บทที่หก

1984 Words
@Twenty Pub ผับหรูใกล้มหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างคิงตันมีเสียงดนตรีดังกระหึ่มกึกก้อง วันนี้เป็นวันศุกร์จึงมีทั้งเหล่านักศึกษาและคนวัยทำงานมาร่วมสังสรรค์ผ่อนคลายความเครียดตลอดทั้งสัปดาห์ ก้องภพเลือกโต๊ะใกล้เวที โบกมือเรียกเพื่อนสนิทที่เดินเข้ามาพร้อมๆ กันอย่าง คลื่น น้ำค้าง คะน้า และพระพาย “โอ๊ยช้ามากพวกมึง” หมอนั่นอ้างว่าเปิดเรียนมาหลายสัปดาห์แล้วยังไม่มีสักครั้งที่กลุ่มเราจะมาดื่มฉลองตั้งแต่เข้ารั้วมหาลัยฯ สักครั้งเดียว “ใครจะเหมือนแก พอตอบตกลงปุ๊บแสตนบายรอปั๊บเสี้ยนเหล้าอะไรขนาดนั้นวะไอ้ก้อง” คะน้าส่ายหน้าระอาใจ สองคนนี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากันประจำ “โอ๊ยป้า! หัดเปิดหูเปิดตาบ้างเพราะเป็นแบบนี้ไง สาวๆ แก๊งเราถึงไม่ค่อยมีใครมาจีบ” “ไอ้!” “ไม่ใช่สิวะ จะเหมารวมไม่ได้อีกแล้ว น้ำค้างคลื่นบอกยังว่ามีรุ่นพี่ปีสี่เล็งๆ แกอยู่” “หืม?” หญิงสาวเลิกคิ้วตั้งคำถาม ไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนชายคนดังกล่าวพูด “อย่าไปฟังมันมาก ไอ้นี่พอเหล้าเข้าปากก็ไร้สาระ” “หวงเพื่อนเวอร์” ชายหนุ่มยิ้มแซวอย่างมีเล่ห์นัย “แดกซะ ปากจะได้ไม่ว่าง” ไม่ถึงเสี้ยววินาทีมือหนักๆ ของคลื่นเคล้นสุดแรงตรงบ่ากว้างของก้องภพ เขาเลื่อนแก้วน้ำเมาให้เพื่อนรักเหมือนกับใจดี ทั้งที่ความจริงไม่ใช่! นัยน์ตาดุร้ายนั่นเหมือนประกาศกร้าวไปในตัวว่าให้หุบปาก! “น้ำค้างสนิทกับพี่เสือเหรอ” “ห้ะ?” ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองเจ้าของคำถามเลิ่กลัก น้ำค้างรู้สึกร้อนผ่าวจุกแน่นกลางอกไม่สบายใจยามได้ยินชื่อ ‘เสือ’ “เราถามว่าน้ำค้างสนิทกับพี่เสือเหรอ” “อ่อป่าว เรากับพี่เขารู้จักกันเพราะเรื่องดาวเดือน” หญิงสาวรู้ว่ามีใครบางคนจ้องมองอยู่เป็นระยะ หางตาคลื่นกระตุกหาเธอตั้งแต่ได้ยินประโยคแรกที่พระพายเอ่ยถาม น้ำค้างกลืนน้ำลายลงคอ ไม่รู้ตัวนั่นแหละว่าชายหนุ่มไม่พอใจ! “อ่อเรานึกว่าสนิทกัน พอดีเมื่อวานเราอยากถามเรื่องรายงาน โทร. หาใครก็ไม่รับสายเลยเดินตามน้ำค้างไปก็เห็นอยู่กับพี่เสือที่ห้องสโม” “น้ำค้างไปกับคุยเรื่องดาวเดือนกับพี่เขา ฉันก็ไปด้วยไม่มีอะไรอย่างที่แกคิดหรอก” คะน้าสังเกตว่าสถานการณ์เริ่มไม่ปกติจึงเอ่ยแทรก ทั้งรังสีอำมหิตของคลื่นคำพูดกึ่งแซวกึ่งจริงจังของพระพาย “อ่อจ้า” “ช่างแม่งเหอะ ดื่มๆ” ก้องภพก็เช่นกันอยากทึ้งหัวตนเองนักไม่น่าเปิดประเด็นตั้งแต่แรก “เอ้า ชนนนนนนน!” “เนื่องในโอกาสที่ไอ้คลื่นยอมให้เพื่อนรักออกมาเปิดหูเปิดตา ชนนนนนนน!” น้ำค้างกลับมายิ้มสดใส คราแรกลนลานจนแทบทำอะไรไม่ถูกแต่ความน่ารักของแก๊งเพื่อนสนิทก็เหมือนชุบชีวิตเธอไว้ ทั้งหมดหัวเราะก่อนชนแก้วในจังหวะลากเสียงประสานครั้งสุดท้าย “อย่าดื่มเยอะ” คลื่นโน้มกระซิบข้างหูผู้หญิงคนเดียวที่เขาเป็นห่วง “เดี๋ยวเมา ไม่แบกขึ้นหลังอย่างเดียวนะจะได้ขึ้นอย่างอื่นด้วย” “ทะลึ่ง รู้แล้วหน่า!” หญิงสาวหน้าแดงซ่านกับประโยคกำกวมสองแง่สองง่ามของชายที่แอบรัก “เดี๋ยวเราขอตัวไปออกไปสูดอากาศข้างนอกแป๊ปนะ” พระพายกระดกเครื่องดื่มพลางช้อนสายตามองยังน้ำค้างและคลื่น “โอเค” คะน้ายักไหล่คล้ายสนใจเท่าไหร่ หล่อนโปรยยิ้มหว่านเสน่ห์โต๊ะข้างๆ ทันทีเมื่อพูดจบ ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงต่างคนต่างดื่มพร้อมโยกไปกับจังหวะเพลงในผับอย่างผ่อนคลาย แต่ลึกแล้วในใจน้ำค้างกลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง… เหมือนพระพายมีอะไรอยากพูดกับเธอสองคนมากกว่า เพราะหล่อนเดินออกไปนานแล้วยังไม่กลับเข้ามาสักที ติ๊ด! ติ๊ด! เสียงโทรศัพท์เครื่องเล็กร้องได้จังหวะพอดี หญิงสาวก้มมองเพราะรู้แล้วว่าจะหาเรื่องออกไปเคลียร์ใจกับเพื่อนใหม่อย่างไรดี “พี่บุ๋มโทร. มาออกไปรับสายก่อนนะ” หญิงสาวหยิบเครื่องมือสื่อสารพลางเงยหน้าขึ้นบอกทุกคนในโต๊ะ “ใครโทรมา?” “พี่บุ๋มที่ฉันไปปฏิเสธดาวเดือนวันนี้ไง” น้ำค้างโกหกคำโต ความจริงแล้วพี่บุ๋มยังไม่อนุญาตให้เธอเทการประกวดเสียด้วยซ้ำ หล่อนตื้อเหมือนกับต้องการน้ำค้างแค่คนเดียว “รับสายแป๊ป ในนี้เสียงดังอะ” “ฉันไปเป็นเพื่อน” คลื่นจับแขนเรียวหลวมๆ เขามองหญิงสาวด้วยแววตาเป็นห่วงสุดฤทธิ์ “ออกไปคนเดียวได้ ฉันไม่ใช่เด็กๆ ซะหน่อย” “ไม่ได้เกี่ยวกับเด็กไม่เด็ก เธอไม่ค่อยระวังตัว” ชายหนุ่มต่อว่าตรงๆ เขาสังเกตหลายรอบ พอเหล้าเข้าปากน้ำค้างก็ออกสเต็ปเร่าร้อนเปลี่ยนเป็นอีกคนทันที “อีกอย่างเธอกินไปตั้งหลายแก้ว” “ฉันดูแลตัวเองได้ หรือนายอยากให้ฉันประกวดงั้นไม่ต้องรับสายก็ได้นะ” น้ำค้างผละตัวออกจากการเกาะกุม นัยน์ตาดวงน้อยถามกลับเขาอย่างมีเหตุผล “นะคลื่น…” “ดูแลตัวเองด้วย รีบไปรีบมา” สุดท้ายคลื่นก็ยกธงขาวพ่ายแพ้ ทำได้เพียงมองตามเธอตาปรอย น้ำค้างพาตนเองออกมาจากในโซนสูบหรี่ข้างนอก มีผู้คนมากมายคลอเคลียกันอยู่ นัยน์ตาดวงน้อยมองตาพระพายอย่างเร่งรีบ แท้จริงเธอกดตัดสายพี่บุ๋มตั้งแต่แรกแล้ว คิดว่าพรุ่งนี้มีเวลาเมื่อไหร่ค่อยโทร. กลับทีเดียว รู้สึกประหลาดในใจรบกวนจนความสนุกไปเกือบครึ่งนึง “น้ำค้าง!” พระพายเรียกชื่อหญิงสาวเสียงดัง ส่งผลให้คนตัวเล็กหันไปมองหล่อนทันที “มาทำอะไรตรงนี้ คลื่นล่ะ?” หล่อนถามถึงคลื่นทันที ก่อนมือเล็กจะยกขึ้นเช็ดรอยลิปสติกบริเวณขอบปาก “เราออกมาคุยธุระกับรุ่นพี่ข้างนอก คลื่นไม่ได้มาหรอก” “แย่จังฉันเข้าใจผิดเห็นพวกเธอตัวติดกันตลอด” หล่อนยิ้มแจ่มใส แต่ยังเอ่ยประโยคประชดประชันไม่จบไม่สิ้น “หมายความว่ายังไง?” “ฉันก็หมายความตามที่พูด เธอเป็นเพื่อนสนิทคลื่นนี่” “อืมแล้วยังไง” น้ำค้างละสายตามองรอบข้าง สูดหายใจเข้าออก เริ่มหมดความอดทนกับท่าทีกวนประสาทของผู้หญิงตรงหน้า “ก็ไม่ทำไมแค่แปลกใจนิดหน่อย” “แปลกใจอะไร” “ก็แปลกใจไงที่เขาไม่ได้บอกเธอว่าเคยสนิทกับฉัน” “ห้ะ?” น้ำค้างชะงักในทันที ดวงตากลมดุจตุ๊กตาหวั่นไหวกับคำพูดแบบนี้อย่างง่ายดาย “ฉันก็บอกว่า…ฉันเคยสนิทกับคลื่น” “…” “นี่ของเขาใช่ไหม” หล่อนชูอะไรบางอย่างที่ทำให้คนตัวเล็กหัวใจกระตุก… สร้อยภาษาอังกฤษรูปตัวเค ของขวัญวันเกิดปีที่สิบห้าที่เธอเป็นคนมอบให้เขาเองกับมือ… “เขาทำตกไว้ที่ห้องฉัน เห็นเธอสนิทกันมากฝากคืนหน่อยแล้วกัน” “ขอบใจนะ เดี๋ยวบอกคลื่นไง” “งั้นฝากลาพวกนั้นด้วย วันนี้ฉันสนุกมาก ” พระพายยกยิ้มมุมปาก หล่อนหัวเราะเบาๆ ก่อนเอื้อมมือลูบไหล่น้ำค้างอย่างมีชั้นเชิง “คลื่นน่ะ เขาน่ารักมากนะตอนเมาดูแลเขาดีๆ ล่ะ” หล่อนโน้มกายเข้ากระซิบใบหูเล็กที่ร้อนผ่าว น้ำค้างยืนกำมือแน่นไม่อาจขยับไปไหนรู้สึกหมดแรงเหลือเกิน… นี่มันเรื่องบ้าอะไร! คลื่นเคยมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนี้… ผู้หญิงที่ต่อหน้าเขาแสร้งทำเป็นไม่รู้จัก จอมปลอมสิ้นดี! ร่างเล็กเดินเข้ามาที่โต๊ะอีกครากลับต้องเบิกตากว้างแปลกใจ เพราะบัดนี้ไม่ได้มีแค่พวกเธอเท่านั้น ยังพ่วงรุ่นพี่ร่วมคณะนั่นคือพี่บุ๋มและชายหนุ่มหน้ากวนที่เธอคุ้นเคย “อ่าวน้ำค้าง พี่โทร. หาเราไม่รับสายเลยเดินเข้ามาทักทาย” บุ๋มทักทายรุ่นน้องสาวโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว “พอดีหนูออกไปสูดอากาศข้างนอก จะโทร. กลับหาพี่แต่อยู่เงียบๆ เพลินๆ เลยลืมไปขอโทษนะคะ” “ไม่เป็นไรไอ้หนู อย่าคิดมาก” “พระพายกลับแล้วนะ พอดีเมื่อกี้บังเอิญเจอกันเขาเลยฝากลา” หญิงสาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา มือเล็กเอื้อมคว้าแก้วเหล้ามาจ่อปากพร้อมกระดกรวดเดียว “อย่าดื่มเยอะ” คลื่นขมวดคิ้วไม่พอใจกับท่าทีแก่นแก้วของเพื่อนสนิท “ไม่ดื่มได้ยังไงเรามาเที่ยวกันทั้งทีนี่” “น้ำค้าง!” ชายหนุ่มอารมณ์ฉุนเฉียวทันควันยามคนตัวเล็กยิ้มสนุกราวกับไม่แยแสในความเป็นห่วงของตน “เอ้า ชนนนนน!” เธอเมินเฉยกับเสียงดุๆ ยกแก้วเหล้าเชิญชวนทุกคนต่อไป “บรรยายกาศชักไม่ดีว่ะ” ก้องภพโน้มกระซิบใกล้ๆ คะน้า ก่อนออกไปน้ำค้างยังปกติอยู่เลยแต่ทำไมพอกลับเข้ามาอีกครั้งหญิงสาวถึงไม่เหมือนเดิม “ตามน้ำไปก่อน” “มาเล่นเกมกันมั้ย” ไม่รู้เพราะฤทธิ์เหล้าหรือความน้อยใจทำให้คนตัวเล็กเอ่ยถามขึ้นมาอย่างนั้น “เอาดิ น่าสนุก” เสือเหมือนนึกอะไรออกก็รีบเสริมทัพทันที “สนุกบ้าอะไร กลับได้แล้วน้ำค้าง!” คลื่นโพล่งขึ้นคล้ายหมดความอดทน ยิ่งเห็นคนตัวเล็กส่งสายตาเชื้อเชิญรุ่นพี่หนุ่มคนนั้นเท่าไหร่ ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในเปลวไฟก็ไม่ปาน “ปล่อยฉันนะ!” น้ำค้างสะบัดมือออกห่างคนตัวสูง นัยน์ตากลมโตมองเขาส่อแววผิดหวัง “นายจะมาบังคับฉันเหมือนทุกทีไม่ได้แล้วนะคลื่น ฉันโตแล้วนะไม่ใช่เด็กผู้หญิงคนนั้นที่นายจะจูงไปนู้นนี่ได้ตามใจอีก” “ไม่เด็กงั้นเหรอ ที่เธอทำนี่คือไม่เด็กเลย!” “เอ้ยใจเย็นก่อน ค่อยๆ พูดกันดิวะ” “กูจะพาน้ำค้างกลับ!” “ปล่อย!” คลื่นไม่ฟังคำทัดทานของใครทั้งนั้น ชายหนุ่มดึงรั้งร่างเล็กเข้าหากายลูกเดียว “ผู้หญิงเขาไม่อยากไปด้วยก็อย่าบังคับดิวะ” “อย่าเสือก!” ทันทีที่เสือปรี่เข้าไปต่อ แววตาดุดันและหมัดหนักๆ ก็ชกลงตรงบริเวณใบหน้าหล่อเหลาทันที ผลั๊วะ! “ไอ้คลื่น!” กลายเป็นว่าทุกคนในบริเวณนั้นหันมองโต๊ะพวกเขาเป็นตาเดียว “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” น้ำค้างเม้มริมฝีปากก่อนสั่งห้ามคนไร้สติ ร่างเล็กคว้าชายหนุ่มตัวโตแต่กลับไม่ได้ผล เขาสะบัดสุดแรงจนร่างบางกระแทกเข้ากับโต๊ะ ผลั๊วะ! เสือไม่ฝืนทนอีกต่อไป รุ่นพี่หนุ่มหยันกายลุกขึ้นสวนกลับอย่างองอาจ ภาพหญิงที่แอบรักถูกทำร้ายผลักดันให้ตหมดความอดทนกับรุ่นน้องร่วมคณะ แม้ปกติแล้วเขาไม่ใช่คนชอบมีเรื่องกับใครเท่าไหร่ ซ่า! “หยุดบ้าได้แล้วคลื่น!” น้ำค้างกำแก้วเหล้าแล้วสาดเข้าหน้าเพื่อนคนสนิทอย่างจัง นัยน์ตาแสนหวานมองสู้กลับประกาศกร้าวว่าเธอไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป! กี่ครั้งแล้วที่ต้องทนอยู่ภายใต้อำนาจของผู้ชายคนนี้ กี่ครั้งแล้วที่ยอมให้เขาชักจูงทำร้ายได้เรื่อยๆ “นี่เธอปกป้องมันเหรอ!” “ใช่ฉันปกพี่เขา ถ้ายังไม่หายบ้าฉันจะไม่คุยกับนาย!” “น้ำค้าง!” “พี่เสือลุกขึ้นก่อนค่ะ” คนตัวเล็กไม่ฟังเสียงดังลั่นของชายเบื้องหน้า หญิงสาวเข้าไปพยุงร่างสูงของใครอีกคน เธอเมินเฉยใส่คลื่นเหมือนเป็นฝุ่นละออง “พี่บุ๋มค่ะ เดี๋ยวหนูขอพาพี่เสือไปทำแผลนะ” “แต่…” “ขอตัวนะ” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังอีกครั้ง เธอเบือนหน้าหนีชายหนุ่มอารมณ์ร้าย ก่อนคว้าใครอีกคนพยุงเข้าแนบกายแล้วเดินออกไป “มึงใจ…” “แม่งเอ้ย!” คลื่นเตะเก้าอี้ในร้านกระจัดกระจายตามประสาคนอารมณ์ร้อน ชายหนุ่มทึ้งหัวตนเองแล้วเดินออกไปพร้อมกับนัยน์ตาแดงก่ำ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD