ลูกศร - ฉันไม่ใช่คนดี

1462 Words
10 [ลูกศร] ฉันไม่ใช่คนดี เหอะ... ไม่ใช่พี่ปริญคนเดิมจริงๆ แสดงว่าฉันต้องเปลี่ยนสรรพนามแล้วสินะ "ได้สิคุณปริญ งั้นฉันก็จะพูดตรงนี้ว่าฉันไม่มีทางให้คุณแต่งงานกับลูกโซ่ เพราะน้องของฉันเรียบร้อย สดใส บริสุทธิ์เกินกว่าจะคบกับผู้ชายโชกโชนอย่างคุณ" "พูดจบรึยัง?" คำถามของเขาทำให้ฉันชะงักไปทันที และเมื่อฉันไม่ตอบเขาก็ไม่รักษาน้ำใจใดๆทั้งสิ้น คนตัวสูงเคลื่อนสายตาไร้ความรู้สึกของเขาไปทางเข้าตึกโรงพยาบาล ก่อนจะเดินถือกระเป๋ามุ่งเข้าไปในนั้นโดยไร้คำลา ลมเย็นๆพัดผ่านหน้าฉันไปชั่วขณะ ผิดกับอารมณ์ที่เดือดดาลข้างในที่ทำให้ฉันใกล้จะเป็นบ้า ฉันเม้มริมฝีปากแน่น ยืนกอดอกมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยอารมณ์โกรธจัด เดือดข้างในจนหน้าร้อนผะผ่าว แต่เมื่อตัดใจกลับไปขึ้นรถเดินกระแทกส้นเท้าแรงๆด้วยอารมณ์ ก็มีเด็กนักศึกษาแพทย์กลุ่มหนึ่งเดินคุยกันผ่านมาพอดี เด็กพวกนั้นกำลังกินผลไม้จากถุงพลาสติก ทั้งเคี้ยวทั้งพูด ทั้งเดินเร็วๆ ราวกับว่าเวลาว่างของพวกเธอมีน้อยนิด แต่พอมีหนึ่งคนหันมาเห็นรถที่จอดถัดไปจากฉัน ตาหมวยๆใต้แว่นสายตาก็เบิกกว้างราวกับเจอผี "เฮ้ย! อาจารย์ปริญมาแล้วอ่ะ ต้องรีบไปแล้ว ยังไม่ได้เขียนรายงานเคสเลย" ฝีเท้าคนพูดก้าวเร็วกว่าเดิม ก่อนจะ ลืมตัวว่าถือของเต็มมือ รีบหันกลับมาขวับและส่งถุงผลไม้ให้เพื่อนถือ "ฝากๆ" "เออๆ ตายแน่มึง พ่อมึงตีนะอย่าทำเป็นเล่น" "หล่อขนาดนี้ตีกูให้ตายเลย" "อย่าพูดดดด มึงเคยเจออาจารย์ปริญจ้องตอนรับเคสยัง ขากูสั่นพั่บๆ ดุมาก" "เออ ออกข้อสอบก็ยากเกือบขิต น้องๆปีสี่กอดคอกันร้องไห้ ไปเร็วพลอย!" "เออๆ" ฉันถอนหายใจแรงๆแล้วเปิดประตูขึ้นรถ ขับออกจากโรงพยาบาลด้วยความเร็วแต่ในหัวมีความคิดเต็มไปหมด แต่ยิ่งคิดอารมณ์ก็ไม่เย็นขึ้น ไม่ได้กลั่นกรองตกผลึกบ้าอะไร คำพูดเย็นชานั่นทำให้อารมณ์ฉันเดือดปุดๆ ยกฝ่ามือตบเข้าที่พวงมาลัยรถสุดแรง 'ปึก!' "พี่ปริญบ้า!" จะไม่เป็นแบบนี้เลยถ้าเขาไม่แต่งงานกับน้องสาวฉัน แถมฉันห้ามยังเฉยชาตีมึนกลับมา เขาทำให้ฉันยิ่งอยากเอาชนะ คอยดูนะพี่ปริญ เย็นชาให้ได้นานๆ ฉันจะขัดขวางทุกทาง ถึงจะเสียตัวให้กี่ครั้งฉันก็ไม่สนอะไรอีกแล้ว ดีซะอีกจะได้เอาตัวที่เขาเคยหลงหัวปักหัวปำละลายน้ำแข็งให้เป็นน้ำ และครั้งนี้ฉันจะทำให้ติดใจจนวิ่งไปหาใครไม่ได้ อยากปั่นประสาทฉันมากนี่? ได้ จัดให้ 'ครืดดดดด, ครืดดดดดด' ฉันหันไปมองมือถือที่สั่นอยู่เบาะข้างๆ แล้วคว้ามากดรับสายวางไว้บนตัก NAEON | CALLING "มีอะไร" (อุ๊ยเสียงหงุดหงิดเวอร์ ไปกินรังแตนที่ไหนมา) ฉันกลอกตา "มีอะไรก็พูดมา ฉันอารมณ์ไม่ดี" (จะชวนดื่มหน่อยวันนี้วันเกิดคนที่ฉันรัก) "ที่ไหน" (คอนโดใหม่ฉันเดี๋ยวส่งโลเคชันไป แต่แกจะมาถูกไหม ขับรถได้แน่นะค่ำแล้วอ่ะ?) ที่ลูกโซ่และเนออนถามคำถามเดียวกัน เพราะฉันขับรถกลางคืนไม่ค่อยถนัด และมีปัญหาเวลาแสงไฟสาดเข้าตา แต่ที่น่าสนใจคือคำว่า 'คนรัก' ของยัยเนออน ยัยนั่นคงหมายถึงแฟนตัวเองที่เป็นเพื่อนกับอีคนเย็นชาเมื่อกี้ ควรรู้จักไว้ "ฉันขับได้ ส่งโลเคชันมา" (เค) ไม่นานเนออนก็ส่งโลเคชันมา ฉันเปิดแนะนำทางจากมือถือและวางไว้บนตัก ก่อนจะขับรถไปที่นั่นโดยไม่รีบร้อนอะไร เพราะคอนโดใหม่ของเนออนเป็นคอนโดหรูย่านทำเลทองที่รถติดมาก ฉันรอกลับรถเพื่อเลี้ยวเข้าคอนโดของเธอก็กินเวลาเพิ่มไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ถ้าไม่มีผลพลอยได้ฉันไม่มาให้เสียเวลาชีวิตหรอก พอแลกบัตรมาจอดรถหน้าทางขึ้น ยัยเนออนก็มารอรับฉันที่ล็อบบี้ ฉันลงจากรถและส่งกุญแจให้พนักงานขับรถไปจอดให้ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไม่กี่ขั้นไปหายัยตัววุ่นวายที่กระโดดโลดเต้นเหมือนเด็ก "ยินดีต้อนรับสู่คอนโดใหม่จากน้ำพักน้ำแรงของเนอ๊อนนนน" ฉันกอดอกมองบริเวณล็อบบี้ แต่งได้หรูดี "เท่าไหร่?" "ไม่ถึงร้อยหรอกน่า แต่ก็สาหัสเหมือนกัน อ้อพี่ปริญก็อยู่ที่นี่นะ อยู่ชั้นบนๆไปอีก" ฉันมองหน้าเนออนทันที ริมฝีปากที่แต้มลิปสติกสีพีชอมยิ้มราวกับรู้ว่าฉันมาที่นี่เพื่ออะไร "แล้วคอนโดติดมหาลัยของเขาล่ะ?" "ขายแล้วสิ ช้ำใจ คนอยู่ด้วยทิ้งไป ป่ะๆขึ้นห้องกันป่านนี้กับข้าวเย็นหมดแล้ว" ใช่ สมัยเรียนฉันอยู่กินใช้ชีวิตด้วยกันกับผู้ชายเย็นชาคนนั้น ฝีเท้าฉันเร่งตามเนออนแทบจะตัวติดเธอ สังเกตทุกสิ่งอย่างในคอนโดแห่งนี้ ก่อนที่จะมาหยุดที่ลิฟต์ฝั่ง B และเนออนแตะคีย์การ์ดเข้าไป ทว่าระหว่างที่ลิฟต์เคลื่อนขึ้นตัวเลขบนแผงวงจรขยับ ยัยนั่นหันมาพูดกับฉัน "เมื่อคืนแกเมามาก รู้ตัวป่ะ" "อืม" ฉันตอบโดยไม่สบตาเนออน มองประตูลิฟต์ด้วยสายตาไร้อารมณ์ ก่อนจะตัดสินใจถามเรื่องหนึ่ง "เขาสูบบุหรี่ด้วยเหรอ เมื่อก่อนเกลียดเข้าไส้" "อ้อ ที่รู้มา และเผือกอยู่ห่างๆ เหมือนจะสูบตั้งแต่แกทิ้งไป" "ตอนนั้นกับตอนนี้คนละเรื่องเลย เหมือนอาจารย์ปริญจะไม่ค่อยใจดีกับใครเหมือนเมื่อก่อนด้วย เขาเจ็บมากๆ กินเหล้าทุกวัน เก็บตัว คงรักแกจริงๆ" รอยยิ้มของฉันเผยออกมาที่มุมปาก "แต่ตอนนี้เขากำลังจะแต่งงานกับลูกโซ่" ยัยเนออนหันขวับ "ฮะ?!" 'ติ๊ง~' ประตูลิฟต์เปิดแล้ว และเปิดที่ชั้นสิบสอง ฉันก้าวออกมาจากลิฟต์ก่อนเจ้าของบ้าน กอดอกปรายตามองทางซ้ายทางขวาก็เห็นว่าฝั่งนี้มีห้องยัยเนออนเพียงห้องเดียว แต่ยัยนั่นก้าวมาขวางทาง และมองหน้าฉันด้วยสีหน้าตกใจ "แบบนี้ก็ได้เหรอ?" "แกไม่รู้มาก่อน?" "ไม่ ไม่มีข่าวเลย ระดับอัครบดินทร์สกุลกับตระกูลอาจารย์ปริญจะแต่งงานกันเลยนะ ทำไมไม่มีข่าวอ่ะ แล้วแกคิดว่าไงลูกศร แกโอเคไหม?" ฉันหัวเราะเหอะออกมา "นอกจากวันนี้ผู้ใหญ่สองบ้านจะร่วมโต๊ะพูดเรื่องแต่งงานโง่ๆนั่น ฉันก็ตามไปเคลียร์กับเขาก่อนจะมาที่นี่" เนออนพยักหน้าทันที มือของเธอประสานกุมระหว่างอกรอให้ฉันพูดต่อ "ไงต่อ" "เขาบอกลืมเรื่องฉันไปแล้ว และไม่ปฏิเสธการแต่งงาน" ถ้าพูดเรื่องนี้กับคนสิบคน ทุกคนคงไม่ต่างจากฉัน เนออนยังยืนอึ้งและนิ่งชะงัก แถมตาของยัยนั่นเบิกกว้างกว่าเดิม "ไม่ได้สิ แกกับอาจารย์ปริญมันมากกว่าอะไรทั้งนั้น ไม่ใช่แค่คนหลงไปนอนด้วยกัน แกอยู่กินกัน ตัวติดกัน ไปรับไปส่งกัน ไม่ต่างจากผัวเมียอ่ะ อาจารย์ปริญจะเป็นผัวน้องสาวแกไม่ได้" ฉันหันไปมองหน้าเนออน พอมีคนไม่เห็นด้วยและคิดตรงกัน แรงคัดค้านและแรงอยากเอาชนะที่อยู่ในใจก็ถูกกระตุ้นออกมา "ฉันอยากได้ช่วงเวลานั้นคืน" "ลูกศร... แกแน่ใจนะ" เนออนเรียกฉันเสียงเบา ฉันรู้ว่าพูดอะไรออกไป อาจจะถูกมองว่าทำของหายและอยากได้คืน อาจจะถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่หน้าด้านหน้าทนแย่งของที่กำลังจะเป็นของน้องสาว แล้วไง ก็ฉันจะแย่ง ฉันยกยิ้มเล็กๆที่มุมปากขณะที่สายตายังคงความมุ่งมั่น "ฉันจะทำทุกอย่างตามความต้องการตัวเอง และไม่ต้องถามคำว่า 'แน่ใจ' กับฉันอีก เพราะฉันไม่ใช่คนดีพอที่จะสนใจว่าใครจะคิดยังไง" "ตะ แต่แกเป็นคนทิ้งเขาไปเองนะ ตอนนี้อาจารย์ปริญเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งก็เพราะแก งานยากมากที่แกจะทำให้เขาเป็นเหมือนเดิม ขนาดผู้หญิงคนอื่นที่จะเข้ามาหาเขาฉันยังไม่เห็นหนทางที่อาจารย์ปริญจะเปิดใจเลย" "ก็ลองให้เขาเจอฉันบนเตียงก่อนสิ" "O_O"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD