บทที่หนึ่ง

2193 Words
หนึ่งปีก่อนหน้านี้… เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ ‘ดาริกา’ รู้สึกตื่นเต้น ใจดวงน้อยเต้นระรัวราวจะหลุดออกจากอกเสียให้ได้ เพราะวันนี้คนสำคัญที่สุดในชีวิตเธอกำลังกลับมา ชายหนุ่มคือ ‘อาคิรา’ หรือ พี่ซัน ลูกชายของเพื่อนสนิทที่ ‘พงศ์เทพ’ ตัดสินใจอุปการะ หลังจากพ่อและแม่อีกฝ่ายจากไปด้วยอุบัติเหตุ นั่นทำให้สองหนุ่มสาวผูกพันกันตั้งแต่วัยเยาว์ เขามีสถานะพี่ชายและเพื่อนเล่น แม้ทั้งคู่มีช่วงอายุที่ห่างกันกว่าหกปี “ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นน้องดาว” พงศ์เทพที่เห็นท่าทางลูกสาวก็แซวด้วยหน้าเปื้อนรอยยิ้ม มือแกร่งเอื้อมลูบหัวดาริกาอย่างเอ็นดู ท่านจำได้ตอนอาคิราไปเรียนต่างประเทศ ลูกสาวตัวดีร้องไห้เป็นเผาเต่า “ก็ดาวดีใจนี่คะคุณพ่อ พี่ซันกลับมาจะได้ไม่ต้องคิดถึงกันอีก” “เราไม่ไปเรียนต่อหรือไง ?” ท่านเลิกคิ้วถามหยั่งเชิง “ดาวเรียนใกล้บ้านก็ได้นี่คะ มหาลัยที่บ้านเรามีดีตั้งเยอะ อีกอย่างดาวคิดถึงคุณพ่อ” ดาริกาตอบความตั้งใจของตัวเองให้บิดารับรู้ หญิงสาวไม่อยากจะย้ายหรือไปเรียนมหาลัยที่เมืองหลวง เพราะต้องห่างจากคนที่รักทั้งคู่ เพียงแค่จินตนาการความเหงาก็พลันมาเยือน “พ่อดีใจนะที่พี่ซันเรียนจบไว น้องดาวก็เหมือนกันอย่ามัวแต่อู้เรียนจบจะได้รีบกลับมาช่วยพ่อกับพี่ซัน” เดิมทีพงศ์เทพทำธุรกิจห้างสรรพสินค้าที่เชียงใหม่ มีบ้างที่จะกว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์ยังกรุงเทพฯ “คุณพ่อพูดเหมือนดาวไม่เอาไหน” ดาริกาย่นหน้าบอก “พ่อล้อเล่น ลูกสาวของพ่อเก่งที่สุด” สองพ่อลูกไม่ทันหยอกล้อกันต่อ ความสนใจทั้งหมดจำพุ่งเป้าไปยังเจ้าของร่างสง่า ชายหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัดด้วยกางเกงสแล็กส์ดำ การแต่งกายเขาแม้ดูไม่เป็นทางการ แต่จัดว่าดูดีทุกกระเบียดนิ้ว ใบหน้าหล่อยิ้มทักคนข้างหน้า ความดีใจก็ประทุขึ้นมาในใจสองพ่อลูก “พี่ซัน” ดาริกาเรียกชื่อเขาดังลั่นก่อนร่างเล็กจะโถมกายเข้าไปกอดเขาเต็มแรง “โห น้องดาว ตัวเราไม่ใช่เบา ๆ เหมือนเมื่อก่อนนะคะ” เสียงทุ้มเอ่ยแซวทันทีที่ดาริกาห่างจากอ้อมกอดอาคิรา ‘เจ้าก้อนน้อยของพี่ซัน’ คือฉายาที่เขาตั้งให้เธอตั้งแต่สมัยเด็ก เพราะหญิงสาวมีแก้มป่องน่ารักและยังทำทีออดอ้อนและติดเขาแจตลอดเวลา “ก็ดาวคิดถึงพี่ซันนี่คะ” ดาริกามองชายหนุ่มพร้อมทั้งหันไปมองบิดาที่ยิ้มอยู่ข้างหลังอย่างเขิน ๆ “ไม่ได้เจอน้องดาวตั้งนาน โตขึ้นเยอะเลยนะเรา” “แหมพี่ซัน แก้มดาวไม่ได้เป็นก้อนเหมือนแต่ก่อนแล้วน้า หายไปตั้งเยอะแน่ะ” ดาริกามองค้อนอย่างน่ารัก “สวัสดีครับคุณลุง นี่มากับยายตัวเล็กสองคนเหรอครับ สมหมายไปไหน” เมื่อทักทายดาริกาเสร็จ อาคิราไม่ลืมหันไปยกมือไหว้พงศ์เทพ เสียงทุ้มเอ่ยถามถึงคนขับประจำบ้านทำเอาท่านหัวเราะทันที “ฮ่า ๆ ลุงมากับน้องดาวสองคน ยายตัวเล็กรีบตั้งแต่เช้าเพราะไม่ทันใจ เขาคงกลัวจะมารับซันช้าแล้วพี่ซันต้องรอมั้ง” พงศ์เทพพูดขึ้นพลางส่งสายตาเอ็นดูลูกสาว พอได้ยินพ่อพาดพิงเท่านั้นผิวแก้มขาวจัดของดาริกาก็ร้อนวูบ “พ่อคะเดี๋ยวพี่ซันก็…” “ฮ่า ๆ พี่ไม่แซวเราหรอก น้องดาวน่ารักสมกับเป็นยายตัวเล็กของพี่จริง ๆ” มือหนาเอื้อมไปลูบหัวน้องสาวบุญธรรม จากนั้นทั้งสามคนก็เดินออกนอกสนามบิน อาคิราอาสาจะขับรถให้กับพงศ์เทพเองโดยมีดาริกานั่งอยู่ข้างหน้า ตลอดทางมีเสียงชวนคุยอย่างสนิทสนมของคนตัวเล็กและคู่หมั้นตลอดเวลาจนกระทั่งถึงบ้านหลังใหญ่ พงศ์เทพให้คนงานช่วยยกข้าวของอาคิราขึ้นชั้นบน ห้องนอนเขาใหม่และสะอาดเอี่ยมอยู่เสมอ เพราะดาริกาและสาวใช้คอยปัดกวาดเช็ดถู เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นถูกรักษาไว้อย่างดี แม้หลายปีที่ผ่านมาชายหนุ่มไม่ได้อยู่ที่นี่ก็ตาม “ตามติดพี่แจเลยนะยายตัวเล็ก” อาคิราเอ่ยแซวพลางยิ้มให้ร่างบางที่ยืนไม่ไกลกัน ตั้งแต่ย่างเหยียบที่นี่ ดาริกาดูแลเขาทุกอย่างไม่ว่าจะเตรียมขนมและคั้นน้ำผลไม้เป็นของว่างให้แก้หิวระหว่างวัน ไหนจะเก็บของต่าง ๆ จนตอนนี้ใกล้เรียบร้อย ดาริกายิ้มตอบจากนั้นก็หันไปสนใจกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ตั้งอยู่ ด้วยความหวังดี อยากทำทุกอย่างให้เสร็จจึงถือวิสาสะจะรูดซิปกระเป๋าเพื่อเอาเสื้อผ้าข้างในและนำออกมาซัก ทันใดนั้นเองอาคิรารีบก้าวฉับ ๆ มาขวาง “เดี๋ยวเสื้อผ้าในกระเป๋าพี่จัดการเอง น้องดาวไปดูแลคุณพ่อเถอะ” พูดจบมือสากก็คว้าที่จับออกแรงดึงเบา ๆ ให้กระเป๋ามาอยู่ข้างหลังตนเอง ท่าทีรีบร้อน สีหน้าอึดอัดทำเอาดาริกาขมวดคิ้วสงสัย หรือข้างในจะมีบางอย่างที่เธอไม่สมควรรู้ “พี่ซันเป็นอะไรหรือเปล่าหรือในกระเป๋ามีอะไรที่อยากเก็บไว้เป็นความลับกับดาว” ดาริกาถามน้ำเสียงติดราบเรียบ แต่ก็ไม่ได้กดดันจนเกินไป อาคิรานิ่งชั่วครู่ก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้มที่เธอพอจะมองออกว่าไม่ค่อยสู้ดี “ไม่มีอะไรหรอกน้องดาว พี่เตรียมของขวัญไว้ให้เรากับคุณลุงนั้นแหละเลยอยากเก็บไว้เป็นความลับ ไว้เย็นนี้พี่จะเอาลงไปให้ตอนดินเนอร์นะคะ” แม้จะฝืนยิ้มและเอื้อมมือมาโยกหัวเธอ ทำราวกับปกติที่สุดแต่ดาริกาก็จับพิรุธได้ อาจเพราะสนิทกันตั้งแต่เด็ก ถ้ามีอะไรสะกิดใจ เซนส์ของเธอมักทำงานหนักเสมอ ไม่รู้อีกฝ่ายจะรู้ตัวบ้างหรือเปล่า แต่เขาโกหกไม่เก่ง… ไม่เก่งเลยจริง! “ค่ะ งั้นดาวไม่กวนพี่ซันดีกว่าเก็บของตามสบายนะคะ เจอกันตอนอาหารเย็น เดี๋ยวดาวจะลงมือเข้าครัวเองด้วยวันนี้” มือบางยกขึ้นโบกลา อย่างไรเสียดาริกาก็ยังคงเป็นคนเดิมอยู่วันยังค่ำ เธอจะไม่แสดงออกอะไรที่ทำให้เขาไม่สบายใจ ไม่หยิบยกเรื่องเล็ก ๆ เพื่อเป็นปัญหาจนต้องทะเลาะกัน “ค่ะ น้องดาวทำให้สุดฝีมือเลยนะคะ ไม่ได้กินฝีมือน้องดาวน้านนาน พี่คิดถึง” ชายหนุ่มเอ่ยคำหวานก็ได้รับรอยยิ้มจาง ๆ และยายตัวเล็กหมุนกายจากไป ไม่ถึงสิบนาทีเขาตัดสินใจเปิดกระเป๋าใบนั้นหยิบรูปถ่ายที่เก็บไว้เป็นความลับมาดูนั่นคือภาพชายหญิงคู่หนึ่งที่รอบกายปกคลุมด้วยทุ่งดอกไม้ในอังกฤษ ประเทศที่เขาและ ‘ลักษนารี’ พี่สาวคนสนิทของดาริกา ที่ปรึกษาเดียวตอนอยู่มหาลัยของเขา ตัดสินใจไปเรียนต่อด้วยกันจนความสัมพันธ์ที่ตอนแรกเพียงแค่เพื่อนนั้นพัฒนาไปอีกแบบ… ความสัมพันธ์ทางกายที่ไม่ได้ตั้งใจเริ่มต้นขึ้น จนเกือบที่จะเผลอใจไปกับหล่อน เพราะลักษนารีนั้นเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์และความร้อนแรงซึ่งแตกต่างไปจากดาริกา คู่หมั้นเพียงคนเดียวของเขา ดาริกาเป็นผู้หญิงที่อ่อนหวานและบอบบาง เธอเหมือนดอกไม้แสนสวยที่พร้อมจะปักรอเขาไว้อยู่บนแจกัน ซึ่งแน่นอนสำหรับผู้ชาย มันไม่มีความท้าทายอะไรเลย แต่ลักษนารีนั้นแตกต่างออกไป หญิงสาวมักจะมีอะไรใหม่ ๆ ให้ประหลาดได้ จนเผลอใจไปชั่วขณะกับ ผู้หญิงในแบบที่เขาไม่เคยพบเคยเจอ แต่ด้วยความรู้สึกผิดที่เกาะกุมหัวใจในทุกวัน ทำให้เขาตัดสินใจที่จะจบความสัมพันธ์กับลักษนารี อาคิรายอมรับว่าตนไม่ใช่ผู้ชายที่ดีเหมือนพงศ์เทพวางใจ เขาทั้งนอกใจดาริกาและเห็นแก่ตัว แต่ลึก ๆ ชายหนุ่มหนุ่มก็ขอเพียงความลับนี้ จะตายไปตั้งแต่วันที่จบความสัมพันธ์ โดยไม่เคยคาดคิดเลยว่าแค่ฉนวนเสน่หาเล็ก ๆ อาจกลายเป็นเพลิงเผาไหม้ความรู้สึกทุกคน ด้านดาริกาในช่วงเย็นของวันก็ลงมาช่วย ‘ป้านิ่ม’ หัวหน้าแม่บ้าน ดาริกาชอบหัดเข้าครัวตั้งแต่เด็ก ๆ อาจเพราะนิสัยช่างสังเกต เวลาใครทำอะไรเธอมักอยากรู้ และเสนอตัวเข้าร่วมด้วยเสมอ ทำเอาคนงานในไร่นี้ก็เอ็นดูคุณหนูน้อยทุกคน “วันนี้คุณดาวทำสุดฝีมือเลยนะคะ” กระต่ายลูกสาวป้านิ่มคลี่ยิ้มแซว อาจเพราะว่าที่คู่หมั้นกลับมา ดาริกาจึงตั้งใจทำอาหารมื้อนี้เป็นพิเศษ เธออยากแสดงฝีมือให้เขาชิมด้วยอาหารง่าย ๆ อย่าง ขนมจีนน้ำเงี้ยวและน้ำพริกหนุ่ม เพราะคิดว่าไปเรียนต่างประเทศหลายปีคงคิดถึงรสชาติอาหารพื้นบ้านง่าย ๆ “ป้าไม่เห็นคุณดาวยิ้มกว้างแบบนี้มานานและนะคะ” ป้านิ่มเองก็เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเธอ วันนี้ที่ชายหนุ่มกลับมาหล่อนดูออกว่าคุณหนูของบ้านตื่นเต้นแค่ไหน ใจดวงน้อยของดาริกาสลักชื่ออาคิราทุกอณู หญิงสาวไม่เคยมองใคร… โลกทั้งใบมีแค่เขาคนเดียว “ดาวก็ยิ้มแบบนี้อยู่ทุกวันนะคะ” ร่างบางตอบคำถามด้วยสีหน้าสดใส ทั้งในมือยังเตรียมอาหารไม่หยุด เพราะอาคิรากลับมาทั้งพงศ์เทพและดาริกาตกลงกันว่าวันนี้จะจัดปาร์ตีฉลองต้อนรับการกลับมาของชายหนุ่ม และยังถือโอกาสเลี้ยงคนงานในไร่ไปด้วยในตัว นอกจากอาหารที่ดาริกาและป้านิ่มช่วยกันทำแล้ว พงศ์เทพยังสั่งอาหารต่าง ๆ จากโรงแรมในเมืองเพื่อให้เพียงพอสำหรับคนงาน งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่น เพราะบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและต้นชาที่เขียวขจีทำให้องค์ประกอบทุกอย่างดูสวยงามไปหมด เมื่อเตรียมความเรียบร้อยเสร็จแล้ว ดาริกาก็ขอตัวเพื่อที่จะไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างบนห้องนอนของตัวเอง วันนี้ร่างบางเลือกสวมเดรสแขนสั้นสีขาวแบบสบายไม่เป็นทางการจนน่าอึดอัด ผมยาวสลวยถูกม้วนลอนธรรมชาติ ปกติแล้วอยู่บ้านดาริกาเป็นคนแต่งตัวเรียบง่ายอยู่แล้ว แต่เลือกเพิ่มความพิเศษตรงเครื่องประดับที่สวมใส่ มันคือสร้อยคอเพชรรูปดวงดาวซึ่งสื่อถึงตัวเธอ อาคิราให้ก่อนไปเรียนต่อต่างแดน แต่เธอไม่รู้ว่ามันคือของแทนใจหรือเปล่า ‘สร้อยคอเส้นนี้พี่ซื้อมันมาด้วยเงินเก็บจากการทำงานพาร์ตไทม์เดือนแรกของพี่ ถึงมันจะราคาไม่ได้สูงมาก แต่พี่ก็ซื้อให้น้องดาวด้วยใจนะคะ เพราะน้องดาวคือคนสำคัญของพี่’ ชายหนุ่มให้ในวันรับปริญญาของเขา หญิงสาวจำได้ไม่เคยลืม เพราะอาคิราสวมให้เองกับมือ ทั้งยังกระซิบถ้อยคำอ่อนหวาน จนสาวน้อยเพ้อฝันคิดไปไกล เมื่อเรียบร้อยเธอดูตัวเองหน้ากระจกอีกรอบ จากนั้นก็ตรงไปทางห้องนอนอีกฝั่ง ร่างบางเคาะประตูสองสามครั้งเพื่อขออนุญาตคนข้างใน ทว่าได้รับเพียงความว่างเปล่า ก้มดูนาฬิกาข้อมือก็พบว่าเลยเวลาจึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป เธอมองรอบห้องแต่ไม่พบชายหนุ่ม ดาริกานิ่งชั่วครู่คิดว่าเขาน่าจะลงไปข้างล่างที่งานแล้ว ทว่าลมปริศนานอกระเบียงกลับพัดเข้ามาแตะใบหน้าอย่างจัง และด้วยความหวังดีก็เป็นห่วงเขาน่าจะลืมปิดประตู “ผมไม่คิดว่าคุณจะโง่ตามมา เคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเรื่องของเราจบตั้งแต่ที่นู้น ทำไมรินถึงพูดไม่รู้เรื่อง” ถ้อยคำที่คนข้างนอกใช้คุยกับปลายสายทำเอาเธอตัวสั่น ความผิดหวังซัดเข้ากลางใจไม่ต่างกับคลื่นคลั่ง มือบางกำแน่นจนเล็บยาวจิกผิดตัวเอง เธอเจ็บกาย… แต่คงไม่เท่าใจที่เจ็บตอนนี้ เรื่องของเรา ? ริน ? หมายความว่าอย่างไร… หวังว่ารินที่อาคิราพูดถึงคงไม่ใช่ลักษนารี ผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งดาริกาไว้ใจมองหล่อนเป็นพี่สาวสุดที่รักหรอกนะ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นขึ้นมา แม้แต่หน้าเขาเธอก็ไม่อยากมอง!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD