เช้าวันนั้นอากาศอบอุ่น แสงแดดลอดผ่านช่องไม้หน้าร้านเบเกอรี่เล็ก ๆ ของนลิน กลิ่นหอมของขนมปังอบใหม่ลอยตลบไปทั่วร้าน เสียงหัวเราะของปรีย์ที่กำลังวิ่งเล่นกับแมวน้อยตรงมุมหน้าต่างทำให้หัวใจของนลินอ่อนโยนอย่างน่าแปลก
เธอสวมผ้ากันเปื้อนลายดอกไม้ ใบหน้าเกลี้ยงเกลาไร้เครื่องสำอาง มีเพียงรอยยิ้มที่ซื่อตรงและอ่อนหวาน นลินใช้เวลาช่วงสายในการเตรียมแป้งขนมใหม่สำหรับรอบบ่าย ก่อนจะตัดสินใจออกไปตลาดในละแวกนั้นเพื่อซื้อวัตถุดิบเพิ่ม
“แม่จะไปแป๊บนึงนะลูก อยู่กับคุณน้านะครับ” เธอก้มลงหอมแก้มปรีย์ก่อนจะหยิบกระเป๋าผ้าแล้วก้าวออกจากบ้านอย่างเร่งรีบ
ตลาดสดยามสายค่อนข้างเงียบ ผู้คนบางตา พ่อค้าแม่ค้าส่งเสียงทักทายคุ้นเคย นลินเดินเลือกของด้วยสีหน้าผ่อนคลาย จนกระทั่งมีเสียงฝีเท้าเร็ว ๆ ตามหลังเธอมาอย่างผิดปกติ
“ขอโทษครับ...คุณนลินใช่ไหมครับ?”
เธอหยุดกึก ชายแปลกหน้าสวมหมวกแก๊ปและแว่นดำยืนขวางทาง กลิ่นอายไม่น่าไว้วางใจแผ่ซ่านทันที เขายื่นนามบัตรปลอมให้ แล้วพยายามสอบถามเรื่องอดีตสามีของเธอ
“ดิฉันไม่สะดวกคุยเรื่องนั้นค่ะ” นลินตอบอย่างสุภาพแต่ชัดเจน แล้วรีบเดินเลี่ยง
แต่ชายคนนั้นกลับคว้าแขนเธอไว้แน่น ดวงตานลินเบิกโพลง เธอพยายามดิ้นหนี
“ปล่อยนะคะ! คุณไม่มีสิทธิ!”
เสียงขู่แผ่วแต่ดุดันดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“ปล่อยเธอซะ ก่อนที่ฉันจะหักกระดูกแกทีละข้อ”
น้ำเสียงนี้...นลินจำได้ทันที ลีออง เดล รอสโซ ยืนอยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีดำพับแขนถึงข้อศอก แววตานิ่งเย็น แต่เปี่ยมไปด้วยความอันตราย
ชายแปลกหน้าปล่อยมืออย่างตกใจแล้วรีบเดินหนีไปทันทีโดยไม่หันกลับมา
นลินยืนตัวสั่น หัวใจเต้นรัว เธอกำลังจะพูดขอบคุณ แต่ลีอองกลับก้าวเข้ามาใกล้ ดวงตาคมเข้มจ้องลึกลงมาในดวงตาเธอ
“คุณไม่มีบอดี้การ์ด ไม่มีใครคอยดูแลเลยหรือไง?”
“ฉันไม่ใช่คนสำคัญอะไรขนาดนั้น...”
“คุณเป็นแม่ของเด็กคนนั้น” เขากัดฟันต่ำเสียง พร้อมเอื้อมมือดึงถุงของเธอไปถือแทน “คุณควรจะปลอดภัยกว่านี้”
นลินอึ้ง เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องสนใจชีวิตของเธอขนาดนั้น เธออยากปฏิเสธ อยากกันเขาออกห่าง แต่ความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากร่างสูงข้างตัวมันทำให้เธอทำไม่ได้เลย
“ฉันแค่...อยากใช้ชีวิตเงียบ ๆ กับลูกค่ะ”
“ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันยุ่ง” ลีอองหันมาสบตาเธออีกครั้ง “ก็อย่าทำให้ฉันเป็นห่วง”
นลินสะอึก คำพูดของเขาหนักแน่นจนเธอหายใจไม่ทั่วท้อง
เขาส่งเธอกลับถึงหน้าร้านโดยไม่พูดอะไรอีก ระหว่างที่กำลังจะเดินกลับขึ้นรถ ปรีย์ที่นั่งรออยู่ตรงม้านั่งหน้าบ้านเห็นเขาเข้าก็รีบวิ่งเข้าไปหา
“คุณลุง~! ขอบคุณที่พาแม่กลับบ้านนะครับ!”
เสียงใสของเด็กน้อยทำให้ลีอองย่อตัวลงยิ้ม “เรียกฉันว่าลีอองก็พอ”
ปรีย์หัวเราะคิก “ได้ครับ ลีออง!”
เสียงหัวเราะนั้นเหมือนละลายอะไรบางอย่างในอกเขาไปหมด...
ขณะที่เขาเดินกลับขึ้นรถ เขาหันมามองนลินอีกครั้ง เห็นเธอยืนมองเขาอยู่เงียบ ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสนระคนหวั่นไหว
เขาไม่ได้พูดอะไรอีก...แต่ในใจเขามีคำหนึ่งดังชัด
“ระวังหัวใจไว้ให้ดี...นลิน”
วันถัดมา ลีอองยังรู้สึกแปลก ๆ ในใจ ราวกับภาพใบหน้าอ่อนโยนของนลินยังติดตรึงอยู่ไม่จางหาย เสียงหัวเราะของปรีย์ยังดังก้องในหัวเขา ในห้องทำงานส่วนตัวที่คลับของเขา บอดีการ์ดคู่ใจเดินเข้ามารายงานบางอย่าง
“หัวหน้า คนที่ตามรังควานคุณนลินเมื่อวาน เราสืบได้ว่าเขาเป็นคนของ "หมิงเฉิง" แก๊งคู่แข่งฝั่งฮ่องกง”
ลีอองนิ่ง แววตาเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวทันที
“หมายความว่าพวกมันเริ่มจ้องจะใช้เธอเป็นเครื่องมือ?”
“อาจจะยังไม่รู้แน่ชัดว่าเธอมีไฟล์ลับอะไร แต่อาจสงสัยว่าเธอรู้บางอย่าง”
เขาหลับตาแน่นก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง “เพิ่มคนดูแลร้านเธอ อย่าให้พวกมันเข้าใกล้เด็ดขาด”
“ครับ หัวหน้า”
เขารู้ดีว่าไฟล์นั้นเป็นชนวนของสงคราม
และเธอกำลังจะกลายเป็นเป้าโดยไม่รู้ตัว
ขณะที่อีกฟากหนึ่งของเมือง นลินกำลังจัดของในร้านอย่างเงียบ ๆ
ใจยังคงเต้นแรงทุกครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน
แต่ดวงตานั้น น้ำเสียงนั้น ทำให้เธอหวั่นไหวอย่างน่ากลัว
“แม่...วันนี้เราทำคุกกี้ช็อกโกแลตกันนะ!” เสียงใสของปรีย์ดังขึ้น เรียกสติของเธอกลับมา
“ได้สิครับลูก” เธอยิ้มบาง ๆ แล้วย่อตัวลงลูบศีรษะเขาเบา ๆ
หากนี่จะเป็นวันเงียบสงบสุดท้ายของเธอ เธอจะใช้มันให้เต็มที่กับคนที่เธอรักที่สุด
แต่เธอยังไม่รู้เลยว่าจากนี้ พายุใหญ่กำลังจะมาเยือน
วันรุ่งขึ้นหลังเหตุการณ์ที่ตลาด นลินพยายามใช้ชีวิตให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้
เธอเปิดร้านตั้งแต่เช้า อบขนมปัง ขนมเค้ก และจัดตู้โชว์อย่างละเอียดรอบคอบ
ราวกับจะใช้กลิ่นอบอุ่นของขนมปิดบังความสั่นไหวในใจตนเอง
แต่ในความเงียบนั้นใจเธอกลับฟุ้งกระจายไปถึงชายคนนั้น "ลีออง เดล รอสโซ"
เขาเป็นใครกันแน่? คนธรรมดาไม่มีทางแผ่รังสีคุกคามได้ถึงขนาดนั้น
ดวงตาเขามองคนได้ทะลุไปถึงขั้วหัวใจ และแม้เขาจะพูดน้อย แต่ทุกคำที่เปล่งออกมากลับสะเทือนใจเธออย่างรุนแรง
เสียงกระดิ่งประตูร้านดังขึ้นขณะเธอกำลังเช็ดเคาน์เตอร์ นลินเงยหน้าขึ้นแล้วเบิกตากว้าง
“คาโยะซัง?”
หญิงสาวร่างสูง ผมสีดำขลับในชุดสูทเท่ห์ยืนอยู่ตรงประตู ยิ้มบาง ๆ ให้เธอ
คาโยะ ทาเคดะ เพื่อนชาวญี่ปุ่นที่เคยมาเรียนแลกเปลี่ยนและเป็นลูกค้าประจำสมัยเธออยู่กรุงเทพ
ตอนนี้อีกฝ่ายเป็นหนึ่งในคนของลีออง
“นลินซัง...ฉันแวะมาดื่มกาแฟ”
“ค่ะ เชิญนั่งก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันชงให้เลย”
แต่สีหน้าของคาโยะนั้นดูไม่ใช่แค่คนที่อยากมาดื่มกาแฟ เขามองออกไปรอบร้าน
เหมือนกำลังประเมินความปลอดภัย ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา
“เมื่อวาน ลีอองให้ฉันมาตรวจพื้นที่รอบร้านคุณ มีคนของเว่ยลี่เข้ามาในเมือง พวกนั้นเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว”
นลินชะงักมือทันที ใจเต้นแรง เธอวางแก้วกาแฟลงตรงหน้าอีกฝ่ายแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม
“คุณคาโยะ...เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ?”
คาโยะถอนหายใจเบา ๆ
“สามีคุณเคยเกี่ยวข้องกับการเจรจาข้ามชาติบางอย่าง และดูเหมือนจะมีข้อมูลสำคัญที่องค์กรใต้ดินต้องการ
ไม่แน่ว่าไฟล์ลับนั้นอาจจะอยู่กับคุณ”
“แต่ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย!” นลินเสียงสั่น “ฉันแค่แม่คนหนึ่งที่อยากเลี้ยงลูกให้ปลอดภัย”
“ฉันเข้าใจ” คาโยะวางมือบนไหล่ของเธอเบา ๆ “แต่การไม่รู้ ไม่ได้แปลว่าคุณจะไม่ตกเป็นเป้า”
นลินหลุบตาลง หยดน้ำตาไหลลงบนโต๊ะโดยไม่รู้ตัว เธอเหนื่อยเหลือเกินกับการหนี
กับการไม่เข้าใจว่าความวุ่นวายเหล่านี้มาจากไหน แต่สิ่งเดียวที่เธอรู้คือ เธอจะไม่มีวันปล่อยให้ลูกของเธออยู่ในอันตราย
ค่ำวันนั้น ลีอองมาถึงร้านหลังปิด เขาไม่ได้แจ้งล่วงหน้า แต่นลินไม่แปลกใจเลยเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูเบา ๆ จากด้านหน้า
เธอเดินไปเปิด และเห็นเขายืนอยู่ในเงามืด ใบหน้าคมดุดันราวกับมีอะไรที่อยากพูดแต่ลังเล
“ฉันรู้เรื่องแล้ว” เธอเอ่ยขึ้นก่อนที่เขาจะทันพูดอะไร
“คาโยะบอกคุณ?”
“ค่ะ...คุณช่วยฉันไว้หลายครั้งแล้ว ฉันแค่ไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนเพราะฉันอีก”
ลีอองขยับเข้าใกล้ ดวงตาคมของเขาสะท้อนความเจ็บปวดลึก ๆ ที่เธอมองออกทันที
“การปล่อยให้คนอย่างพวกมันทำอะไรคุณนั่นแหละคือสิ่งที่ฉันเรียกว่าเดือดร้อน” เขาเอ่ยเสียงต่ำ “ฉันไม่อยากเสียอะไรไปอีก”
นลินชะงัก เขาพูดเหมือนคนที่เคยสูญเสียบางอย่าง
“ฉันเคยมีน้องสาว”
ลีอองเริ่มเล่า “เธอเสียไปเพราะพวกหมิงเฉินลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่
แต่ฉันไปไม่ทัน ตั้งแต่นั้นมา ฉันไม่ปล่อยให้ใครต้องเจอแบบเดียวกันอีก โดยเฉพาะคนที่ฉัน...แคร์”
คำสุดท้ายนั้นแทบหยุดลมหายใจเธอ เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจคืออะไร แต่หัวใจเธอเต้นเร็วผิดปกติ
“คุณไม่จำเป็นต้องพูดแบบนั้นเพื่อให้ฉันไว้ใจ” เธอกระซิบตอบ
“ฉันไม่ได้พูดเพื่อให้ไว้ใจ ฉันพูดเพื่อให้คุณรู้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว”
เขาค่อย ๆ ยื่นมือมาสัมผัสมือเธอเบา ๆ ความอบอุ่นแผ่ซ่านขึ้นมาถึงหัวใจ นลินหลับตาลง
เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี...ที่เธอรู้สึกเหมือนมีใครอยู่ข้างเธอจริง ๆ
กลางดึกคืนนั้น ลีอองกับเพื่อนสนิทสองคน แดลเนียว กับ คาโยะ ประชุมลับกันในห้องใต้ดินของคลับ
“เราได้เบาะแสใหม่เกี่ยวกับไฟล์นั้น” แดลเนียวเปิดแท็บเล็ตแสดงภาพแผนที่
“ดูเหมือนว่ามันอาจถูกซ่อนไว้ในของเล่นของปรีย์ โดยไม่รู้ตัว”
“เด็กนั่น?” คาโยะเลิกคิ้ว “เด็กคนนั้นฉลาดมากกว่าที่เราคิดแฮะ”
“ไม่มีใครรู้แน่ชัด แต่เราต้องเริ่มขยับก่อนที่พวกมันจะลงมือ” ลีอองกล่าวเสียงหนัก
“นายแน่ใจนะว่าต้องปกป้องพวกเขาถึงขนาดนี้?” คาโยะถาม
“แน่ใจสิ...เพราะนี่คือครอบครัวเดียวที่ฉันเคยมี”