EP.3 กูขอนะ [งานพิเศษ]

1093 Words
ใบหน้าของเลขาสาวทำเอือมก่อนจะถอนหายใจเฮือกยาว ทั้งคู่นัดหมายบอดีการ์ดให้มารับแถวสถานที่จอดรออยู่ ดีที่สามล้อพ่วงคันนี้เป็นของบริษัท จึงให้คนงานกลับมาเอาไปไว้ในที่เดิม บนรถ "นี่ทำเฟอร์นิเจอร์หรือค้าย***าคะ" กิ่งสบถ "นึกว่าฉากบู๊ในหนังมาเฟีย!!" "อย่าลืมว่าเราหนุนหลังพรรคการเมืองใหญ่ ย่อมมีศัตรูรอบด้านเป็นธรรมดา" "เอาล่ะ ต่อไปกิ่งจะ.." "ระวังตัว" "เปล่าค่ะคิดเงินเพิ่มค่าเสี่ยงชีวิตด้วย" ใบหน้าหล่อเหลาทำนิ่งแต่แอบอมยิ้ม ตอนสัมภาษณ์งานครั้งแรกกิ่งแก้วไม่ผ่านกฎระเบียบของบริษัท แต่สุดท้ายทินกรก็ต่อสายตรงเพื่อเรียกเธอเข้ามาทำงาน "รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงรับเธอเป็นเลขา" ทินกรเอ่ยถาม "ไหนลองตอบมาสิ" "เพราะกิ่งตายยากมั้งคะ! นอกจากความสวยก็มีระเบียบมีวินัย เหตุผลข้อนี้จึงสำคัญ" "เพราะเธอโสดต่างหาก คนที่มาสมัครในวันนั้น..มีแต่แม่หม้าย บ้างก็เพิ่งแต่งงาน หรือบางคนก็เลี้ยงลูก ฉันไม่ชอบพันธะสัมพันธ์" "ไม่ต้องเน้นย้ำคำว่าโสดก็ได้ค่ะ ที่กิ่งยังโสดจนถึงทุกวันนี้เพราะท่านประธานไม่ยอมให้กิ่งได้พัก เสาร์อาทิตย์จะไปตีกอล์ฟ วันหยุดไปนั่งเรือยอร์ช วันฝนตกไม่อยากเปียกตอนเดินเข้าคอนโดก็โทรเรียกให้กิ่งนำร่มไปให้" ตัวเล็กเผลอบ่นจัดเต็มก่อนจะชะงักไป ท่านประธานจึงถามสงสัย "ฉันจ่ายเงินเดือนเธอไม่คุ้มค่าเหนื่อยหรือไง" "ถามว่าคุ้มไหมเดือนละห้าหมื่นก็คุ้ม แต่ท่านประธานควรให้วันลาวันหยุดกิ่งบ้างก็ได้ กิ่งไม่ได้เห็นแก่เงินขนาดนั้น" "เสาร์นี้มีนัดประชุมที่รีสอร์ตถ้าเธอไปด้วยฉันจ่ายสดพิเศษให้สองหมื่น" "บอกเวลามาได้เลยค่ะ กิ่งพร้อมมาก ช่วงนี้กิ่งเหง๊าเหงา อยากออกจากบ้านทำงานที่สุดแสนจะรัก" ความน่ารักสะกดใจชายจนอยู่หมัด กระทั่งทั้งคู่เผลอสบตาพร้อมกับรถที่แล่นมาจอดยังบริษัท "เธอกลับเองได้แน่นะกิ่งแก้ว" ท่านประธานเอ่ยถาม "ได้ค่ะเดี๋ยวกิ่งจะนั่งแท็กซี่ไปรับน้องที่โรงเรียนด้วย" "อืมมม ไว้เจอกันวันเสาร์" รถหรูขับเคลื่อนออกไปไกลกิ่งแก้วได้แต่พึมพำ "เหอะ วันเสาร์ก็คือพรุ่งนี้ไง!" โรงเรียนมัธยม "กานดา" กิ่งแก้วยกมือโบกเพื่อเรียกน้องสาวแต่ใบหน้าอีกฝ่ายกลับไม่ชอบใจ "วันนี้ทำไมพี่มารับได้" "ท่านประธานมีนัดกับครอบครัว พี่ก็เลยออกงานก่อนเวลา" "อาทิตย์หน้าหนูจะเรียนจบแล้วนะ" "อยากได้อะไรเป็นของขวัญ" พี่สาวยิ้มหน้าบานเนื่องจากเป็นคนส่งเสียค่าเทอมน้องตั้งแต่พ่อติดคุก ส่วนผู้เป็นแม่เสียชีวิตไปเมื่อตอนทั้งคู่ยังเด็ก "ไม่ต้องการของขวัญอะไรแค่อยากเรียนมหาวิทยาลัยเหมือนกับเพื่อนๆ" กานดาพูดแผ่ว "เพื่อนเขาไปเรียนมหาวิทยาลัยในเมืองกันหมด คงมีแต่หนูที่ได้เข้ามหาลัยนอกเมืองต้องจับฉลากเอา" "ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ..ถ้ากานดาอยากเรียนพี่ก็ส่งค่าเทอมให้" "ลำพังใช้หนี้ที่พ่อค้างไว้ก็แทบจะไม่เหลือกินข้าวแต่ละมื้อแล้ว พี่จะเอาปัญญาที่ไหนมาส่งเรียน" ทางบ้านของกิ่งแก้วมีฐานะยากจนกระทั่งพ่อไปขโมยของสำคัญนำมาขายเป็นเศษเงินจึงทำให้ต้องชดใช้หนี้หลายสิบล้าน ทาวน์เฮ้าส์เก่าซอยแปด แกร๊ก "เดี๋ยวพี่จะลองไปยืมเงินท่านประธานดู" พี่สาวตัดสินใจพูดอย่างจริงจัง "ท่านประธานของพี่ถึงจะรวยแต่เขาก็เกรงใจพ่อแม่มากไม่ใช่หรือไง...เงินตั้งหลายสิบล้านใครจะให้ยืมง่ายๆ" "เราก็ไม่ต้องยืมเยอะสิ เอาแค่ส่งกานดาเรียนมหาวิทยาลัยได้ก็พอแล้ว" ใบหน้าน้องสาวบูดบึ้งไม่ตอบกลับ รีบถือกระเป๋านักเรียนหอบหนังสือขึ้นบนห้องนอนชั้นสองของบ้าน กิ่งแก้วนั่งลงบนโซฟาในห้องโถงคับแคบ พยายามใช้สตินึกคิด สักพักก็ขึ้นห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านอนหลับเพื่อสู้ในวันต่อไป เช้าตรู่ "ตั้งใจเรียนนะ" กิ่งโบกมือให้ มองน้องสาวเดินไปยังปากซอยเพื่อขึ้นรถเมล์ "เหลือเวลาอีกสามชั่วโมง เฮ้อออ" เสียงถอนหายใจเมื่อนึกถึงงานตรงหน้า วันนี้ท่านประธานสั่งให้เธอไปร่วมงานซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ยังดีที่เงินพิเศษกลับมา รีสอร์ตชายฝั่ง "ยินดีมากเลยครับคุณทินกร" ชายวัยอาวุโสของบริษัทคู่ค้าจับมือยิ้มอย่างจริงใจ "ตั้งแต่คุณมาบริหารงานแทนท่านยอดขายของเราพุ่งสูงมาก" "แน่นอนครับเพราะผมอุทิศเวลาให้กับงานเป็นหลักเสมอ" "ทั้งหล่อทั้งเก่งแบบนี้ไม่ทราบว่ามีคู่หมายหรือยัง ฮ่าๆ ถ้ายังไม่มีจะจองให้ลูกสาวผม" "ขอบคุณมากครับแต่ผมยังไม่คิดถึงเรื่องนั้นตอนนี้" บทสนทนาของนักธุรกิจชื่อดังทำให้เลขาอย่างกิ่งแก้วกลอกตาไปมา สักครู่เธอจึงขออนุญาตเดินไปเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ด้านหลัง ห้องVIP "ไม่เจอกันนานนึกว่าเส้นเลือดในสมองแตกตายห่าไปแล้วไอ้คนบ้างาน" "มาถึงก็ปากดีเลยนะมึง" "ใจเย็นสิครับคุณทินกร" "กวนตีน" เจฟ เพื่อนสนิทคนเดียวของทินกร พวกเขามีฐานะเท่าเทียมกัน เติบโตมาในโรงเรียนไฮสคูลตั้งแต่อนุบาล ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกระทั่งเติบโตในวัยสามสิบ จึงแยกกันไปบริหารธุรกิจของที่บ้าน ทินกร บริษัท เฟอร์นิเจอร์หรูหรา เจฟ บริษัท โชว์รูมรถสปอร์ตนำเข้าจากต่างประเทศ "เลขาของมึงเดินสวนทางกันเมื่อกี้อย่างแจ่ม" เจฟหยิบไวน์ขึ้นมาพร้อมพูดเสียงมีเลศนัย "เสร็จมึงหรือยัง..." "มึงจะบ้าหรือไง เด็กเพิ่งจบมหาลัยอายุยี่สิบสี่ปีเองมั้ง" "โอ๊ยยย พ่อคุณ เกินวัยสิบแปดปีก็ถือว่าใช้ได้แล้ว!" "ผู้หญิงไม่ใช่มะม่วงสุกจะหากินได้ง่ายขนาดนั้น ไม่น่าที่ช่วงก่อนมึงเข้าโรงพยาบาลบ่อย แดกไม่เลือกนี่เอง" หน้าของเจฟสื่ออารมณ์อยากตบกบาลเพื่อน แต่ก็ต้องอดกลั้นเอาไว้ก่อนที่จะเลิกคิ้วแล้วพูด "มึงบอกว่ากูกินไม่เลือก ถ้าอย่างนั้น..เลขาสาวสวยวัยขบเผาะของมึงกูขอนะ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD