ตัวแม่นมจิน ครั้งหนึ่งนางเคยถูกอู๋ซื่อช่วยชีวิตไว้ ชีวิตของนางจึงต้องยกให้อู๋ซื่อ ไม่ว่าเรื่องเลวร้ายที่ผ่านมาหนักหนาเพียงใด นางก็ล้วนแต่ทำตามอย่างไม่มีข้อแม้
“ขะ ข้า ผิดอันใด” ซีเยว่เอ่ยถามออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา
“คุณหนูผิดที่เกิดมาเป็นเพียงบุตรอนุ หากภพหน้ามีจริง คุณหนูท่านเกิดมาเป็นบุตรภรรยาเอกเถิดเจ้าค่ะ” แม่นมจินทรุดตัวคุกเข่าลงร้องไห้อยู่ข้างกายซีเยว่
ไม่มี ภพหน้าไม่มีจริง ข้าผิดที่เป็นบุตรอนุเพียงเท่านี้เลยรึ
ซีเยว่ดวงตาเบิกโพลง นางสิ้นลมหายใจ ไปด้วยความคับแค้นที่มีอยู่เต็มอก ทั้งคำถามที่นางผิดหรือที่เกิดมาเป็นบุตรอนุ
แสงไฟด้านนอกที่พากันรีบร้อนเดินมาทางห้องเก็บฟืน เห็นเพียงประตูห้องที่เปิดออก ด้านในมีร่างของสตรีสองร่างที่นอนสิ้นลมหายใจจากไปแล้ว
นายท่านเว่ยทรุดตัวลงกับพื้น มองบุตรสาวของตนที่ตายตาไม่หลับอย่างปวดใจ
“อาเหยา ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่อาจทำตามที่พูดกับเจ้าไว้ได้” เขาเอ่ยออกมาด้วยเสียงสะอื้นไห้
อู๋ซื่อแม้จะลอบใช้ผ้าเช็ดหน้ายกขึ้นมาซับน้ำตา แต่มุมปากที่ยกขึ้นของนาง ก็ทำให้กู้หยางเห็นได้อย่างชัดเจน
หลิวชิงใบหน้าซีดขาวเกือบจะเป็นลม จนสาวใช้ต้องประคองนางไว้ในอ้อมแขน ยิ่งดวงตาที่ไม่อาจปิดได้ของซีเยว่ที่จ้องมองมาทางนาง ก็ทำให้นางหวาดกลัวเสียจนแทบสิ้นสติ
เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ ซีเยว่นางไม่มีทางได้รับรู้อีกแล้ว
ซีเยว่มองหนังสือนิยายในมือที่เพิ่งอ่านไปได้เพียงแค่ครึ่งเล่ม ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทำให้นางโยนทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ไยดี
พร้อมทั้งลุกขึ้นเดินไปหาน้ำดื่มเพื่อดับกระหาย อารมณ์ของนางในยามนี้ไม่ปกตินัก อาจจะเป็นเพราะเนื้อเรื่องของนิยายที่ได้อ่านมา มันคือตัวนางอย่างไม่ต้องสงสัย
นิยายเรื่อง เส้นทางขุนนางอันดับหนึ่ง ที่เล่าเรื่องราวของ มู่เสวี่ย ขุนนางที่สร้างหน้าประวัติศาสตร์ เปลี่ยนแปลงระบบการเมืองร่วมกับองค์ชายสาม ที่ต่อไปจะได้ขึ้นนั่งบัลลังก์
นางเห็นว่าน่าสนใจไม่น้อย อีกทั้งสหายของนางต่างก็ชื่นชอบในเรื่องราวแย่งชิงบัลลังก์ จึงได้บอกให้นางไปซื้อมาอ่าน
ในตอนแรกซีเยว่ก็แปลกใจไม่น้อยที่ตัวเอกมีชื่อคล้ายกับคนรู้จักในภพก่อนของนาง แต่เมื่อเนื้อเรื่องในช่วงแรกที่พูดถึงเรื่องราวความรักที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคไม่น้อยของมู่เสวี่ยและเว่ยหลิวชิง
ก็ยิ่งทำให้นางที่อ่านอยู่ถึงกับต้องขมวดคิ้ว นางเอกของเรื่องมีน้องสาวที่เป็นบุตรของลูกอนุ ชื่อว่า เว่ยซีเยว่ ไหนจะเรื่องคู่หมั้นที่โผล่ขึ้นมาของนางคือ กู้หยาง จนถึงเรื่องที่น้องสาวแย่งคู่หมั้นของนางไปได้สำเร็จ นางจึงได้แต่งให้กับมู่เสวี่ย เป็นท่านหญิงที่มีแต่คนอิจฉา
“บ้า ไปแล้ว!!!” ซีเยว่วางแก้วน้ำเสียงดังอย่างหงุดหงิด
ตัวนางในยามนี้แม้จะเกิดในภพใหม่ที่ทุกสิ่งอย่างล้วนแต่เจริญรุ่งเรือง แต่ความทรงจำเดิมที่ติดตัวมาด้วย ทำให้นางใช้ชีวิตอย่างพึงระวังมากขึ้น
นางไม่เคยเชื่อใจและไว้ใจใครอีกเลย แต่ครอบครัวที่นางมาเกิดด้วยต่างก็มอบความรักให้นางจนแทบจะเรียกได้ว่า ชดเชยสิ่งที่นางขาดไปในภพก่อนได้เป็นอย่างดี
นางที่ติดนิสัยขี้โวยวายมาตั้งแต่ภพก่อน ก็เปลี่ยนแปลงเพื่อจะได้เป็นที่รักของคนในครอบครัว
ตอนนี้นางเข้ามาศึกษาอยู่ในกรุงปักกิ่ง ด้านการตลาด แต่นางก็ยังชื่นชอบเรื่องศึกษาเรื่องราวประวัติศาสตร์ในยุคโบราณ อีกอย่างก็คงเป็นนิยาย ย้อนยุคทะลุมิติที่นางชื่นชอบเป็นพิเศษ
อาจจะเพราะนางมีความทรงจำเดิมติดตัวมาด้วย จึงทำให้อดคิดไม่ได้ว่าหากนางได้ย้อนกลับไปแก้ไขอดีตจะดีมากเพียงใด นางจะไม่เชื่อในคำของแม่นมจินและนางอู๋ซื่อที่คอยสอนนางในทางที่ผิดอีกแล้ว
แต่มาวันนี้ นางเพิ่งจะได้รู้ว่าเรื่องราวของนางเป็นเพียงเรื่องนิยายที่ถูกนักเขียน ขีดเส้นชีวิตผ่านนิ้วมือของพวกเขา
“...” ซีเยว่เหมือนจะนึกเรื่องอะไรออก นางรีบเดินไปที่ถังขยะที่เพิ่งจะโยนหนังสือทิ้งทันที
นางดูว่านักเขียนชื่อว่าอะไร ก่อนจะค้นหาข้อมูลของเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นรายชื่อที่ต้องการ นางก็ทักไปหาเขาทันที
[คุณเป็นคนที่เขียนนิยายเรื่อง เส้นทางขุนนางอันดับหนึ่ง ใช่ไหมคะ]
ซีเยว่กัดนิ้วหัวแม่มืออย่างรอคอย นางไม่รู้ว่าคนที่นางทักหาจะใช่ตัวจริงหรือไม่
“อาเยว่ ลงมากินข้าวได้แล้วลูก” เสียงของคุณแม่ที่ร้องเรียกอยู่ชั้นล่างของตัวบ้าน
“ค่ะแม่ หนูจะรีบไป” นางมองที่หน้าจอคอมอีกครั้ง ก่อนจะปิดหน้าจอลง แล้วลงไปกินข้าวด้านล่าง
ตอนที่นางกลับขึ้นมาบนห้องอีกครั้ง ข้อความที่ส่งไปก่อนหน้านี้ก็ได้รับการตอบรับกลับมา
[ใช่ค่ะ ฉันเอง คุณมีข้อสงสัยตรงไหนไหม]
[นิยายเรื่องนี้ คุณคิดขึ้นมาเอง หรือว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากที่ไหนคะ]
[เพราะอะไร คุณถึงมาถามฉันแบบนี้]
[ก็เนื้อเรื่องมันเหมือนเรื่องของฉันในภพก่อน คุณจะให้คำตอบฉันยังไง] ซีเยว่หัวเสียไม่น้อย นางจริงได้บอกความจริงเจ้าของนิยายไปแบบนั้น
[อืม...คุณคือหลิวชิงหรือซีเยว่ละ]
[ซีเยว่ ทำไม หรือว่าหลิวชิงก็มาเกิดใหม่ด้วยเหรอ] เรื่องนี้ทำให้ซีเยว่ตกใจไม่น้อย
[ไม่หรอก เพียงแต่ในนิยายมีตัวเอกที่เป็นผู้หญิงสองคน โอ้...ไม่คิดว่าตัวละครของฉันจะมีชีวิตจริง] เธอเล่นไปตามซีเยว่ด้วย
[ฉันต้องโดนกล่าวหาความผิดทั้ง ๆ ที่ฉันไม่ได้ทำ คุณจะรับผิดชอบอย่างไร]
แต่ซีเยว่ก็รู้สึกหัวเสียไม่น้อย ที่ต้องถูกเขียนให้ชะตาชีวิตในภพก่อนเลวร้ายมากถึงเพียงนี้ นางต้องกลายเป็นสตรีร้ายกาจ ที่ไม่มีสหายอยากจะคบหา
ทั้งจุดจบที่โหดร้าย ที่ต้องถูกวางยาพิษจากคนที่เลี้ยงดูนางมา และเป็นคนที่นางไว้ใจมากที่สุด ความทรงจำเลวร้ายยังตามหลอกหลอนนางอยู่หลายปี จนเมื่อนางอายุได้สิบขวบถึงได้เลิกฝันร้าย ถึงเรื่องราวตอนที่นางตายลง
[อยากกลับไปแก้ไขเหรอ เรื่องนี้ฉันช่วยไม่ได้ จะให้เขียนใหม่ก็ไม่ได้ นิยายฉันตีพิมพ์มาได้หลายปีแล้ว ขอโทษด้วย]
บทสนทนาถูกตัดไปดื้อๆ ด้วยนักเขียนก็ไม่ได้เชื่อซีเยว่เต็มร้อย ว่าสิ่งที่นางพูดเป็นเรื่องจริง
เพราะมีนักอ่านหลายคนที่เอาชีวิตของตนเองเข้าไปอยู่ในโลกของนิยาย จนแยกไม่ออกว่าไหนเรื่องจริง หรือเรื่องที่คนอื่นแต่งขึ้น
“เฮ้ยยยย ง่ายแบบนี้เลยเหรอ แต่ก็จริง ฉันจะกลับไปแก้ไขอะไรได้” ซีเยว่ปิดคอมด้วยความหงุดหงิด นางเดินมาล้มตัวลงนอนที่เตียงอย่างครุ่นคิด
“หากเขาเชื่อฉันก็บ้าแล้ว” ซีเยว่สลัดเรื่องในภพเก่าทิ้ง นางลุกไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมตัวเข้านอน
อยากกลับหรือไม่ ข้าช่วยเจ้าได้ หากเจ้าอยากกลับไป
เสียงที่เข้ามาในหัวยามที่ซีเยว่กำลังหลับฝัน ทำให้นางหงุดหงิดไม่น้อย แต่เสียงของสตรีที่ได้ยินก็ไม่ได้จางหายเสียที
จนนางต้องลุกขึ้นมาเปิดไฟหัวเตียงเพื่อดูว่า คนที่กำลังพูดอยู่เป็นใครกันแน่
“คะ คุณ เป็นใคร” นางเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นหญิงชราตรงปลายเตียงที่อยู่ในชุดโบราณสีขาวงาช้าง กำลังยิ้มมองมาที่นางอยู่
“ข้ารึ เทพแห่งการเวียนว่าย” นางเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่ดังก้องอยู่ในหูของซีเยว่