ตอนที่ 18 บังคับ

1867 Words
ณ เพ้นท์เฮ้าส์สุดหรู ขณะที่ขนมหวานกำลังเลี้ยงลูกน้อยเธอก็เปิดทีวีดูข่าวสดไปด้วยพลางๆ ส่วนธีร์ก็ออกไปทำงานที่บริษัท หลังจากที่อะไรๆ เริ่มลงตัวทั้งสองก็ได้กลับมาทำหน้าที่ของตัวเองต่ออีกครั้ง ซึ่งมันก็ปกติไม่มีเรื่องอะไรวุ่นวาย จนกระทั่ง... หน้าจอทีวีฉายภาพของหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งพร้อมกับลูกชาย บนหน้าจอนั่นคือธีร์และแม่ของเขา ก่อนที่นักข่าวจะเริ่มพูดเมาท์กันสนั่นเรื่องงานหมั้นของลูกชายนักธุรกิจอสังหาฯที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ "ป้อ ป้อ ป้อ ~" เสียงเจ้าลูกชายตัวน้อยดังขึ้นมาพร้อมกับชี้นิ้วไปที่หน้าทีวีไม่ยอมวางมือ เพราะจำได้ว่าที่หน้าทีวีนั้นคือพ่อของตัวเองที่รักเอามากๆ ข่าวที่หน้าทีวีประกาศมันทำให้ขนมหวานต้องหยุดดูจริงๆ เพราะเธอก็พอจะรู้มาบ้างว่า แม่ของธีร์พยายามจะยัดเยียดคู่หมั้นให้กับเขา ทั้งที่รู้แล้วว่าธีร์เขาเลือกที่จะอยู่กับขนมหวานและลูก และเธอก็พอจะเดาได้ ว่าที่แม่ของเขาทำแบบนี้ก็เพราะไม่อยากให้ธีร์นั้นปฏิเสธ จึงใช้สื่อออนไลน์เพื่อกดดันให้ธีร์ทำตามความต้องการสินะ ขนมหวานถอนหายใจออกมาอย่างแรง ถึงจะเข้าใจความเป็นแม่ที่อยากให้ลูกได้ในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดี แต่ไม่มองถึงความสุขหรือความต้องการจริงๆ ของลูกเลย ตอนนี้เธอเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงไม่ค่อยชอบแม่ตัวเอง บางครั้งเจอหน้ากันเขาก็จะไล่ให้กลับไป เป็นเพราะแบบนี้เองสินะ เธอไม่ได้เสียใจหรือรู้สึกไม่ดีอะไร เพราะธีร์เขาทำให้เธอเห็นมานานแล้วว่าต่อให้แม่ของเขาจะพยายามยัดเยียดใครเข้ามาในชีวิต เขาก็ไม่ได้สนใจเลย เธอแค่ตกใจมากกว่าที่จนป่านนี้แล้ว แม่ของเขาก็ยังมีความพยายามที่จะบังคับลูกให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ @ทางด้านของธีร์ ณ บริษัทยักษ์ใหญ่ในเครือธีระเศรษฐา ธีร์นั่งดูข่าวที่กำลังฉายอยู่บนหน้าจอไอแพด ข่าวที่แม่ของเขาประกาศหราเรื่องงานหมั้นของเขาและผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ เขาไม่รู้จัก ไม่แม้แต่จะเคยเห็นหน้ากัน แต่แม่ของเขากลับโกหกใครๆ ว่ารู้จักกันมานาน และคบกันมาหลายปี นี่มันเป็นการโกหกออกสื่อชัดๆ !! "บ้าฉิบ!!" ธีร์สบถออกมาด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด เขาวางไอแพดลงบนโต๊ะทำงานอย่างแรงจนมันแทบจะแตกละเอียดคามือ "ให้ผมจัดการให้เลยไหมครับนาย" "อืม จัดการให้นักข่าวลบคลิปให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องแม่เดี๋ยวฉันจัดการเอง" "ครับ" จากนั้นธีร์ก็รีบต่อสายตรงไปหาผู้เป็นแม่ หลังจากที่ไม่ได้คุยกันเลยมาร่วมปีได้แล้ว ( ไง ยังไม่ลืมกันใช่ไหม ) "ทำอะไรของแม่ครับ!" ( ก็ทำเรื่องที่มันถูกต้องไง แกควรเลิกกับผู้หญิงคนนั้นได้แล้ว ) "ผมไม่เลิก นี่แม่คิดอะไรอยู่ครับ จะให้ผมทิ้งลูกทิ้งเมียตัวเองเพื่อไปแต่งงานใหม่ ลองเป็นพ่อทิ้งแม่ทิ้งลูกแล้วไปแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่แม่จะรับได้ไหมครับ!" ( นี่แกกล้าย้อนฉันเหรอธีร์ ฉันเป็นแม่แกนะ! ) "ก็แม่นี่แหละครับผมถึงต้องบอก!" ( ไม่รู้แหละ ฉันจะทำให้แกเลิกกับผู้หญิงคนนั้นไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม และแกก็ต้องมาแต่งงานกับคนที่ฉันเลือกให้ ) "นี่มันหมดยุคคลุมถุงชนแล้วนะครับ เลิกบังคับผมสักที" ( ฉันอุตส่าห์เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับแก แต่แกกลับไม่รับมันไป ไปคว้าเอาเศษขยะข้างถนนขึ้นมาเคียงข้างกาย มันอร่อยนักหรือไง ) "สำหรับผม พี่ขนมไม่เคยเป็นขยะ เขาคือสิ่งล้ำค่าในชีวิตของผม" ( สิ้นคิด! ผู้หญิงคนนั้นมันมีดีอะไรนักหนา ) "ก็ดีจนผมไม่อยากทิ้งเขาไปไงครับ" ( งั้นก็ดี แกกล้าหัวแข็งใส่ฉันแบบนี้ก็ดี เพราะฉันจะได้ไม่ต้องเสียใจเวลาทำอะไรลงไป ) "ผมขอเตือนแม่ไว้ก่อนนะครับ อย่าคิดที่จะทำอะไรแบบนั้น ลูกเมียผมเป็นอะไรขึ้นมา ผมพังทุกอย่างไม่เหลือดีแน่!" ธีร์ไม่ใช่แค่ขู่คนที่รู้จักเขาดีเท่านั้นถึงจะรู้ว่าทุกเรื่องที่ออกมาจากปากเขาไม่เคยมีคำว่าพูดเล่น เพราะเขาจะไม่ล้อเล่นกับใครถ้าคนนั้นล้ำเส้นเข้ามาจริงๆ ต่อให้คนนั้นจะมีพระคุณกับตัวเองมากแค่ไหนก็ตาม ( แกกล้าขู่ฉันเลยเหรอ เพราะผู้หญิงคนเดียวทำให้แกปฏิบัติกับฉันแบบนี้งั้นเหรอ?! ) "ต่อให้แม่จะประกาศออกทีวีสักกี่ช่อง ทำข่าวอีกสักเท่าไหร่ ผมก็จะไม่มีวันแต่งงาน ถ้ายังไม่หยุดผมจะทำให้ทุกอย่างที่แม่กำลังทำให้มันดีพังแบบสิ้นท่า อย่าคิดว่าผมพูดเล่นนะครับ ผมไม่เคยล้อเล่นเรื่องแบบนี้กับใคร" ( แล้วแกจะเสียใจที่ทำแบบนี้กับฉัน ) "ผมจะเสียใจมากกว่า ถ้าไม่ได้ดูแลและปกป้องลูกเมียตัวเอง ปล่อยให้คนอื่นมาทำร้าย แค่คิดว่าจะต้องทิ้งลูกทิ้งเมียตัวเองไปแต่งงานเพื่อความกตัญญู ก็ชาติหมาแล้วครับ!" ( ตาธีร์!! ) ตู๊ดๆๆๆ !! ธีร์รีบตัดสายทิ้งด้วยความโมโห ให้คุยนานมากกว่านี้ไม่ได้หรอก เพราะเขาเป็นคนที่มีความอดทนต่ำมาก ยิ่งแม่พยายามที่จะบังคับเขาให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการแบบไม่ลดละอย่างนี้ เขาก็ยิ่งโกรธยิ่งโมโห "เรียบร้อยแล้วครับนาย ผมสั่งให้คนของเราสั่งข่าวที่ออกวันนี้ทั้งหมดแล้วครับ" "สั่งซ้ำไปด้วยว่า ถ้าใครนำเสนอข่าวปลอมพวกนี้อีก ฉันจะเล่นงานให้ถึงที่สุด!" "ครับนาย" "วันนี้ยกเลิกประชุมทั้งหมด ฉันจะกลับบ้าน" "ครับ" หลังจากนั้นธีร์ก็รีบขับรถกลับบ้าน เขาเหยียบคันเร่งด้วยความเร็วที่เกินปกติ ในขณะที่ด้านนอกนั้นฝนกำลังโหมกระหน่ำลงมาอย่างหนักหน่วง ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังถนนเบื้องหน้าเหมือนคนที่มีสติและสมาธิขับรถ แต่ทว่าจิตใจของเขามันไม่ได้อยู่ตรงนี้เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเขากำลังคิดถึงลูก คิดถึงขนมหวาน พร้อมกับคิดในใจว่าเธอคงเห็นข่าวนี้แล้วเธอจะคิดยังไง เธอจะเสียใจแค่ไหน และเธอได้ร้องไห้หรือเปล่า เขากลัวว่าเธอจะเสียใจเพียงเพราะเรื่องบ้าๆ ที่มันไม่เป็นความจริง แต่มันเป็นเรื่องที่แม่ของเขาสร้างขึ้นมา ในใจตอนนี้ได้แต่คิดว่า เขาต้องรีบกลับไปถึงให้เร็วที่สุด ไม่ได้สนใจว่าฝนกำลังตกหนักอยู่ในตอนนี้ และเขาก็ควรจะเบารถเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่มาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ทันใดนั้น... แสงไฟสว่างจ้าส่องสวนพุ่งเข้ามากระทบสายตาของเขา ทำให้ธีร์รีบหลับตาลงตามสัญชาตญาณ ก่อนที่จะหักพวงมาลัยพร้อมกับเสียงเบรคเอี๊ยดดังลั่นถนน ล้อรถเสียการควบคุมตัวรถหมุนคว้างกลางถนนท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำลงมา ตัวรถไม่รู้ว่ากระเด็นไปชนกับอะไรบ้าง เสียงชนดังสนั่นสั่นสะเทือน ธีร์ที่อยู่ในรถตัวหมุนครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะรถพลิกคว่ำหลายตลบและถูกอัดกระแทกทั้งซ้ายและขวาจนกระทั่งทุกอย่างสงบลง เขายังพอมีสติเลือนลาง ยังพอรู้ว่าตัวเองเกิดอุบัติเหตุแต่ความสามารถในการช่วยเหลือของตัวเอง ณ ตอนนี้มันไม่มีเลย ขณะเดียวกัน ครืด ครืด ครืด ~ โทรศัพท์มือถือเครื่องหรูก็มีสายเรียกเข้าโทรเข้ามา หน้าจอโทรศัพท์ถึงแม้จะแตกแต่ก็ยังพอมองเห็นชื่อของปลายสายที่โทรเข้ามา ( ที่รัก >>> โทรหาคุณ ) ธีร์อยากจะยื้อมือไปรับสาย อยากจะบอกรัก อยากจะทำอะไรสักอย่างในตอนนี้ แต่เขากลับไม่มีแรงเอาซะเลย ได้แต่นอนน้ำตาไหล ในใจก็นึกกลัวถ้าตัวเองตายขึ้นมาขนมหวานกับลูกจะอยู่ยังไง เขายังอยากอยู่กับลูก ยังอยากเลี้ยงและอยากเห็นเขาได้เติบโตไปในทางที่ดี "พะ พี่ขนม....ผมรักพี่ นะครับ..." เป็นเสียงสุดท้ายก่อนที่สติของเขาที่ยังพอมีอยู่เล็กน้อยมันจะค่อยๆ เลือนลางหายไป หลังจากนั้นเขาก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย แม้กระทั่งความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่ ...เวลาผ่านไปไม่รู้นานเท่าไหร่ เสียงไซเรนของรถพยาบาลและรถกู้ภัยดังระงมอยู่ท่ามกลางสายฝนที่กำลังตกอย่างแรง ธีร์ถูกช่วยออกมาจากซากรถที่พังแบบยับเยิน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาที่ยังพอจะทำให้ติดต่อกับทางญาติได้ และสายที่โทรเข้ามาล่าสุดก็คือ ขนมหวาน ทางด้านของขนมหวาน... เธอกับลูกน้อยกำลังรอธีร์กลับมากินข้าวเย็นด้วยกันเหมือนอย่างเช่นปกติ เธอไม่ได้โทรจิกเขาและก็คิดว่าที่เขาไม่รับสายก็คงจะขับรถอยู่ หรือไม่ก็คงไม่ได้ยินเสียงมือถือ "ธีร์กลับมาถึงหรือยังคะ?" ขนมหวานเอ่ยถามกับแม่บ้าน เพราะเธอไม่รู้ว่าป่านนี้แล้วทำไมเขายังไม่ถึง ทั้งที่จากบริษัทจนถึงที่นี่มันก็ไม่ได้ใช้เวลานานมากเลย เขาน่าจะถึงได้แล้วสิ "ยังเลยค่ะนายหญิง ให้ออกไปรอไหมคะ" "ไม่เป็นอะไรค่ะ" ขนมหวานพยายามที่จะไม่คิดอะไรมาก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้เธอกลัวว่าเขาจะไปทะเลาะกับแม่ของเขามากกว่า ซึ่งเธอไม่อยากเป็นต้นเหตุเลย "ป้อ ป้อ ป้อ ~" "รอแป๊บนึงนะครับ เดี๋ยวพ่อก็มาแล้ว" ขนมหวานบอกกับลูกชายที่กำลังเรียกร้องหาผู้เป็นพ่อไม่ยอมหยุด พร้อมกับเริ่มมีอาการที่จะงอแงขึ้นมาจากที่ตอนแรกยังคงร่าเริงปกติอยู่ จนขนมหวานต้องอุ้มลูกชายส่งให้กับแม่บ้านก่อน ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด ~ ขณะเดียวกันโทรศัพท์มือถือของขนมหวานก็เสียงดังขึ้นมา เธอรีบเดินมาดูหน้าจอปรากฏเบอร์ของธีร์โทรกลับเข้ามา "ธีร์นายอยู่ไหน" ( สวัสดีครับ โทรจากกู้ภัยนะครับ ) "ค-คะ! ทะ ทำไมโทรศัพท์มือถือของสามีฉัน ถึงไปอยู่กับคุณกู้ภัยล่ะคะ" ขนมหวานถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ มันห้ามไม่ได้จริงๆ ที่จะไม่ให้คิดถึงเรื่องนั้น จู่ๆ ก็มีกู้ภัยโทรกลับมาแทนที่จะเป็นสามีของตัวเอง ( เจ้าของโทรศัพท์ ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ อาการสาหัส ตอนนี้ได้นำส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วครับ ) "ที่ไหนคะฉันจะรีบไป" ( โรงพยาบาลเอกชนxxxครับ ) "ค่ะ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD