ณ เพ้นท์เฮ้าส์สุดหรู
"ผมจะออกไปเรียนสักครึ่งวันนะครับ บ่ายๆ ผมจะกลับ พี่อยากกินอะไรไหม ผมจะได้แวะซื้อมาให้"
"ไม่หรอก นายอยากไปเรียนก็ไปสิ ไม่เห็นต้องรายงานฉันทุกอย่างเลย" ขนมหวานพูดกับคนที่กำลังยืนแต่งตัวอยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นเขาแต่งตัวไปเรียน เพราะส่วนใหญ่ก็เห็นแต่ใส่ชุดสูทและก็ชุดลำลองธรรมดาตอนที่อยู่ที่นี่
สมกับเป็นเด็กมหาลัยจริงๆ ถึงความรับผิดชอบและหน้าที่การงานจะเกินตัวคำว่าเด็กมหาลัยไปมากก็เถอะ
"ผมหล่อไหมครับ" ธีร์หันกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับจัดชุดจัดท่าทางทำท่าเท่ๆ ให้เธอมองด้วย
"ก็ดี.." ขนมหวานตอบเสียงแผ่วๆ
"ก็ดีนี่หมายถึงยังไงครับ หล่อหรือไม่หล่อ"
"ก็ดี ก็คือก็ดีไง"
"งั้นผมจะคิดว่า ก็ดีของพี่คือหล่อละกันนะครับ"
"......" ขนมหวานไม่ได้ตอบ แต่ความจริงเธอก็คิดแบบนั้นแหละ คงเพราะเขาหน้าตาดีหุ่นดีอยู่แล้วด้วยมั้ง ใส่ชุดอะไรมันก็ดูเหมาะสมไปหมดเลย
เขาเป็นเด็กวิศวะและป้ายของมหาวิทยาลัยก็บ่งบอกว่าเขาเรียนอยู่มหาลัยเอกชนชื่อดังด้วย
"เดี๋ยวผมรีบกลับนะครับ"
"อืม..."
"เดี๋ยวแวะซื้อขนมเค้กข้างมหาลัยมาให้ ฟอด ~ รักนะครับ"
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ออกไป และเขาก็ทำแบบนี้อยู่ทุกวัน ออกไปทำงานบ้าง ไปธุระบ้าง มีงานด่วนต้องไปบ้าง หลายอย่างดูจุกจิกไปหมดเลย
ทุกๆ วันมักจะเป็นแบบนี้ ขนมหวานไม่ต้องทำอะไรเลย เรื่องอาหารการกินก็มีแม่บ้านคอยเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้ เสื้อผ้าก็มีคนซักให้ เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เหมือนหนูตกถังข้าวสาร ถึงจะอึดอัดไปบ้างแต่ก็ขัดอะไรไม่ได้
"ขอโทษนะคะ พอดีมีคนมาขอเข้าพบค่ะ"
"ใครคะ?" ขนมหวานหันไปถามแม่บ้านแบบงงๆ เพราะไม่น่าจะมีคนรู้จักของเธอมาถึงที่นี่ได้ หรือถ้าจะเป็นคนรู้จักของธีร์เขาก็คงจะโทรมาบอกเธอก่อนแล้ว หรือไม่ก็ออกไปพบกันข้างนอกมากกว่า
"เป็นผู้หญิงสูงวัยค่ะ ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นใคร เห็นว่ามาขอพบคุณขนม"
"ค่ะ ให้เขารออยู่ข้างนอกก็ได้ เดี๋ยวฉันไป"
"ค่ะ"
ขนมหวานเดินออกไปที่ห้องโถงโดยที่ปล่อยให้แขกแปลกหน้าคนนั้นรออยู่ไม่นาน พอมาถึงเธอก็เห็นหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังนั่งไขว่ห้างรออยู่ตรงโซฟาห้องรับแขก
คนตัวเล็กที่กำลังท้องอ่อนๆ ค่อยๆ นั่งลงบนโซฟาตรงข้ามกับหญิงวัยกลางคนอย่างระมัดระวัง ไม่รู้ว่าคนนี้คือใคร แล้วมาทำอะไร แต่ก็อายุมากเกินกว่าจะเป็นแฟนหรือผู้หญิงของธีร์ นอกเสียจากว่านี่จะคือแม่ของเขา
"สะ สวัสดีค่ะ คุณคือใครเหรอคะ?"
"นี่สินะ ผู้หญิงที่ลูกชายหัวรั้นของฉันมันซุกซ่อนเอาไว้" หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเย็นเยียบ สายตานั้นจ้องมองอย่างเย็นชา ไม่มีท่าทีจะยอมรับหรือดีใจอะไรเลย
ก็อย่างว่าแหละ ปัญหาครอบครัวระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้ก็เป็นอันดับแรกๆ อยู่แล้ว
ขนมหวานกำมือแน่น รู้สึกเกร็งไปหมด เริ่มทำตัวไม่ถูกและก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วเหมือนกัน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับแม่ของธีร์ และก็ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกันตอนที่เขาไม่อยู่แบบนี้
"เอ่อ ฉันชื่อขนมหวานนะคะ ขอโทษที่ฉันไม่รู้จักคุณ ก็เลยไม่ได้...ขอโทษจริงๆ ค่ะ" ขนมหวานเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิด เพราะเธอไม่รู้เลยว่าแม่ของเขาจะมา ไม่อย่างนั้นก็คงเตรียมรอต้อนรับดีกว่านี้
"ไม่ต้องแนะนำตัวหรอก ฉันพอจะรู้แล้วว่าเธอเป็นใคร หัวนอนปลายเท้าเป็นยังไง เหมาะสมกับลูกชายของฉันไหม เพราะแบบนี้ไงฉันถึงพยายามหาสิ่งที่เหมาะสมกับธีร์ เพราะถ้าให้เขาเลือกเองก็จะได้แต่อะไรแบบนี้มา"
คำพูดนั้นบาดลึกเหมือนคมมีด ขนมหวานเม้มริมฝีปากแน่นพร้อมกับก้มหน้าต่ำลง หัวใจเต้นแรง บรรยากาศตรงนี้ ณ ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
"คุณหญิงมาหาธีร์เหรอคะ เขาไม่อยู่ค่ะ บอกว่าไปเรียน กว่าจะกลับก็..."
"ฉันไม่ได้มาหาเขา" แม่ของธีร์พูดตัดบทขึ้นมา "เพราะถ้าฉันมาตอนที่ลูกชายของฉันอยู่ เขาก็คงปกป้องเธอสุดฤทธิ์ ฉันคงไม่ได้มานั่งคุยกับเธอแบบนี้หรอก"
"ค่ะ"
"เธอย้ายมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ก็สักพักแล้วค่ะ"
"ท้องกี่เดือนแล้ว"
"เกือบห้าเดือนแล้วค่ะ"
"จะเอาออกก็คงไม่ทันแล้วสินะ เอาเป็นว่าฉันจะไม่บังคับให้เธอเอาเด็กออกละกัน"
"คะ??" ขนมหวานทำหน้าตกใจ
"ต้องการเท่าไหร่ กับการที่เธอจะพาเด็กคนนี้ออกไปจากชีวิตของลูกชายฉัน"
"....." ขนมหวานนั่งนิ่ง หัวใจเต้นโครมครามไปหมดเลย สถานการณ์ตอนนี้เธออยากให้ธีร์กลับมามากๆ ไม่อยากอยู่แบบนี้เลย
"ว่าไงล่ะ สิบล้าน ยี่สิบล้าน"
"!!!" พอได้ยินยอดเงินจำนวนมากขนาดนั้นขนมหวานก็ตาโตในทันที ไม่ใช่เพราะเธออยากได้ แต่เธอตกใจมากกว่า คนรวยมีเงินจะใช้เงินเยอะๆ แบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสินะ ถึงขั้นยอมใช้เงินมากขนาดนั้นเพื่อฟาดหัวใครสักคนให้เลิกยุ่งกับคนในครอบครัวของตัวเอง
"มันยังน้อยไปเหรอ?"
"ปะ เปล่าค่ะ คือว่า..."
"ฉันเข้าใจนะ คนไม่เคยมีก็แบบนี้แหละ พอมีหนทางที่จะมีขึ้นมาก็อยากจะเรียกร้องให้มันสูงขึ้นไปอีก"
"ไม่ใช่นะคะ ฉันแค่จะบอกว่า มันก็เยอะก็จริง แต่ฉันขอไม่รับค่ะ"
"ทำไม?!" สีหน้าของหญิงวัยกลางคนเปลี่ยนเป็นตึงในทันทีเมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่น่าพึงพอใจกับตัวเองเท่าไหร่
"เงินมันไม่สำคัญเท่าชีวิตหรอกค่ะ"
"ลูกชายฉันควรจะมีอนาคตที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่ได้มาเป็นพ่อคนตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เธอคิดอะไรอยู่ห๊ะ?"
"ขอโทษค่ะ แต่เรื่องนี้ฉันไม่อยากตัดสินใจฝ่ายเดียว"
ขนมหวานรู้ดีว่าถ้าหากเธอหายไป เขาต้องอาละวาดเป็นบ้าแน่ๆ และคนใกล้ตัวก็คงจะพากันเดือดร้อน เธอไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ก่อนหน้าเขาเป็นคนขอร้องอ้อนวอนให้เธอย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วย กว่าเธอจะยอมมากับเขามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเหมือนกัน จู่ๆ จะมารับเงินแล้วหายไปมันก็ดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย
"นี่เธอจะเอาแบบนี้จริงๆ ใช่ไหม?"
"ขอโทษจริงๆ ค่ะ ที่คำตอบของฉันมันไม่ตรงใจคุณหญิง แต่ถ้าคุณหญิงรู้จักลูกชายของคุณหญิงดีพอ ก็น่าจะรู้ว่าถ้าฉันหายไป มันจะเกิดอะไรขึ้น ยิ่งตอนนี้ฉันไม่ได้ตัวคนเดียวด้วย คุณหญิงว่าธีร์เขาจะเป็นยังไงคะ ที่จู่ๆ ลูกเมียก็มาหายตัวไป"
"นี่เธอคิดจะเล่นแบบนี้กับฉันจริงๆ ใช่ไหม"
"ขอโทษนะคะ ที่ต้องพูดแบบนี้ แต่มันเป็นความจริงค่ะ"
"ลูกชายฉันเขาจะต้องหมั้นหมายกับคู่หมั้นที่ฉันเลือกให้และเขาสองคนก็เหมาะสมกัน แต่ลูกชายของฉันปฏิเสธหัวชนฝา ถึงอย่างนั้นสักวันก็ต้องหมั้นหมายแต่งงานกันอยู่ดี เพราะทุกอย่างจัดเตรียมเอาไว้แล้ว เธอจะยอมเป็นเมียน้อยคนอื่นได้งั้นเหรอ?"
"ถ้าอยากให้ฉันออกไปจากชีวิตของเขาจริงๆ ก็ให้เขาเป็นฝ่ายไล่ฉันกับลูกออกไปเองดีกว่าค่ะ ถึงตอนนั้นฉันจะยอมออกไปโดยที่ไม่เรียกร้องเอาอะไรจากพวกคุณสักบาทเดียวเลย"
"ดี!! ฉันจะจำคำของเธอไว้ แล้วก็รู้ไว้เลยว่า ฉันไม่มีวันยอมรับผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าที่ตั้งใจปล่อยท้องเพื่อจับคนรวยแบบเธอเด็ดขาด!"
"ค่ะคุณหญิง.."
พรวด!!
ร่างสูงใหญ่พรวดพราดเข้ามาเหมือนวิ่งมาแต่ไกล สีหน้าดูตื่นตระหนกมองหญิงสาวสองคนที่นั่งอยู่คนละมุม อีกคนก็ภรรยาที่กำลังท้อง อีกคนก็แม่บังเกิดเกล้า
"แม่!!"
"มาแล้วเหรอ นี่ฉันคาดผิดไปสินะ ที่คิดว่าแกจะไม่กลับมา"
"....." ขนมหวานได้แต่ตกใจ เพราะเธอเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเขาจะกลับมา เธอไม่ได้โทรบอก แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงว่าแม่ของเขามาที่นี่
"มาทำไมครับ ผมบอกแล้วไง ว่าอย่ามาที่นี่ผมไม่ชอบ"
"ตาธีร์ นี่แม่แกนะ ฉันก็แค่อยากมาดูผู้หญิงไร้ยางอายที่แกเก็บมาฟูมฟักเลี้ยงดู"
"อย่าพูดแบบนั้นนะครับ นี่เมียกับลูกผม ไม่ใช่ผู้หญิงไร้อย่างอาย"
"เฮอะ! ก็ไม่เท่าไหร่นี่ หน้าตาก็งั้นๆ แกอยากจะเลี้ยงดูไปก็ตามใจ แต่เรื่องงานหมั้นงานแต่งของแก ก็จะยังเป็นไปเหมือนเดิม"
"ผมมีลูกมีเมียแล้ว ผมไม่แต่งครับ เชิญแม่กลับไปได้แล้วครับ"
"ตาธีร์!!"
"พี่ครับเป็นอะไรหรือเปล่าครับ"
เมื่อลูกชายไม่ยอมสนใจหญิงวัยกลางคนก็คว้ากระเป๋าแล้วเดินออกไปด้วยความไม่พอใจทันที
"นายกลับมาได้ไง"
"แม่บ้านโทรบอกครับ ผมเลยดูผ่านกล้อง ถึงเห็นมาว่าแม่มา"
แม่บ้านที่ยืนอยู่มุมห้องรีบหลบสายตาเงียบๆ เธอคือคนที่รีบโทรแจ้งธีร์เมื่อแขกที่ไม่มีใครรู้จักมาเยือนถึงที่นี่ ตามคำสั่งของเจ้านาย ที่ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรก็จะต้องรายงานตลอด
"ไม่มีอะไรแล้ว กลับไปเรียนต่อได้แล้วไป"
"ไม่ครับ ผมจะอยู่กับพี่ ไม่ไปไหนแล้ว"
"ธีร์! นายจะบ้าหรือไง"
"ไม่บ้าหรอกครับ ถ้าบ้าผมจะย้ายมหาลัยมาที่นี่ ย้ายบริษัทมาที่นี่ คอยดูเถอะครับ สักวันผมจะบ้าทำแบบนั้นให้ดู"
"แพ้เสียงในหัวหรือไง"
"พี่ครับ...ตกลงแม่ผมไม่ได้พูดอะไรไม่ดีกับพี่ใช่ไหม"
"ไม่มีอะไรหรอก ฉันรับมือได้อยู่น่า"
"พี่ครับ..."
"ธีร์ อื้อ...กอดแน่นไปแล้ว"
ชายหนุ่มโอบกอดคนรักไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เพราะเธอไม่ยอมบอกว่าแม่ของเขาพูดอะไรบ้าง ถึงเธอจะบอกว่ารับมือได้ แต่ธีร์ก็รู้จักแม่ของตัวเองดีว่า นี่คงไม่ใช่การมาดูหน้าหรืออยากเห็นธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน แต่เขาจะไม่ถามเซ้าซี้ให้เธอต้องรู้สึกไม่ดีหรือรำคาญ
"กินข้าวแล้วหรือยังครับ"
"อื้ม เรียบร้อยแล้ว"
"ไหนๆ วันนี้ก็ไม่ได้ไปเรียนแล้ว เดี๋ยวผมพาพี่ออกไปข้างนอกดีกว่า จะได้เปิดหูเปิดตานะครับ"
"ไปไหน?"
"ไปเที่ยวไงครับ ผมจะพาพี่ไปทุกที่ที่พี่อยากไปเลย"
"....."
"อาบน้ำกันนะครับ ผมถูตัวให้ จะให้สบาย"
"อืม..."