เจ้ามีสิ่งนี้ได้อย่างไร!!!

1515 Words
ด้วยรู้ว่าหากเขาเค้นถามสาวใช้ต่อ เรื่องที่นางใช้ให้ซีเยว่ออกไปซื้อของให้หลิวชิงจะต้องถูกเปิดโปงอย่างแน่ เขายังเห็นแก่หน้านางที่เป็นฮูหยินเอกอยู่ ที่เขาลงมือในวันนี้ ก็เพื่อเตือนนางไม่ได้รังแกซีเยว่เช่นที่ผ่านมาอีกแล้ว “เรื่องนี้ น้องจะจัดการให้ท่านพี่เองเจ้าค่ะ อย่าได้ทำให้ตนเองเหน็ดเหนื่อยเพิ่มเลย” อู๋ซื่อรู้ได้จากแววตาของเขา ว่าเขากำลังเตือนนางอยู่ ทั้งยังมอบทางลงให้นางอีกด้วย “ดี ข้าจะรอฟังการจัดการของเจ้า” เว่ยหมิงเขยิบเข้าไปใกล้อู๋ซื่อแล้วกระซิบบอกนางด้วยเสียงอันเบา “เงินรายเดือนของซีเยว่ เจ้าก็นำกลับคืนมาจากสาวใช้ของนางให้ครบ ทั้งเรื่องข้าวของตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่นางควรได้ก็จัดการให้นางเสีย” อู๋ซื่อสะท้านออกมาด้วยความตกใจ แม้แต่เรื่องนี้เขาก็รู้ แล้วเรื่องที่ผ่านมาที่นางสั่งให้แม่นมสั่งสอนซีเยว่จนเสียนิสัย เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร “จะ เจ้าค่ะ” นางก้มหน้าลง เพื่อไม่ให้เขาเห็นใบหน้าที่ซีดขาวของนาง แววตาที่เกิดจากความไม่ยินยอมของอู๋ซื่อมองตามแผ่นหลังของสามีที่เดินจากไปอย่างโกรธแค้น นางได้แต่สาบานในใจว่านางจะต้องหาทางเอาคืนเรื่องในวันนี้ที่ทำให้นางเสียหน้าต่อหน้าสาวใช้อย่างแน่นอน เว่ยหมิง เดินไปที่เรือนของซีเยว่ เพื่อดูว่านางอาการเป็นเช่นใดบ้าง เมื่อมาถึงก็เห็นว่าแม่นมชุยกำลังนั่งพักอยู่ที่หน้าห้องของซีเยว่ “คุณหนูของเจ้าเป็นเช่นใดบ้าง” “นายท่าน เมื่อคืนยังมีไข้สูง แต่วันนี้ดีขึ้นไม่น้อยแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้กำลังพักอยู่ด้านใน ให้บ่าวแจ้งว่าท่านมาพบหรือไม่เจ้าคะ” “ไม่ต้อง ข้าจะเข้าไปหานางเอง” เว่ยหมิงเดินเข้าไปด้านใน เขามองหาซีเยว่ที่ต้องนอนพักอยู่บนเตียงแต่ก็ไม่เห็นตัวนาง “อาเยว่!!!” เขาร้องออกมาเสียงดัง พร้อมทั้งเดินไปสำรวจห้องด้านข้าง ก็ไม่เห็นเงาของนาง “คะ คุณหนูเป็นอันใดเจ้าคะ” แม่นมชุยตามเข้ามาอย่างร้อนใจ แต่เมื่อไม่เห็นร่างของซีเยว่ภายในห้อง นางก็ต้องยกมือขึ้นปิดปาก เกือบจะส่งเสียงร้องออกมา “นางไปที่ใด!!!” เขาร้องถามออกมาด้วยเสียงแข็งกร้าว พาลให้นึกถึงเรื่องที่นางมักจะหนีออกไปเที่ยวเล่นขึ้นมา แต่ตอนนี้นางยังป่วยไม่น้อย แล้วจะออกไปด้านนอกได้อย่างไรโดยที่ไม่มีคนรู้ “คุณหนูไม่ได้ออกไปที่ใดเลยเจ้าค่ะ บ่าวเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องตลอด เพิ่งจะออกไปหน้าห้องตามคำสั่งของคุณหนูเมื่อครู่นี้เองเจ้าค่ะ” แม่นมชุยคุกเข่าเอ่ยออกมาอย่างหวาดกลัว “เจ้าไปเฝ้าที่หน้าห้องไว้ อย่าให้ผู้ใดเข้ามา” หากเป็นเช่นที่แม่นมชุยว่า นางไม่มีทางจะหายไปได้อย่างแน่นอน ในจวนมีองครักษ์เดินตรวจตราอยู่ตลอด หากนางจะออกทางหน้าต่างยิ่งเป็นไปไม่ได้ เมื่อหน้าต่างยังถูกลงกลอนจากด้านในอยู่ เว่ยหมิงนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงของซีเยว่อย่างครุ่นคิด “คนทั้งคนจะหายไปได้อย่างไร” เขาจะนั่งรอจนกว่าซีเยว่นางจะกลับมา หากนางออกไปเที่ยวเล่นด้านนอกอย่างไรก็ต้องกลับมาที่เรือนอย่างแน่นอน ซีเยว่ ที่วิ่งสำรวจมุมต่างๆ จนทั่วทั้งห้างสรรพสินค้าของนางแล้ว นางก็คิดจะกลับออกไปด้านนอก ด้วยไม่รู้ว่าผ่านมานานเพียงใดแล้ว และร่างกายที่ยังไม่ฟื้นตัวดี ทำให้นางอยากจะกลับไปนอนพักแล้ว หากแม่นมชุยเข้ามาดูนาง ภายในห้องแล้วไม่พบตัวนางอาจจะสงสัยนางเอาได้ “กรี๊ดดดดด” เมื่อนางออกมาด้านนอกก็ต้องกรีดร้องออกมาอย่างตกใจ ด้วยนางโผล่ขึ้นมาอยู่ตรงหน้าของบิดานางพอดี เว่ยหมิงเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เพียงแต่เขาร้องไม่ออกก็เท่านั้น เมื่ออยู่ๆ ซีเยว่นางก็โผล่ออกมาจากความว่างเปล่า ราวกับหายตัวไปมาได้เสียอย่างนั้น “ท่านพ่อ!!!” “เกิดเรื่องใดเจ้าคะ” แม่นมชุยร้องถามเสียงดัง นางถูกห้ามไม่ให้เข้ามา จึงไม่กล้าขัดคำสั่ง “ไม่มี ไม่ต้องเข้ามา” เว่ยหมิงกว่าจะหาเสียงตนเองเจอ แล้วเอ่ยตอบไปก็กินเวลาอยู่นาน จนแม่นมชุยร้อนใจจะเปิดประตูห้องเข้ามาอยู่แล้ว สองพ่อลูกต่างจ้องมองหน้ากันไปมา เว่ยหมิงอดไม่ได้ที่จะเป็นคนเอ่ยถามขึ้นมาก่อน “อาเยว่ เจ้าทำได้อย่างไร” เขาสงสัยไม่น้อยที่นางสามารถหายตัวไปมาได้ “เอ่อ...ท่านพ่อ เอ่อ...หากข้าบอกสิ่งใดท่าน ท่านจะคิดว่าข้าเป็นปีศาจหรือไม่” นางกลัวว่าจะถูกจับไปเผาทั้งเป็น “เจ้ามาว่าเถิด” เขายังตกใจไม่หาย แต่ก็อยากจะฟังคำแก้ตัวของนางเสียก่อน “ที่นี่คงไม่สะดวกพูด ลูกจะพาท่านไปอีกที่เจ้าค่ะ” ซีเยว่คว้ามือของเว่ยหมิงมาจับไว้ ก่อนจะพาหายเข้าไปในมิติ “นะ นี่!!!” เขาเบิกตาจ้องมองหอสูงหน้าตาประหลาดตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตาของตนเอง ด้านนอกมิได้ทำมาด้วยไม้เช่นร้านค้าหรือเรือนที่เคยพบเห็น แต่ทำขึ้นมาจากสิ่งใดเขาก็ไม่อาจจะบอกได้ ขนาดของมันสูงใหญ่ไม่น้อย ไหนจะจำนวนชั้นที่มีมากกว่าหอโคมแดงที่สูงถึงสามชั้นในเมืองหลวงเสียอีก “ที่นี่ เรียกว่ามิติเจ้าค่ะ ที่ท่านพ่อเห็นคือร้านค้า เข้าไปดูด้านในดีหรือไม่เจ้าคะ” ซีเยว่ดึงมือบิดาของนางให้เดินเข้าไปด้านใน ตัวเว่ยหมิงยามนี้ราวกับวิญญาณของเขาหลุดออกจากร่าง ไม่ว่าซีเยว่นางจะพาไปทิศทางใด เขาล้วนแต่ให้นางทำตามอำเภอใจ “ประหลาดนัก” ข้าวของที่อยู่ด้านในทำให้เว่ยหมิงอุทานออกมา เขาไม่เคยเห็นสิ่งต่างๆ มาก่อนแม้แต่ชิ้นเดียว เสื้อผ้าที่เห็นจะบอกว่าเหมือนที่ชาวเมืองทั่วไปสวมใส่ก็เห็นจะไม่ถูกหนัก เมื่อเนื้อผ้าที่เขาสัมผัสมันลื่น นุ่มน่าสวมใส่มากกว่า ไหนจะรองเท้ารูปร่างแปลกตา แต่พอได้สวมใส่กลับสบายจนไม่อยากจะถอด (รองเท้าผ้าใบ) ซีเยว่ที่พาบิดาสำรวจตามชั้นต่างๆ จนทั่วแล้ว ก็เอ่ยขึ้น “ท่านพ่อ ท่านอยากรู้สิ่งใดก็ถามลูกเถิดเจ้าค่ะ” นางรู้ว่าบิดามีข้อสงสัยอยู่เต็มท้อง แต่ต้องการจะสำรวจให้แล้วเสร็จเสียก่อน ที่จะเอ่ยถามนาง เว่ยหมิง มองใบหน้าของบุตรสาวอยู่เนิ่นนานกว่าที่จะเอ่ยออกมาได้ “เจ้ามีสิ่งนี้ได้อย่างไร” “หากลูกบอกท่านว่า ตอนที่ลูกป่วยวิญญาณของลูกไปพบเทพแห่งการเวียนว่ายกับเทพชะตามาท่านจะเชื่อหรือไม่เจ้าคะ” ซีเยว่มองหน้าบิดาของนางอย่างจริงจัง “เจ้าว่าเช่นไรนะ!!!” เขาร้องออกมาอย่างไม่เชื่อ แม้ว่าท่านหมอที่มาตรวจอาการของนางจะบอกให้เขาเผื่อใจไว้บ้างแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่านางถึงกับวิญญาณหลุดออกจากร่างไปจริงๆ “ท่านฟังไม่ผิดเจ้าค่ะ ลูกเหมือนได้ตายไปแล้ว สิ่งนี้ ท่านเทพชะตามอบให้ลูก ด้วยเห็นว่าลูกอาภัพเรื่องมารดา ทั้งยังมีชะตากรรมที่เลวร้ายไม่น้อย” ใบหน้าของซีเยว่หมองลง นางไม่คิดจะโกหกบิดาเช่นนี้ แต่ให้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดก็เห็นทีจะเป็นไปไม่ได้ จะให้บอกว่าเทพชะตาทำเรื่องผิดพลาด เข้าฝันนักเขียนนิยายจนเขียนเรื่องราวของนางยุ่งเหยิง บิดาจะได้หาว่านางเสียสติไม่ว่า “อาเยว่” เว่ยหมิงเอ่ยเรียกบุตรสาวอย่างปวดใจ นางคงถูกรังแกมาไม่น้อย แม้แต่เทพชะตายังเห็นใจนาง “ลูกยังได้รู้เรื่องราวจะเกิดขึ้นต่อจากนี้อีกด้วยเจ้าค่ะ ต่อไปลูกจะทำผิดที่เชื่อใจบ่าวชั่วจนถูกวางยาพิษ” คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของซีเยว่ทำให้เว่ยหมิงภายในใจกระตุกขึ้น เช่นนั้นภาพฝันที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ ก็เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงในอีกไม่นานข้างหน้า “เจ้าถึงได้ขอให้บิดาเปลี่ยนตัวสาวใช้กับแม่นมจินใช่หรือไม่” “เจ้าค่ะ” นางพยักหน้ารับ พอได้เห็นใบหน้าที่หมองเศร้าของบิดา นางจึงได้เปลี่ยนเรื่องทันที “ท่านพ่อ ของด้านในนี้ หากมีสิ่งใดที่ช่วยเหลือเรื่องงานของท่านใด ก็บอกกล่าวลูกสักคำ ลูกจะได้นำออกไปให้ท่าน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD