"หนูลินนี่ช่างใจดำจริงๆ นะ ลูกชายของแม่จะอยู่ยังไงหนูไม่เคยคิดบ้างเลย ตอนที่ลูกชายของแม่ปกติเขาดูแลหนูทุกอย่าง หนูไม่รู้สึกผิดเลยเหรอ" นี่ไม่ใช่การรั้งให้ไพลินอยู่ แต่นี่เป็นการตำหนิไพลินด้วยความเจ็บปวด ท่านไม่ต้องการให้ไพลินอยู่ข้างบุตรชายท่านอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่ายังไงท่านก็ต้องดูแลบุตรชายของท่าน ให้เขากลับมาหายดี แล้วก็ไม่ต้องสนใจผู้หญิงคนนี้ คนที่เคยทิ้งบุตรชายของท่านอย่างเลือดเย็น
"ลินรู้ดีค่ะว่าลินเป็นคนผิด ลินต้องขอโทษคุณแม่ คุณพ่อ แล้วที่สำคัญที่สุดต้องขอโทษปืนด้วยค่ะ ไม่ว่าคุณแม่จะว่ายังไงลินน้อมรับทุกอย่าง ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะคุณแม่" ไพลินยังยืนกรานที่จะทำแบบนั้น เธอรู้สึกเจ็บที่โดน มารดาของอดีตคนรัก กำลังตำหนิเธอด้วยแววตาแห่งความผิดหวัง แต่ทว่าชีวิตมันยังต้องดำเนินต่อไป เธอไม่เอาชีวิตของเธอมาฝากไว้กับผู้ชายที่ไม่รู้จะกลับมามองเห็นอีกครั้งหรือเปล่า ถ้าโดนตำหนิแค่นี้แล้วเดินจากไปได้ เธอก็ยินดีให้แม่เลี้ยงบัวตองตำหนิเธอได้เต็มที่
"เอาเถอะแม่ไม่รั้งหนูไว้หรอก ในเมื่อใจหนูไม่อยู่แล้ว ต่อให้แม่พูดยังไงหนูก็ไม่อยู่ แม่ขอบอกหนูไว้อย่างนึงนะ ว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก แม่สงสารผู้ชายที่จะยืนข้างหนูในอนาคต" แม่เลี้ยงบัวตองหลอกตำหนิไพลิน ด้วยเพราะท่านมองว่าไพลินนั้นเห็นแก่ผลประโยชน์ไม่ได้รักบุตรชายท่านจริงๆ และต่อไปในภายภาคหน้าไพลินก็คงไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีก ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยรักใครจริงๆ ท่านล่ะสงสารบุตรชายของท่านจริงๆนอกจากจะเรื่องการรักษา แล้วยังจะเรื่องความเจ็บปวดที่ถูกทอดทิ้ง โดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักนิด
"ขอบคุณนะคะคุณแม่ที่เข้าใจลิน ลินฝากคุณแม่บอกปืนด้วยนะคะ ลินไม่อยากให้ปืนต้องเจ็บปวดเพราะว่าตัวรินอีกแล้ว" ไพลินเอ่ยออกมาก่อนที่เธอจะพนมมือไหว้ผู้สูงวัย แล้วหันหลังกลับไปทันที นาทีนี้เธอไม่คิดจะหันกลับไปอีกแล้วลาขาดกันตรงนี้แม้ว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกตลอดชีวิตเธอก็ยินดี เพราะเธอไม่สามารถที่จะอยู่กับผู้ชายตาบอดอย่างเขาได้จริงๆ
แม่เลี้ยงบัวตองถอนหายใจออกมาด้วยความเครียด สายตาของท่านที่มองไปตามร่างบางของไพลิน มันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความผิดหวัง คนที่ท่านรักและเอ็นดูตลอด ตอนนี้กำลังทำให้บุตรชายของท่าน กลายเป็นผู้ชายไร้ค่าที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนต้องการ ถ้านักรบรู้เรื่องนี้ เขาจะเป็นยังไง ท่านไม่อยากคิดสภาพเลยจริงๆ