งั้นเราไปฉลองกัน ร้านชาบูไหม"
"พี่กิ่งคือหนูสอบติดศิลป์ภาษา"
"จงใจเหรอ"
"เปล่านะพี่กิ่งคือ.."
พี่สาวน้ำตาคลอไม่รับฟังเหตุผล เดินขึ้นชั้นสองไปอย่างไม่สนใจ
ฮึกกกก
น้ำตานองใบหน้าทันที ความรู้สึกเจ็บปวดที่แบกรับล้นเอ่อออกมา น้องสาวเป็นเหมือนตัวแทนชีวิตที่กิ่งไม่เคยได้ใช้ เพราะในตอนนั้นแม้เรียนแต่ก็ต้องทำงานไปด้วย
ช่วงเย็น
"หนี้พ่อหมดแล้วเหรอ" กานดาถามขณะที่ทั้งคู่นั่งกินข้าวกัน "ทำไมมีเงินมาจ่ายค่าเทอมให้"
"ท่านประธานให้ยืมก่อน"
"ฮะ?! ท่านประธานของพี่ดุจะตายให้ยืมง่ายขนาดนั้น"
"เอาเถอะอย่าถามมากตั้งใจเรียนก็พอ"
"ตั้งใจเรียนอยู่แล้วคณะนี้สนุกจะตาย"
"คงตั้งใจสอบติดคณะนี้สิไม่ว่า"
น้องสาวไม่ตอบกลับ ยิ้มกริ่มแต่สายตาบ่งบอกถึงความดีใจ กิ่งแก้วเดินทางไปจ่ายหนี้ให้พ่อ จ่ายค่าเทอมให้น้อง รวมถึงค่าเช่าบ้านที่ติดค้างเอาไว้
ป้ายรถเมล์
"ทำไมเงินสองแสนมันหมดไวขนาดนี้" กิ่งพึมพำกดโทรศัพท์ดูหน้าจอ "เหลือสองหมื่น เฮ้อ จะใช้ชีวิตได้ไปอีกสักกี่วัน"
"ขอโทษนะครับไม่ทราบว่ากี่โมงแล้ว" ชายคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาถาม
"อ๋อออ บ่ายสามโมงแล้วค่ะ"
"เห็นว่าคุณกังวลใจถ้าให้เดาคงเป็นเรื่องงาน"
"ทราบได้ไงคะ"
ชายวัยผู้ใหญ่ยิ้มให้ เขาสวมใส่ชุดเรียบง่ายแต่ท่าทางราคาแพง อีกทั้งภายในป้ายรถเมล์เวลานี้ไม่มีใคร
"อยากได้เงินไหม" เสียงทุ้มเอ่ยถาม "แค่คุณมาทำงานให้เรา ไม่ว่าจะเรียกค่าเสียเวลาเท่าไหร่ย่อมได้"
"เป็นล้านไหวไหม หรือสิบล้านดีคะ ฮ่าๆ คุณเป็นคนตลกดีนะคะ"
"หนึ่งล้านบาท สนใจไหมครับ"
"พะ พูดเล่นใช่ไหม"
"งานนี้ต้องเสี่ยงหน่อยแต่ไม่ยากหรอกสำหรับคุณเลขา"
คำพูดนี้ทำกิ่งแก้วประหลาดใจ เธอไม่เคยบอกใครถึงเรื่องการทำงาน แต่ชายคนนี้กลับรับรู้ถึงอาชีพ
"คุณเป็นใครคะ?" กิ่งแก้วเอ่ยถาม
"ผมชื่อชาญนักวิจัยของบริษัทไรเฟิลวิลล์"
"แล้วจะให้กิ่งทำงานอะไร..ทำไมจ่ายเป็นล้าน"
"ผมแค่อยากทราบโครงสร้างของตึกอาคารที่คุณทินกรออกแบบอยู่"
เป้าหมายเริ่มชัดเจน เขาเป็นอีกคู่แข่งที่ต้องการประมูลชนะตึกสุดหรูแห่งนั้น
"กิ่งไม่ทราบหรอกค่ะ" เสียงเล็กพูดปฏิเสธทันที "บางอย่างก็เป็นความลับมีแต่ท่านประธานเท่านั้นที่ทราบ"
"แต่สายของผมรายงานบอกว่าเขามีเอกสารให้คุณตรวจสอบ"
"สาย...ในบริษัทมีเกลือเป็นหนอนสินะคะ"
"อย่าเรียกแบบนั้นเลยครับเขาก็แค่ทำงานพิเศษให้ผมแล้วค่าจ้างก็แสนคุ้ม"
"ถ้าจะมาล้วงข้อมูลงานกิ่งคงให้ไม่ได้หรอกค่ะมันผิดจรรยาบรรณอีกอย่างก็ผิดกฎหมายด้วย"
ตัวเล็กหนักแน่นลุกขึ้นยืนทันทีก่อนที่น้ำเสียงนุ่มจะเอ่ยพูด "ถ้าคุณกิ่งแก้วทำงานนี้ให้ผม เราจะรับกานดาน้องสาวของคุณให้เข้าเรียนคณะพยาบาลมหาวิทยาลัยชื่อดัง และ ส่งเรียนจนกว่าจะจบอีกด้วย"
"เรียนพยาบาล..."
"ตามอย่างที่คุณหวังเอาไว้ไงครับ"
"แต่กานดาสอบไม่ผ่านนะคะ"
"เรื่องนั้นเราจัดการได้ถ้าหากคุณตอบตกลงพร้อมเริ่มงานทันที ผมจะนำเอกสารสัญญามาให้เซ็น รับรองได้ว่าเราไม่โกง"
บททดสอบอีกหนึ่งอย่างเข้ามาในชีวิต เธอจะเลือกฝ่ายไหนก็ไม่สามารถอ่านใจได้ เวลาผ่านไปจนใกล้ประชุมใหญ่
บริษัทเฟอร์นิเจอร์
"งานที่ให้ออกแบบมีอะไรต้องแก้ไขอีกไหม" ทินกรเอ่ยถามเลขา "แบบการสร้างผิดกับที่เราแจ้งเงื่อนไขไปหรือเปล่า"
"ทุกอย่างเรียบร้อยดีค่ะท่านประธาน"
"งานนี้สำคัญมากนะ อีกครึ่งชั่วโมงเราต้องเดินทางไปโรงแรมเพื่อเสนองานของเราให้นายทุน ถ้าสนใจเราก็จะได้กำไรอีกทั้งจะได้หน้าตาความน่าเชื่อถือให้กับพรรคการเมือง"
"ท่านประธานทำได้อยู่แล้วค่ะ"
รอยยิ้มหวานส่งให้ก่อนที่ตัวเล็กจะเดินไปจัดเนกไทของท่านประธาน สองสายตาจดจ้องใกล้กัน น้ำเสียงนุ่มทินกรเอ่ยถาม "น้ำหอมกลิ่นใหม่เหรอ? ไม่คุ้น"
"กิ่งเพิ่งซื้อมาค่ะจากตลาดขวดสามร้อยบาท" เลขาสาวอธิบาย "แต่ต่อรองเหลือร้อยห้าสิบบาท"
"เดี๋ยว! ทำไมเขายอมขายให้เธอ"
"ก็กิ่งไปช่วยเขากรอกน้ำหอมด้วยเลยได้ส่วนลด"
"เงินสองแสนที่ให้ไปใช้หมดแล้วเหรอ.."
คิ้วหนาย่นมองสาวสวยตรงหน้ากำลังทำหน้าที่หยิบเอกสารใส่กระเป๋าหิ้วหนังสีน้ำตาล ก่อนจะหันกลับมาตอบคำถาม "กิ่งใช่หนี้ให้พ่อค่ะ ทยอยใช้จะได้หมดไว"
"หนี้สินพ่อเธอมันมากมายขนาดนั้นเลยหรือไง"
"คงจะใช่มั้งคะ กิ่งไม่ทราบแน่ชัด แต่กำหนดส่งทุกเดือนนะคะ"
"ชักอยากรู้ขึ้นมาว่าพ่อเธอขโมยอะไรไปขาย"
"ที่แน่ๆ ไม่ใช่รถขายซาลาเปา"
"ทำไม"
"พ่อไม่ชอบเสียงกระดิ่งปี๊บบบบบ มันแสบหู"
"อยากต่อยปากเธอให้ฟันหักแต่ลืมไปว่าเป็นเพศแม่ ขอด่าแค่ในใจก็แล้วกัน"
ท่านประธานถือแท็บเล็ตออกจากห้อง เดินนำเลขาสาวที่ขมุบขมิบปากต่อว่าตามกลัง
ณ. โรงแรมใหญ่
"เธอเตรียมเอกสารครบนะ" ท่านประธานหันกลับมาถามอีกครั้ง "งานนี้เราพลาดไม่ได้เด็ดขาด"
"ครบค่ะท่านประธาน เราเน้นสีทองมังกรเรืองแสงวาดลวดลายไต่ไล่ตามตึก และ เปลี่ยนสีตามเทศกาล"
"ดีมาก"
"ขอบคุณค่ะ"
แกร๊ก
"อ้าว คุณทินกร มาพอดีเลย ผมกำลังโชว์งานชิ้นโบว์แดง มังกรสีทองไต่รอบตึกเปลี่ยนสีตามเทศกาล ดูคุณไห่เป๋อชอบมาก แนวมังกรใหญ่สัตว์คู่เมืองจีน"
"นั่นมันงานของเรา" ทินกรพูดแผ่วกัดฟันกรอด