ณ เพ้นท์เฮ้าส์สุดหรู
ขณะที่ขนมหวานกำลังเลี้ยงลูกน้อยเธอก็เปิดทีวีดูข่าวสดไปด้วยพลางๆ ส่วนธีร์ก็ออกไปทำงานที่บริษัท หลังจากที่อะไรๆ เริ่มลงตัวทั้งสองก็ได้กลับมาทำหน้าที่ของตัวเองต่ออีกครั้ง ซึ่งมันก็ปกติไม่มีเรื่องอะไรวุ่นวาย
จนกระทั่ง...
หน้าจอทีวีฉายภาพของหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งพร้อมกับลูกชาย บนหน้าจอนั่นคือธีร์และแม่ของเขา ก่อนที่นักข่าวจะเริ่มพูดเมาท์กันสนั่นเรื่องงานหมั้นของลูกชายนักธุรกิจอสังหาฯที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้
"ป้อ ป้อ ป้อ ~" เสียงเจ้าลูกชายตัวน้อยดังขึ้นมาพร้อมกับชี้นิ้วไปที่หน้าทีวีไม่ยอมวางมือ เพราะจำได้ว่าที่หน้าทีวีนั้นคือพ่อของตัวเองที่รักเอามากๆ
ข่าวที่หน้าทีวีประกาศมันทำให้ขนมหวานต้องหยุดดูจริงๆ เพราะเธอก็พอจะรู้มาบ้างว่า แม่ของธีร์พยายามจะยัดเยียดคู่หมั้นให้กับเขา ทั้งที่รู้แล้วว่าธีร์เขาเลือกที่จะอยู่กับขนมหวานและลูก
และเธอก็พอจะเดาได้ ว่าที่แม่ของเขาทำแบบนี้ก็เพราะไม่อยากให้ธีร์นั้นปฏิเสธ จึงใช้สื่อออนไลน์เพื่อกดดันให้ธีร์ทำตามความต้องการสินะ
ขนมหวานถอนหายใจออกมาอย่างแรง ถึงจะเข้าใจความเป็นแม่ที่อยากให้ลูกได้ในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดี แต่ไม่มองถึงความสุขหรือความต้องการจริงๆ ของลูกเลย ตอนนี้เธอเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงไม่ค่อยชอบแม่ตัวเอง บางครั้งเจอหน้ากันเขาก็จะไล่ให้กลับไป เป็นเพราะแบบนี้เองสินะ
เธอไม่ได้เสียใจหรือรู้สึกไม่ดีอะไร เพราะธีร์เขาทำให้เธอเห็นมานานแล้วว่าต่อให้แม่ของเขาจะพยายามยัดเยียดใครเข้ามาในชีวิต เขาก็ไม่ได้สนใจเลย เธอแค่ตกใจมากกว่าที่จนป่านนี้แล้ว แม่ของเขาก็ยังมีความพยายามที่จะบังคับลูกให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
@ทางด้านของธีร์
ณ บริษัทยักษ์ใหญ่ในเครือธีระเศรษฐา
ธีร์นั่งดูข่าวที่กำลังฉายอยู่บนหน้าจอไอแพด ข่าวที่แม่ของเขาประกาศหราเรื่องงานหมั้นของเขาและผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ เขาไม่รู้จัก ไม่แม้แต่จะเคยเห็นหน้ากัน แต่แม่ของเขากลับโกหกใครๆ ว่ารู้จักกันมานาน และคบกันมาหลายปี นี่มันเป็นการโกหกออกสื่อชัดๆ !!
"บ้าฉิบ!!" ธีร์สบถออกมาด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด เขาวางไอแพดลงบนโต๊ะทำงานอย่างแรงจนมันแทบจะแตกละเอียดคามือ
"ให้ผมจัดการให้เลยไหมครับนาย"
"อืม จัดการให้นักข่าวลบคลิปให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องแม่เดี๋ยวฉันจัดการเอง"
"ครับ"
จากนั้นธีร์ก็รีบต่อสายตรงไปหาผู้เป็นแม่ หลังจากที่ไม่ได้คุยกันเลยมาร่วมปีได้แล้ว
( ไง ยังไม่ลืมกันใช่ไหม )
"ทำอะไรของแม่ครับ!"
( ก็ทำเรื่องที่มันถูกต้องไง แกควรเลิกกับผู้หญิงคนนั้นได้แล้ว )
"ผมไม่เลิก นี่แม่คิดอะไรอยู่ครับ จะให้ผมทิ้งลูกทิ้งเมียตัวเองเพื่อไปแต่งงานใหม่ ลองเป็นพ่อทิ้งแม่ทิ้งลูกแล้วไปแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่แม่จะรับได้ไหมครับ!"
( นี่แกกล้าย้อนฉันเหรอธีร์ ฉันเป็นแม่แกนะ! )
"ก็แม่นี่แหละครับผมถึงต้องบอก!"
( ไม่รู้แหละ ฉันจะทำให้แกเลิกกับผู้หญิงคนนั้นไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม และแกก็ต้องมาแต่งงานกับคนที่ฉันเลือกให้ )
"นี่มันหมดยุคคลุมถุงชนแล้วนะครับ เลิกบังคับผมสักที"
( ฉันอุตส่าห์เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับแก แต่แกกลับไม่รับมันไป ไปคว้าเอาเศษขยะข้างถนนขึ้นมาเคียงข้างกาย มันอร่อยนักหรือไง )
"สำหรับผม พี่ขนมไม่เคยเป็นขยะ เขาคือสิ่งล้ำค่าในชีวิตของผม"
( สิ้นคิด! ผู้หญิงคนนั้นมันมีดีอะไรนักหนา )
"ก็ดีจนผมไม่อยากทิ้งเขาไปไงครับ"
( งั้นก็ดี แกกล้าหัวแข็งใส่ฉันแบบนี้ก็ดี เพราะฉันจะได้ไม่ต้องเสียใจเวลาทำอะไรลงไป )
"ผมขอเตือนแม่ไว้ก่อนนะครับ อย่าคิดที่จะทำอะไรแบบนั้น ลูกเมียผมเป็นอะไรขึ้นมา ผมพังทุกอย่างไม่เหลือดีแน่!"
ธีร์ไม่ใช่แค่ขู่คนที่รู้จักเขาดีเท่านั้นถึงจะรู้ว่าทุกเรื่องที่ออกมาจากปากเขาไม่เคยมีคำว่าพูดเล่น เพราะเขาจะไม่ล้อเล่นกับใครถ้าคนนั้นล้ำเส้นเข้ามาจริงๆ ต่อให้คนนั้นจะมีพระคุณกับตัวเองมากแค่ไหนก็ตาม
( แกกล้าขู่ฉันเลยเหรอ เพราะผู้หญิงคนเดียวทำให้แกปฏิบัติกับฉันแบบนี้งั้นเหรอ?! )
"ต่อให้แม่จะประกาศออกทีวีสักกี่ช่อง ทำข่าวอีกสักเท่าไหร่ ผมก็จะไม่มีวันแต่งงาน ถ้ายังไม่หยุดผมจะทำให้ทุกอย่างที่แม่กำลังทำให้มันดีพังแบบสิ้นท่า อย่าคิดว่าผมพูดเล่นนะครับ ผมไม่เคยล้อเล่นเรื่องแบบนี้กับใคร"
( แล้วแกจะเสียใจที่ทำแบบนี้กับฉัน )
"ผมจะเสียใจมากกว่า ถ้าไม่ได้ดูแลและปกป้องลูกเมียตัวเอง ปล่อยให้คนอื่นมาทำร้าย แค่คิดว่าจะต้องทิ้งลูกทิ้งเมียตัวเองไปแต่งงานเพื่อความกตัญญู ก็ชาติหมาแล้วครับ!"
( ตาธีร์!! )
ตู๊ดๆๆๆ !!
ธีร์รีบตัดสายทิ้งด้วยความโมโห ให้คุยนานมากกว่านี้ไม่ได้หรอก เพราะเขาเป็นคนที่มีความอดทนต่ำมาก ยิ่งแม่พยายามที่จะบังคับเขาให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการแบบไม่ลดละอย่างนี้ เขาก็ยิ่งโกรธยิ่งโมโห
"เรียบร้อยแล้วครับนาย ผมสั่งให้คนของเราสั่งข่าวที่ออกวันนี้ทั้งหมดแล้วครับ"
"สั่งซ้ำไปด้วยว่า ถ้าใครนำเสนอข่าวปลอมพวกนี้อีก ฉันจะเล่นงานให้ถึงที่สุด!"
"ครับนาย"
"วันนี้ยกเลิกประชุมทั้งหมด ฉันจะกลับบ้าน"
"ครับ"
หลังจากนั้นธีร์ก็รีบขับรถกลับบ้าน เขาเหยียบคันเร่งด้วยความเร็วที่เกินปกติ ในขณะที่ด้านนอกนั้นฝนกำลังโหมกระหน่ำลงมาอย่างหนักหน่วง ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังถนนเบื้องหน้าเหมือนคนที่มีสติและสมาธิขับรถ แต่ทว่าจิตใจของเขามันไม่ได้อยู่ตรงนี้เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเขากำลังคิดถึงลูก คิดถึงขนมหวาน พร้อมกับคิดในใจว่าเธอคงเห็นข่าวนี้แล้วเธอจะคิดยังไง เธอจะเสียใจแค่ไหน และเธอได้ร้องไห้หรือเปล่า เขากลัวว่าเธอจะเสียใจเพียงเพราะเรื่องบ้าๆ ที่มันไม่เป็นความจริง แต่มันเป็นเรื่องที่แม่ของเขาสร้างขึ้นมา
ในใจตอนนี้ได้แต่คิดว่า เขาต้องรีบกลับไปถึงให้เร็วที่สุด ไม่ได้สนใจว่าฝนกำลังตกหนักอยู่ในตอนนี้ และเขาก็ควรจะเบารถเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่มาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
ทันใดนั้น...
แสงไฟสว่างจ้าส่องสวนพุ่งเข้ามากระทบสายตาของเขา ทำให้ธีร์รีบหลับตาลงตามสัญชาตญาณ ก่อนที่จะหักพวงมาลัยพร้อมกับเสียงเบรคเอี๊ยดดังลั่นถนน ล้อรถเสียการควบคุมตัวรถหมุนคว้างกลางถนนท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำลงมา ตัวรถไม่รู้ว่ากระเด็นไปชนกับอะไรบ้าง เสียงชนดังสนั่นสั่นสะเทือน ธีร์ที่อยู่ในรถตัวหมุนครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะรถพลิกคว่ำหลายตลบและถูกอัดกระแทกทั้งซ้ายและขวาจนกระทั่งทุกอย่างสงบลง เขายังพอมีสติเลือนลาง ยังพอรู้ว่าตัวเองเกิดอุบัติเหตุแต่ความสามารถในการช่วยเหลือของตัวเอง ณ ตอนนี้มันไม่มีเลย
ขณะเดียวกัน ครืด ครืด ครืด ~ โทรศัพท์มือถือเครื่องหรูก็มีสายเรียกเข้าโทรเข้ามา หน้าจอโทรศัพท์ถึงแม้จะแตกแต่ก็ยังพอมองเห็นชื่อของปลายสายที่โทรเข้ามา
( ที่รัก >>> โทรหาคุณ )
ธีร์อยากจะยื้อมือไปรับสาย อยากจะบอกรัก อยากจะทำอะไรสักอย่างในตอนนี้ แต่เขากลับไม่มีแรงเอาซะเลย ได้แต่นอนน้ำตาไหล ในใจก็นึกกลัวถ้าตัวเองตายขึ้นมาขนมหวานกับลูกจะอยู่ยังไง เขายังอยากอยู่กับลูก ยังอยากเลี้ยงและอยากเห็นเขาได้เติบโตไปในทางที่ดี
"พะ พี่ขนม....ผมรักพี่ นะครับ..." เป็นเสียงสุดท้ายก่อนที่สติของเขาที่ยังพอมีอยู่เล็กน้อยมันจะค่อยๆ เลือนลางหายไป หลังจากนั้นเขาก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย แม้กระทั่งความเจ็บปวดแสนสาหัสที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่
...เวลาผ่านไปไม่รู้นานเท่าไหร่ เสียงไซเรนของรถพยาบาลและรถกู้ภัยดังระงมอยู่ท่ามกลางสายฝนที่กำลังตกอย่างแรง ธีร์ถูกช่วยออกมาจากซากรถที่พังแบบยับเยิน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาที่ยังพอจะทำให้ติดต่อกับทางญาติได้ และสายที่โทรเข้ามาล่าสุดก็คือ ขนมหวาน
ทางด้านของขนมหวาน...
เธอกับลูกน้อยกำลังรอธีร์กลับมากินข้าวเย็นด้วยกันเหมือนอย่างเช่นปกติ เธอไม่ได้โทรจิกเขาและก็คิดว่าที่เขาไม่รับสายก็คงจะขับรถอยู่ หรือไม่ก็คงไม่ได้ยินเสียงมือถือ
"ธีร์กลับมาถึงหรือยังคะ?" ขนมหวานเอ่ยถามกับแม่บ้าน เพราะเธอไม่รู้ว่าป่านนี้แล้วทำไมเขายังไม่ถึง ทั้งที่จากบริษัทจนถึงที่นี่มันก็ไม่ได้ใช้เวลานานมากเลย เขาน่าจะถึงได้แล้วสิ
"ยังเลยค่ะนายหญิง ให้ออกไปรอไหมคะ"
"ไม่เป็นอะไรค่ะ"
ขนมหวานพยายามที่จะไม่คิดอะไรมาก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้เธอกลัวว่าเขาจะไปทะเลาะกับแม่ของเขามากกว่า ซึ่งเธอไม่อยากเป็นต้นเหตุเลย
"ป้อ ป้อ ป้อ ~"
"รอแป๊บนึงนะครับ เดี๋ยวพ่อก็มาแล้ว" ขนมหวานบอกกับลูกชายที่กำลังเรียกร้องหาผู้เป็นพ่อไม่ยอมหยุด พร้อมกับเริ่มมีอาการที่จะงอแงขึ้นมาจากที่ตอนแรกยังคงร่าเริงปกติอยู่ จนขนมหวานต้องอุ้มลูกชายส่งให้กับแม่บ้านก่อน
ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด ~
ขณะเดียวกันโทรศัพท์มือถือของขนมหวานก็เสียงดังขึ้นมา เธอรีบเดินมาดูหน้าจอปรากฏเบอร์ของธีร์โทรกลับเข้ามา
"ธีร์นายอยู่ไหน"
( สวัสดีครับ โทรจากกู้ภัยนะครับ )
"ค-คะ! ทะ ทำไมโทรศัพท์มือถือของสามีฉัน ถึงไปอยู่กับคุณกู้ภัยล่ะคะ" ขนมหวานถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ มันห้ามไม่ได้จริงๆ ที่จะไม่ให้คิดถึงเรื่องนั้น จู่ๆ ก็มีกู้ภัยโทรกลับมาแทนที่จะเป็นสามีของตัวเอง
( เจ้าของโทรศัพท์ ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ อาการสาหัส ตอนนี้ได้นำส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วครับ )
"ที่ไหนคะฉันจะรีบไป"
( โรงพยาบาลเอกชนxxxครับ )
"ค่ะ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย!"