“เข้ามาสิ ทำอย่างกับว่าคุณไม่เคยเข้ามาในห้องผม”
บารเมษฐ์กอดอกพลางเลิกคิ้วมองแสนหวานที่หยุดเท้าอยู่หน้าห้องของเขาด้วยท่าทางลังเล นัยน์ตากลมโตดำขลับฉายแววหวั่นใจจนบารเมษฐ์อยากจะหัวเราะออกมา แต่เขายังรักษาท่าทีเอาไว้ด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง ร่างบางแหงนหน้าขึ้นมองคนสูงกว่า เห็นแววตาที่ไร้การผ่อนปรนของอีกฝ่ายก็ได้แต่ถอนหายใจ
“คุณเมษฐ์น่ะ”
แสนหวานบอกเสียงสะบัดก่อนที่ขาเรียวจะก้าวเข้าไปในห้องของบารเมษฐ์ รอยยิ้มจางผุดขึ้นที่มุมปากของเขาตอนที่ดึงประตูปิด และรอยยิ้มของเขาก็กว้างขึ้นเมื่อเห็นร่างเล็กของคุณเลขาฯ สะดุ้งตัวเพราะเสียงของบานประตูที่กระทบวงกบ
“ไม่คิดว่าคุณจะขวัญอ่อนขนาดนี้”
แสนหวานไม่ทราบว่าอีกฝ่ายเดินมาซ้อนหลังตั้งแต่เมื่อไร ทว่าไออุ่นจางๆ ที่ค่อยๆ โอบล้อมมาที่แผ่นหลังทำให้แสนหวานรู้สึกว่าระยะห่างระหว่างเขากับเธอคงลดน้อยลงทุกที เท้าเล็กขยับห่างออกมาราวสามสี่ก้าวตอนที่หันมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย
“มันเงียบมาก หวานก็แค่ตกใจที่จู่ๆ เสียงประตูก็ดังขึ้นมา”
“งั้นเหรอ”
บารเมษฐ์เลิกคิ้วมอง แววตาของเขาบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าไม่เชื่อสักกระผีกในสิ่งที่แสนหวานกล่าวอ้าง ก่อนที่เขาจะเอ่ยออกมาด้วยประโยคที่ทำให้แสนหวานต้องใจสั่น
“ขวัญอ่อนขนาดนี้ คุณคงนอนคนเดียวไม่ได้แล้วละมั้ง”
“มะหมายความว่าไงคะ”
แสนหวานถามเสียงสั่นเพราะนอกจากบารเมษฐ์จะไม่ได้พูดเปล่าแล้วเขายังขยับเท้าเข้ามาใกล้กันจนแสนหวานต้องขยับเท้าถอยหลัง และเธอก็ถูกไล่ต้อนจนกระทั่งแผ่นหลังสัมผัสเข้ากับบานประตูห้องนอน แสนหวานหน้าเลิ่กลั่กไปหมด หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำ ยิ่งตอนอีกฝ่ายยกมือข้างหนึ่งขึ้นเท้ากับบานประตูด้านหลัง แสนหวานก็ยิ่งหายใจไม่ทั่วท้อง
“ถะถ้าคุณเมษฐ์จะแกล้งกันแบบนี้หวานจะคิดค่าล่วงเวลานะคะ เพราะจริงๆ ตอนนี้มันนอกเหนือเวลางาน คุณเมษฐ์ต้องจ่ายโอที”
พูดออกไปแล้วแสนหวานก็อยากจะกัดปากตัวเอง เธอคงถูกบารเมษฐ์ป่วนจนการประมวลผลในสมองรวนไปหมด ถึงได้พูดอะไรออกไปแบบนั้น แล้วถ้า…ถ้าเขายอมจ่ายค่าล่วงเวลาจริง เธอจะทำอย่างไร
“อยากโดนผมแกล้งหรือไงแสนหวาน”
เสียงทุ้มที่ดูนุ่มหูเกินว่าปกติทำเอาแสนหวานใจสั่นไปหมด เธอเพิ่งจะรู้ก็ตอนนี้เองว่าบารเมษฐ์นั้นนอกจากความปากร้าย ความหล่อเหลาชนิดที่ใครมาเทียบได้ยากแล้วเขายังมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจจนยากจะรับมือไหว
“คุณเมษฐ์ยะอย่ามาแกล้งกันแบบนี้นะคะ ดะเดี๋ยวระเราจะมองหน้ากันไม่ติด”
“แบบนี้ติดพอไหม”
บารเมษฐ์ไม่พูดเปล่า ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงต่ำอย่างจงใจให้แสนหวานรู้สัมผัสถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดบนดวงหน้าเรียวรูปไข่ หัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำรัวมากกว่าครั้งไหนๆ มือเรียวยันบานประตูเอาไว้เพื่อช่วยพยุงตัวยามที่ต้องเผชิญหน้ากับคนที่จงใจกลั่นแกล้งกัน
“คุณเมษฐ์ หวาน…หวานไม่เล่นแบบนี้นะคะ”
“แล้วคุณอยากจะเล่นแบบไหนล่ะแสนหวาน”
“บะแบบไหนหวานก็ไม่เล่นทั้งนั้นนั่นแหละค่ะ”
แสนหวานหายใจไม่ทั่วท้อง ยิ่งลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดบนผิวแก้มมากเท่าไรหัวใจดวงน้อยก็ยิ่งเต้นระรัว ตากลมสวยหลุบลงต่ำไม่กล้าสู้สายตาพราวระยับคู่นั้นของอีกฝ่าย ไม่เคยเลยสักครั้งที่บารเมษฐ์จะใกล้ชิดเธอมากขนาดนี้ จะว่าอีกฝ่ายกินยาลืมเขย่าขวดเลยทำให้มีพฤติกรรมผิดแปลกก็ไม่ใช่ เพราะเขาไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยอะไรที่ต้องกินยาเสียหน่อย แสนหวานหัวหมุนไปหมดเพราะคิดไม่ตกว่าทำไมบารเมษฐ์ถึงได้เอาตัวเข้ามาใกล้เธอมากขนาดนี้
เห็นท่าทางหวาดระแวงระคนตื่นกลัวของร่างเล็กตรงหน้า กอปรกับอาการที่เจ้าของร่างบางกลั้นหายใจเป็นพักๆ บารเมษฐ์จึงยอมถอยออกมาเพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะขาดอากาศหายใจไปเสียก่อน พอรู้สึกได้ถึงไออุ่นที่เคยโอบล้อมเรือนกายค่อยๆ จางลง แสนหวานก็กลับมาหายใจเป็นปกติอีกครั้ง ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีรวบรวมความกล้าตอนที่ช้อนสายตามองค้อนคนที่ตอนนี้กำลังตีหน้าตาย บารเมษฐ์คนที่มีสีหน้าเจ้าเล่ห์คนก่อนหน้าได้อันตรธานหายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“แกล้งกันอย่างนี้ไม่น่ารักเลยนะคะ”
“แล้วไง”
บารเมษฐ์เอ่ยเสียงเรียบยกแขนแกร่งทั้งสองข้างขึ้นกอดอกยามมองคนหน้ามุ่ยที่มองค้อนเขาราวกับอยากจะหยุมหัวกัน ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าแสนหวานอยากจะทำแบบนั้น เพราะท่าทางและแววตาของเจ้าตัวบ่งบอกออกมาหมดแล้ว
“หวานง่วงแล้วค่ะ แล้วตอนนี้หวานก็อยากนอนมากๆๆ”
แสนหวานบอกเสียงสะบัด ตากลมโตมองค้อนคนตรงหน้าพลางถอนหายใจแรงอย่างจงใจ บารเมษฐ์ลอบยิ้มแต่ไม่ได้ถือสา เขากลับมองว่าเป็นเรื่องสนุก ในชีวิตของเขาส่วนใหญ่มีแต่เรื่องเคร่งเครียดจนเขาเองยังรู้สึกว่าตัวเองแก่เกินอายุจริงไปมาก มีแต่คุณเลขาฯ แสนหวานนี่แหละมั้งที่ทำให้ชีวิตของเขาดูไม่น่าเบื่อสักเท่าไร
“ก็ไปนอนสิผมไม่ได้ห้าม ห้องนั้นคุณนอนได้” บารเมษฐ์ชี้นิ้วไปบานประตูด้านหลังซึ่งก็คือจุดเดียวกันกับที่เขาเพิ่งจะต้อนเธอจนมุม “แต่ถ้าคุณไม่กล้านอนคนเดียวก็ห้องทางนั้น ห้องนอนของผมคุณก็รู้อยู่แล้วนี่”
บารเมษฐ์ชี้ไปทางห้องนอนของตัวเอง แสนหวานไม่ได้มองตามปลายนิ้วที่อีกฝ่ายกกำลังชี้ แต่กำลังจ้องคนตรงหน้าด้วยสีหน้ามีคำพูดในใจเป็นหมื่นล้านคำ บารเมษฐ์เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ไหวไหล่ด้วยท่าทางยียวน
“ทำหน้าแบบนี้แสดงว่าคุณอยากนอนคนเดียว งั้นก็กู๊ดไนต์เลยก็แล้วกัน ในห้องพอจะมีเสื้อผ้าของผมอยู่คุณใส่นอนได้”
“แล้วพรุ่งนี้หวานจะใส่อะไรไปทำงานคะ หรือคุณเมษฐ์จะให้หวานใส่ชุดนี้เข้าบริษัท”
“ถ้าคุณอยากจะใส่ผมก็ไม่ติดอะไร” บารเมษฐ์ยิ้มมุมปาก “แต่คุณลืมอะไรไปหรือเปล่าแสนหวานว่าพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ แต่ถ้าคุณไม่อยากหยุดงาน ผมจะได้หางานเพิ่มให้”
เพราะบารเมษฐ์นั่นแหละที่ทำให้เธอสับสนวันเวลาไปหมด ถ้าเขา…ถ้าเขาไม่แกล้งใช้เสน่ห์อันล้นเหลือมาปั่นป่วนกันแบบนั้นสมองของเธอก็คงไม่รวนไปหมดแบบนี้
“หวานไปนอนแล้วนะคะ”
ไม่รอให้บารเมษฐ์ตอบอะไรทั้งนั้น แสนหวานก็ผลุบเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว ปิดประตูแล้วกดล็อคอย่างเสร็จสรรพ คนที่ยืนนอกห้องส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง