# ย้อนไปเมื่อปีก่อน
ฉันขอพ่อซื้อคอนโด และไปเรียนที่กรุงเทพเพราะว่า พ่อของฉันมีเมียใหม่หลังจากแม่เสียได้ 2 ปี ฉันเข้าใจนะว่าพ่อคงจะเหงา
แต่ฉันก็ยอมเห็นคนอื่นมาแทนที่แม่ของฉันไม่ได้ น้ากวาง น้ากวางเป็นเพื่อนของแม่ฉัน
ฉันแอบสงสัยว่าพ่อไปชอบน้ากวางตอนไหน หวังว่าไม่ใช่ตอนที่แม่ฉันยังมีชีวิตอยู่ด้วยนะ ฉันทนไม่ไหวหรอกนะที่เขา เข้ามาแทนที่แม่ของฉัน ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่เชียงใหม่ ที่ที่หลับตาก็นึกถึงแต่ภาพครอบครัวของฉัน พ่อแม่ลูก
นึกทีไรฉันก็จะน้ำตาคลอทุกที ฉันเลยย้ายไปอยู่กรุงเทพ
พ่อฉันทำธุรกิจอะไหล่รถยนต์ และโรงแรม ฐานะทางบ้านฉันก็ดีเลยละ ไม่งั้นพ่อฉันจะส่งเรียนมหาลัยแพงๆ อย่างนี้ได้ไง มีแต่ลูกคนรวยๆ ทั้งนั้น
ตอนนี้ฉันอยู่ปี 2 แล้วละ อดีดของฉันไม่เคยสมหวังเรื่องครอบครัว และความรัก ฉันดันมาโดนไอ้พี่ม่อน แฟนฉันที่ครบกันมา ตั้งแต่ ม.ปลาย ที่เชียงใหม่ ตอนนี้ เขาไปครบ ผู้หญิงคณะอื่น เหตุผลของการเลิกกันนะเหรอ
# ประกวดดาวคณะ
วันนั้นฉันได้ประกวดดาวคณะเพราะว่าเพื่อน ยัยแพตตี้ นางจับฉันแต่งหน้าทาปากแต่งตัวแล้วดันฉันเข้าประกวด
แพตตี้ : เอาน่า ยัยอิง ฉันว่าแกสวยสุดในคณะ ลองประกวดดูไม่เห็นจะเป็นไรเลย
อิงดอย : แกเห็นไรในตัวฉันนี่ วันๆ ฉันก็ไม่ค่อยได้แต่งตัวแต่งหน้ามาเรียนเลยนะ
ริสา : แกสวยเพื่อนเชื่อฉัน
แบม : ว้าว ลุคนี้แกสวยมาก สวยเซ็กซี่มาก ยัยอิง
เพื่อนๆ ของฉันได้แต่ชมและอวยฉัน กันยกใหญ่ เมื่อแพตตี้ แต่งตัวให้ฉันเสร็จ และมันก็เป็นไปตามคลาด ฉันก็ได้ เป็นดาวคณะนิเทศฯ จริงๆ
และตอนนี้ก็มีคนรู้จักฉันมากขึ้น หนุ่มๆ คณะอื่นๆ เวลาฉันเดินผ่านก็จะมองตามตลอดบางคนก็แซว บางคนก็เข้ามาทักทาย และยังมียอดตาม IG กับ เฟสบุ๊ค เพิ่มขึ้นอีกตังหาก
พี่ม่อน : แต่งตัวลุคนี่ก็ดีนะ น่ารักเซ็กซี่ไปอีกแบบ
พี่ม่อนเขาเอ่ยชมฉัน และแสดงความเป็นเจ้าของฉันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เขาพยายามขอมีอะไรกับฉันอีก ฉันบอกว่าฉันไม่พร้อม พี่ม่อนก็บอกว่าฉันเล่นตัว พยายามขอฉันหลายครั้ง ฉันก็ยังไม่ยอม เขาก็หงุดหงิดไปเลยละ
หลังจากนั้น เราก็ไม่ได้คุยกันเป็นอาทิตย์
อิงดอย : พี่ม่อนนะพี่ม่อน หายหน้าหายตาไปเลย ไม่คิดจะโทรมาบ้างหรือไง
หลังจากที่ฉันบ่นพึมพำ รถของพี่ม่อนก็ผ่านหน้าฉันไป และฉันก็เห็นมีผู้หญิงนั่งข้างๆ กับเขา ฉันพยายามตั้งสติอยู่นาน
แบม : ยัยอิง เดินเร็วๆ ซิ เดี๋ยวโต๊ะเติมหมดหรอก
ฉันกำลังเดินจะไปกินก๋วยเตี๋ยวหลังมอ กับเพื่อนๆ ได้แต่แอบคิดว่าฉันตาฟาดหรือป่าว กับอีแค่เรื่องที่ฉันไม่ยอมมีไรกับเขา มันคือเรื่องใหญ่ที่ทำให้เขาต้องมีคนใหม่เลยเหรอ ฉันได้แต่คิด ตอนนี้น้ำตามันก็เริ่มคลอๆ
ริสา : ยัยอิง เป็นไร ทำไมเหมือนจะร้องไห้
อิงดอย : เอามือปาดน้ำตาแล้วเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง
แพตตี้ : ความจริงเรื่องนี้มันก็ใหญ่สำหรับผู้ชายเหมือนกันนะ นี้แกยังเวอร์จิ้นเหรอจะเพื่อนรัก ไม่ลองมีไรดูละ
อิงดอย : ฉันยังอยากดูเขาไปก่อนอ่ะ เพราะฉันก็ตามเขามาเรียน ไม่รู้เขาจะจริงใจกับฉันแค่ไหน และดูเหมือนจะออกลายแล้วละ
แบม : เอาน่า กินเตี๋ยวเสร็จ เราไปเดินเล่นที่ห้าง แล้วดูหนังสักเรื่องลืมๆ ไปดีกว่า มันอาจจะไม่มีไรก็ได้
# ห้าง
หลังจากที่เรากินก๋วยเตี๋ยวกันเสร็จ เราก็มาเดินเล่นต่อที่ห้าง ระหว่างที่กำลังจะเดินไปซื้อตั๋วหนังฉันก็เจอผู้ชายที่คุ้นหน้า เดินโอบเอวกันออกมากับผู้หญิง
“พี่ม่อน”?!!
ฉันเดินไปประจันหน้ากับพี่ม่อน คิดว่าวันนี้ต้องพูดให้รู้เรื่อง แตกเป็นแตกซิ เชอะ
อิงดอย : พี่ม่อน แค่เรื่องนั้นพี่นอกใจฉันขนาดนี่เลยเหรอ
พี่ม่อน : พอเถอะอิง ถ้าอิงยังไม่พร้อม พี่ก็จะไม่ฝืนเราหรอกนะ มันจะลำบากใจทั้งสองฝ่าย
อิงดอย : พี่พูดแบบนี่ได้ไง เห็นแก่ตัว พี่มันผู้ชายเห็นแก่ตัว ฉันไม่น่าชอบพี่มานานขนาดนี่เลย ผู้ชายเฮงซวย
พี่ม่อน : อืม แล้วแต่อิงจะคิดก็แล้วกัน
ติน่า : นี้เหรอคะ แฟนเก่าม่อน ก็จืดๆ ดีนะ ไม่รู้ได้ดาวคณะได้ไง ไปกันเถอะคะ
ฉันได้แต่กำหมัดแน่น พยายามระงับอารมณ์ เพื่อนๆ ที่เห็นฉันเป็นแบบนั้น ได้แต่เข้าจับฉันเอาไว้เพราะฉันพร้อมที่จะพุ่งใส่ยัยปากมากนั้นภายในไม่กี่วิ ถ้าไม่ติดว่านี่คือห้างดังนะ ยัยนั้นได้ปากแตก เอาเลือดมาล้างเท้าฉันแน่
“ช่วยพายัยปากปลาร้า นี้ออกไป” ฉันได้แต่ระงับอารมณ์แล้วบอกกับไอ้พี่ม่อน หลังจากที่เขาสองคนเดินออกไป ฉันก็ได้แต่ร้องไห้ มันพูดไรไม่ออกเลยจริงๆ เพื่อนๆ ก็ได้แต่ปลอบใจฉัน