งอนง้อ

1021 Words
แป้งหอมพูดอะไรไม่ออก หรือถ้าจะพูดให้ถูก คือเธอไม่รู้จะพูดอะไรเสียมากกว่า กับการกระทำของชบาเมื่อสักครู่ เธอรู้แล้ว ว่าทำไมชบาถึงหน้าบึ้งใส่เธอ มองเธอตาขวาง เหมือนไม่ชอบเธอหนักหนา ทั้งที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรก ที่แท้ชบาก็ชอบอยู่กับเขมนี่เอง ก็คงหึง หวงเธอเป็นแน่ “หนูขึ้นไปบนบ้านก่อนนะจ๊ะ” ว่าแล้วแป้งหอม ก็หมุนตัวเดินกลับขึ้นไปบนบ้านตามเดิม แป้งหอมหยิบใบตองที่วางบนโต๊ะรับประทานอาหารมานั่งบนเสื่อที่ปูไว้ วันนี้หญิงสาวตั้งใจจะทำขนมกล้วยไว้ทาน เพราะกลัวที่สุกเริ่มทานไม่ทัน หากปล่อยไว้คงเน่าทิ้งน่าเสียดาย ส่วนเขม เมื่อเห็นแป้งหอมขึ้นมาบนบ้าน ชายหนุ่มก็ตามมาด้วยเช่นกัน เพราะไม่สบายใจกับสิ่งที่ชบากระทำกับตัวเองเมื่อสักครู่ ไม่รู้แป้งหอมจะคิดเช่นไร แม้หญิงสาวจะไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาก็ตาม ทว่าชายหนุ่มก็ไม่สบายใจเอาเสียเลย กลัวแป้งหอมจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่ แป้งหอมหันมองคนที่นั่งลงบนเสื่อผืนเดียวกันเล็กน้อย ก่อนจะเช็ดใบตองต่อ “พี่เขมมีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ” เขมยังไม่ตอบ แต่ยื่นมือมาเกลี่ยไรผม ที่ร่วงหล่นคลอเคลียใบหน้าของหญิงสาวไปทัดหูไว้ให้ แป้งหอมชะงักมือไป หันมองหน้าเขม ทำให้สายตาของคนทั้งสองสบกันและกัน ต่างคนก็ต่างนิ่งงันไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา มือหนาเชยคางมนขึ้นเล็กน้อย ค่อยๆ โน้มใบหน้าลงต่ำหากลีบปากชมพูหวานที่เผยอรอเบื้องหน้า อีกเพียงนิดริมฝีปากของทั้งคู่ก็จะสัมผัสกัน แต่แป้งหอมกลับหันหน้าหนีหลบไปเสียอย่างนั้น ทำให้เขมแทบจะหน้าคะมำลงไป “หลบพี่ทำไม หนูรังเกียจพี่เหรอ หรือว่าเหม็นเหงื่อบนตัวพี่” เอ่ยถามออกไป พร้อมทั้งประคองใบหน้าของแป้งหอมไว้ เกลี่ยแก้มเนียนที่ซับสีเรื่อเล่นแผ่วเบา "ไม่ใช่จ้ะ แต่นี่มันกลางวันแสกๆ หนู หนู" กระดากปากที่จะเอ่ยออกมา เขมก็พอจะเข้าใจ เพราะใบหน้าของหญิงสาวแดงเรื่อไปทั้งพวงแก้ม “กลางวันก็ไม่เห็นเป็นอะไรสักหน่อย ไม่มีใครเขาห้าม” “แต่หนูอายนี่จ๊ะ” เขมวางมือลงบนศีรษะเล็กและโยกเบาๆ ด้วยความเอ็นดู “อายทำไมคนดีของพี่ ใครๆ เขาก็ทำกัน” “เหมือนที่พี่ชบาหอมแก้มพี่เขมเมื่อกี้น่ะเหรอจ๊ะ” เขมอยากจะหัวเราะออกมาเสียจริง กับประโยคของแป้งหอม ที่จะด่าก็ไม่ใช่ จะประชดก็ไม่เชิง จะเป็นประโยคคำถามก็คลับคล้ายคลับคลา เพราะใบหน้าและแววตาของหญิงสาวนั้นใสซื่อเสียเหลือเกิน “ไม่ใช่สักหน่อย หนูแป้งโกรธพี่หรือเปล่า ที่ชบาเขามาทำแบบนี้กับพี่” “แล้วพี่ชบาเขาเป็นอะไรกับพี่ล่ะจ๊ะ” เขมรู้สึกว่าแป้งหอมเป็นคนมีไหวพริบดี ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่เขาเคยเจอ เพราะถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น คงถามเขาตั้งแต่ที่ชบาเดินพ้นรั้วบ้านไปแล้ว แต่แป้งหอมกลับไม่ทำอย่างนั้น ครั้นพอเขาถามหญิงสาว เธอกลับมาถามเขาถึงสถานะความสัมพันธ์ของเขากับชบา เป็นเขาที่ต้องเป็นฝ่ายตอบคำถามเสียเอง ฉลาดจริงๆ เด็กคนนี้ “พี่ไม่ได้เป็นอะไรกับชบา แต่ชบาพี่คิดว่าเขาคงชอบพี่ และอยากได้พี่เป็นผัว” “แล้วพี่ไม่อยากได้พี่ชบาเป็นเมียเหรอจ๊ะ หนูว่าพี่ชบาก็สวยอยู่นะ เพียงแต่พี่แกแต่งหน้าจัดไปหน่อย” เขมถึงกับหลุดหัวเราะออกมาในประโยคสุดท้ายของแป้งหอม เพราะชายหนุ่มก็คิดเช่นเดียวกันกับแป้ง เพียงแต่ไม่กล้าเอ่ยออกมาก็เท่านั้น “พี่ไม่ได้ชอบชบา พี่มองชบาเป็นเหมือนน้องสาว พี่พยายามบอกชบาไปแล้วหลายครั้ง แต่ชบาก็ยังมาตามตอแยพี่เหมือนเดิม พี่ก็ไม่รู้จะทำยังไง พี่ก็ได้แต่หวังว่าชบาจะตัดใจจากพี่ได้” แป้งหอมพยักหน้ารับ หันมาเช็ดใบตองต่อเมื่อได้คำตอบที่พึงพอใจ และชัดเจนจากเขม “แต่หนูว่ายาก และเหมือนพี่ชบาจะไม่ชอบหนูด้วย ที่เห็นหนูมาอยู่ที่นี่ ไม่อย่างนั้น คงไม่หอมแก้มพี่ต่อหน้าหนูหรอก หรือว่าปกติพี่เขมกับพี่ชบาก็หอมกันแบบนี้” “ไม่ใช่ๆ ไม่เคยหอมนะ “รีบปฏิเสธออกมาเป็นพัลวัน เขาเชื่อแล้วว่าแป้งหอมนั้นฉลาด มีเล่ห์เหลี่ยมอย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด เขมจึงขยับเข้ามาใกล้ ตวัดลงแขนรัดร่างบางเอาไว้ “พี่เขม! ปล่อยจ้ะ เดี๋ยวมีคนมาเห็นเข้า” เขมไม่ได้ปล่อยตามคำบอก แต่กลับเกยคางอยู่กับลาดไหล่บาง “ไม่มีใครมาเห็นหรอก พี่ขอหอมแก้มหนูหน่อยได้ไหม อยู่ใกล้แล้วอดใจไม่ได้เลย” แป้งหอมใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมาฉับพลัน ก้มหน้างุด มือจับผ้าไว้แน่น เขมจึงถือว่าการนั่งนิ่งไม่เอ่ยอะไรออกมาคือคำอนุญาต พาริมฝีปากเข้าไปหอมลงบนแก้มหอมนั้นฟอดใหญ่ “หอมพี่คืนบ้างสิ” แป้งหอมส่ายหน้าไปมาช้าๆ เมื่อเห็นแก้มของเขมที่เอียงมาให้เธอหอม นิ้วเรียวลูบไล้แก้มสากเบาๆ “แก้มพี่เขมเปื้อนรอยลิปสติกของพี่ชบา หนูไม่หอมหรอกจ้ะ” พูดจบก็หันหน้าหนี “งั้นดีเลย หนูแป้งช่วยไปอาบน้ำให้พี่หน่อยสิจ๊ะ เข้าสวนกล้วยมาเหนียวตัวจะแย่ ไปจ๊ะ" "ว้าย!!" เสียงหวานอุทานตกใจ เมื่อถูกเขมรวบขึ้นอุ้มและพาเดินเข้าไปในห้องนอนของชายหนุ่ม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD