“ครับ...ขอบคุณครับพี่ดา”
เวทิศพูดคุยกับภริดาต่ออีกครู่หนึ่ง ก่อนจะวางสายไป ชายหนุ่มถอนหายใจเบาบาง เขายิ้มในหน้า ถึงตอนนี้ เธอจะยังไม่มาเยี่ยมคุณแม่ และเขายังไม่ได้แนะนำให้คุณแม่รู้จักกับเธอ แต่อย่างไรเสีย ในอนาคต เขาก็ต้องพาเธอมาแนะนำให้คุณแม่รู้จักแน่นอน ในฐานะเมียของเขาและลูกสะใภ้ของแม่
หลังจากวางสายแล้ว เวทิศจึงกลับเข้ามาในห้อง
“นึกว่ากลับไปแล้วซะอีก”
เวทิศมองสบตาคนที่เพิ่งเข้ามาในห้องในตอนที่เขาออกไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียง
“คุณพ่อมานานหรือยังครับ”
“เพิ่งมา วันนี้ไม่มีเรียนเหรอ”
“ไม่มีครับ”
เวทิศเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงผู้ป่วย คุณทัดเทพซึ่งนั่งอยู่บนโซฟามองตามลูกชายกระทั่งเขานั่งลงที่เก้าอี้เรียบร้อยแล้ว จึงเอ่ยขึ้นว่า
“แกจะคบกับผู้หญิงคนนั้นอีกนานแค่ไหน”
“อย่ายุ่งกับเธอ” เวทิศสวนขึ้นทันที โดยไม่รอให้บิดาพูดจบประโยคดี
คุณทัดเทพถอนหายใจแรง
“อีกสองปี แกต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ ผู้หญิงคนนั้นจะรอแกเหรอ”
เวทิศเงียบ เขาไม่มองหน้าบิดา
“แล้วพอแกกลับมาเริ่มทำงาน แกจะไม่มีเวลาให้ใครเลยนะ ผู้หญิงคนนั้นจะรอ จะอดทนได้เหรอ”
แม้เวทิศทำเป็นไม่สนใจสิ่งที่บิดาถาม แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่คิดตาม
“แม่ยังรอ ยังอดทนอยู่กับพ่อได้เลย”
คุณทัดเทพมองคู่ชีวิตที่นอนหลับอยู่บนเตียงแล้วถอนหายใจ
“มันไม่เหมือนกัน แม่เขาเข้าใจพ่อ และแม่แกก็ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น”
คุณวิรงรองแกร่งและกล้าที่จะยืนเคียงข้างสามี คุณทัดเทพจึงรักและซื่อสัตย์ต่อภรรยาเพียงคนเดียว ทั้งยังให้เกียรติทั้งต่อหน้าและลับหลัง ท่านจึงอยากให้ลูกชายเลือกผู้หญิงดี ๆ เคียงข้าง อย่างน้อยก็ควรเป็นผู้หญิงที่แกร่งและกล้าให้ได้สักครึ่งหนึ่งของภรรยาของท่าน
“พี่ดาก็ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น เธอแกร่งมากกว่าที่คุณพ่อคิด” พี่ดาของเขาผ่านความเลวร้ายมาได้ และสามารถหยัดยืนด้วยตัวเองได้ขนาดนี้ เธอเป็นผู้หญิงที่เก่งและแกร่งที่สุดแล้วในสายตาเขา
“แต่เขาอายุมากกว่าแกตั้งหลายปี”
“คุณแม่ก็อายุมากกว่าคุณพ่อตั้งหลายปี”
คุณทัดเทพถอนหายใจแรง จะพูดอะไรไอ้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนก็เถียงกลับได้ตลอดเลยสิน่า
เออ...ใช่ เมียเขาแก่กว่าเขา 8 ปี แต่เขาก็รักและซื่อสัตย์กับเธอตลอดมา คุณวิของเขาเป็นผู้หญิงที่น่านับถือน้ำใจ เธออยู่เคียงข้างเขา ไม่เคยทิ้งเขาไปไหน แม้ในวันที่ชีวิตเขาตกต่ำ เธอก็คอยให้กำลังใจและสู้ไปด้วยกัน
คุณวิรงรองยิ้มขำ ก่อนจะลืมตาขึ้นมามองหน้าลูกชาย แล้วหันไปมองหน้าสามี
“คุณวิ ลูกชายคุณเถียงผม” พอเห็นเมียลืมตา คุณทัดเทพก็ฟ้องทันที พร้อมกับลุกขึ้นไปยืนข้างเตียงคนละฝั่งกับลูกชาย
“คุณก็อย่าว่าลูกสิคะ เรื่องอื่น...ลูกตามใจเราแทบทุกอย่าง ส่วนเรื่องหัวใจก็ให้ลูกตัดสินใจเองเถอะค่ะ”
“คุณก็ตามใจลูกตลอด”
“ก็ฉันมีลูกชายคนเดียวนี่คะ ไม่ตามใจลูก แล้วจะให้ตามใจใครที่ไหน”
เวทิศมองหน้าบิดาแล้วยิ้มอย่างผู้ชนะ เขายักคิ้วเยาะเย้ยแถมอีกต่างหาก
ยกนี้...คุณทัดเทพยอมให้ลูกชาย เพราะเกรงใจเมีย ท่านจึงไม่พูดเรื่องของลูกชายกับผู้หญิงคนนั้นต่อ แต่หันไปซักถามอาการของภรรยาแทน
แม้ธุรกิจที่ทำต้องใช้ความสามารถและความรับผิดชอบสูงมาก ทั้งยังต้องหูตาไว ปรับตัวให้ทันเมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการเปลี่ยนขั้วอำนาจ แต่คุณทัดเทพก็บริการจัดการเวลาได้อย่างดี ท่านมีเวลาให้ลูกเมียเสมอ จึงทำให้ครอบครัวอบอุ่นและเข้าอกเข้าใจกัน
“ถ้าจะจริงจังก็ควรบอกให้เขารู้ว่า ในอนาคต แกมีภาระอะไรบ้างที่ต้องรับผิดชอบ เขาจะได้ตัดสินใจได้ว่าจะอยู่เคียงข้างแก หรือว่าจะปล่อยมือจากไป”
คำพูดของคุณพ่อทำให้เวทิศครุ่นคิด และถามตัวเองว่า หากเขาบอกเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเขาและครอบครัวให้พี่ดาฟัง เธอจะยังให้เขาอยู่ในชีวิตของเธอหรือเปล่า และเธอจะยินดีจับมือเขาเพื่อก้าวเดินไปด้วยกันมั้ย
เวทิศใช้เวลาครุ่นคิดไม่นานสักนิด เพราะไม่ว่าคำตอบของพี่ดาจะเป็นเช่นไร ยังไงเขาจะไม่มีวันปล่อยให้เธอเดินจากไปเด็ดขาด
“จะกลับไปอยู่คอนโดวันไหนฮึ ! มาเฝ้าแม่อยู่ทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ ไม่มีเรียนหรือไง” คุณวิรงรองถามคนที่เพิ่งวางชามข้าวต้มลงตรงหน้า
“พรุ่งนี้ก็กลับแล้วครับ คุณแม่ลองชิมดูสิครับ อันนี้ผมปรับสูตรใหม่ ไม่รู้ว่าจะถูกปากคุณแม่หรือเปล่า” เวทิศนั่งลงที่เก้าอี้ข้างมารดา คอยดูแลท่านอย่างใกล้ชิด
“ลูกชายแม่ทำอะไรก็อร่อยทั้งนั้นแหละ เสน่ห์ปลายจวักล้นเหลือ ถ้ามีเมียนะ...เมียรักเมียหลงไปไหนไม่รอดแน่”
คุณวิรงรองแซวลูกชายด้วยความเอ็นดู ตาเวของท่านเป็นผู้ชายที่ชอบกับข้าว และค่อนข้างเจ้าระเบียบ ทั้งยังชอบเอาใจคนอื่นด้วย
“ขอให้ไปไหนไม่รอดจริง ๆ เถอะครับ ผมขี้เกียจวิ่งตาม”
“ก่อนจะวิ่งตามเมีย ก็ขอให้เรียนจบก่อนนะ แล้วอย่าเพิ่งเพิ่มห่วงให้ตัวเองล่ะ”
เวทิศยิ้มพราว
“มีลูกตอนเรียนไม่ได้เหรอครับ จะได้ทันใช้”
คุณวิรงรองมองค้อนบุตรชาย