ตอนที่4 คิดว่าจะหนีพ้น?

1316 Words
ทางด้านเปรมวดี เธอตัดสินใจออกมาจากห้องพักนั้นหลังจากหนึ่งชั่วโมงที่เพชรรัตน์เดินจากไปแล้ว ชีวิตที่มีเพียงกระเป๋าเสื้อผ้าใบเดียวที่ติดตัวมาด้วย จึงตัดสินใจไปอาศัยอยู่กับเพื่อนสนิทที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน หอพักหญิงที่อย่างน้อยผู้ชายก็เข้ามากวนใจไม่ได้ แม้จะเป็นการหนีมาตั้งหลักชั่วคราว แต่สักวันเธอคงไปได้ไกลมากกว่านี้ “ขอบใจนะมุกที่ให้ที่พักเราในวันนี้ เราสัญญาว่าเราจะหาที่พักของตัวเองให้ได้เร็วที่สุด” “อืม อยู่ ๆ ไปก่อนเถอะ แกไม่ต้องคิดมากหรอก” °°°° ไม่ถึงสามวัน หลังจากที่รู้ว่าเปรมวดีไม่ได้อยู่ที่อพาร์ตเม้นต์แห่งนั้นแล้ว เพชรรัตน์ก็ออกตามหา ตามรังควานชีวิตของเธอจนถึงมหาวิทยาลัย ทันทีที่เปรมวดีเดินออกมาหน้ามหาวิทยาลัยหลังจากเรียนเสร็จ กำลังจะเดินกลับที่พัก หญิงสาวถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อต้องพบเจอหน้าเขาอีกครั้ง ผู้ชายร่างสูงที่คุ้นหน้ายืนกอดอกจ้องมองมาด้วยสายตาที่ดุกร้าว “คิดว่าจะหนีหน้าฉันพ้นงั้นสิฮะ?” “คุณเพชร มาทำอะไรที่นี่คะ?” “ฉันไปหาเธอที่ห้อง ไปหลายวันแล้วแต่ไม่เจอ” “พอดีที่มหาวิทยาลัยงานยุ่ง ก็เลยไม่ได้กลับห้องค่ะ” “โกหก! เธอตั้งย้ายออก เธอตั้งใจหนีหน้าฉัน เพราะเจ้าของตึกเขาบอกว่าเธอคืนห้องพักนั้นไปแล้วนี่ ฉันจะตามรังควานไปทุกที่ที่เธออยู่ ใครที่ให้ที่พักพิงเธอมันจะเดือดร้อนไปด้วยหมดทุกคน!” เปรมวดีมองจ้องหน้าของคนที่เอาแต่ใจด้วยความเหนื่อยหน่าย นี่แหละคือเพชรรัตน์ เธอถึงไม่เคยหลุดพ้นจากชีวิตเขาได้เลย “เปรมขอร้องล่ะ อย่ามายุ่งเกี่ยวผูกพันกันอีกเลย เปรมขอไปมีชีวิตของเปรม ถ้าคุณเพชรยังไม่เลิกยุ่งกับเปรมแบบนี้ เปรมจะหนีไปให้ไกลเลย!” “คิดว่ามีปัญญาหนีฉันงั้นสิ? มีเงินเก็บกี่บาทถึงคิดจะออกไปใช้ชีวิตเองไหว เธออยู่บนโลกของความเป็นจริงเปรมวดี ถ้าไม่มีฉันคอยเลี้ยงดู ถ้าไม่มีคุณลุงฉันเลี้ยงดู เธอจะเอาตัวเองรอดไหม?” “มันต้องรอดสิคะ ไม่มีใครเอาชีวิตตัวเองไม่รอดหรอก ใครจะปล่อยให้ตัวเองตาย อีกไม่กี่เดือนเปรมก็จะเรียนจบ มีชีวิตที่ดีกว่านี้ ไม่ต้องเป็นหนี้บุญคุณของใครอีก” “ปากดีนักนะ ปากเก่งตลอดเวลา คิดจะต่อต้านฉัน คิดจะทำให้ฉันโมโหงั้นสิ ชอบใช่ไหมเวลาที่เห็นฉันใจร้าย” สายตาคนทั้งคู่ที่มองดุดัน ต่างคนต่างไม่ยอมแพ้ ข้อมือของหญิงสาวถูกจับหมับเข้าอย่างแรง “โอ้ย!” ก่อนจะโดนลากจูงให้ไปขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกลจากที่คนทั้งคู่กำลังยืนอยู่ตอนนี้ “ปล่อยนะ เปรมไม่ไป คุณเพชรจะพาเปรมไปไหน ปล่อยเดี๋ยวนี้!” เสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้น แต่มีหรือว่าเขาจะฟังเสียงนั้นที่เธอร้องขอ จับยัดคนตัวเล็กให้เข้าไปนั่งภายในรถที่เบาะด้านหลังคนขับและตัวเองก็เข้าไปนั่งลงเคียงข้างกัน “ออกรถเลยภูมิ ให้ไว!” พร้อมกับสั่งคนขับรถที่พ่วงตำแหน่งเลขาคนสนิทให้รีบขับออกไปจากตรงนั้นโดยเร็ว ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงก็มาถึงบ้านพักแห่งหนึ่งที่ดูไม่คุ้นตา หลังใหญ่โตโอ่อ่าแต่เงียบเหมือนไม่มีใครพักอาศัย “เราไม่ควรยุ่งเกี่ยวกันอีกนะคะคุณเพชร คุณเลือกผู้หญิงได้มากมายบนโลกใบนี้ ทำไมต้องเป็นเปรมที่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ด้วย?” “เพราะฉันเลือกเธอไง มันก็เลยต้องเป็นเธอ” “แต่เปรมไม่อยากเป็นเด็กเลี้ยง ไม่อยากเป็นผู้หญิงของคุณ ไม่อยากเป็นเมียเก็บหรือเมียบำเรอใครนะคะ” “นั่นมันเป็นปัญหาของเธอ มันไม่ใช่ปัญหาของฉัน ถ้าวันนี้ฉันอยากได้เธออยู่ เธอก็ต้องอยู่เป็นผู้หญิงของฉัน! ฉันยังไม่เบื่อ ฉันยังไม่ได้สั่งให้เธอไปไหน เธอก็ห้ามไปไหนเด็ดขาดเปรมวดี!” “คุณมันใจร้ายที่สุดเลย คุณไม่เคยเห็นใจใคร คุณเห็นแต่ความสุขของตัวเอง อยากได้อะไรคุณก็ต้องได้ คุณไม่เคยนึกถึงจิตใจของเปรมหรอกว่าเปรมอยากจะเป็นผู้หญิงแบบนั้นให้คุณหรือเปล่า ทำไมคะเพราะชีวิตของเปรมมันเลือกไม่ได้ มันก็เลยต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของคุณตลอดเวลาแบบนี้หรือยังไง?” เพชรรัตน์เดินตรงไปที่เคาน์เตอร์บาร์ ก่อนจะรินน้ำสีอำพันลงในแก้วเกือบครึ่งแก้ว พร้อมกับกระดกสาดลงลำคอไปจนไม่เหลือสักหยดเลย ขาสูงยาวเดินกลับไปยังโซฟาที่เปรมวดีนั่งอยู่ เขานั่งลงเคียงข้างพร้อมกับยกฝ่ามือจับเชยคางมนให้หันหน้ากลับมาเผชิญกันอีกครั้งแต่เปรมวดีพยายามสะบัดใบหน้าหนี ก็ถูกฝ่ามือหนาบีบล็อคคางมนเอาไว้แน่น “โอ้ย! เจ็บนะคะคุณเพชร!” ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นริมฝีปากหนาก็ทาบทับลงไปบนเรียวปากอวบอิ่ม ลมหายใจที่เป่ารดกัน กลิ่นแอลกอฮอล์ที่เขาเพิ่งดื่มเข้าไปเมื่อครู่ ทำเอาเปรมวดีถึงกับต้องรีบผลักอกเขาออกอย่างแรง วิ่งพะอืดพะอมตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น เพชรรัตน์เดินตามหลังไปติด ๆ เสียงอาเจียนดังโอ้กอ้ากออกมาให้ได้ยิน เขาเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปพร้อมกับช่วยลูบหลังให้เบา ๆ “เป็นอะไรน่ะ ไม่สบายหรือยังไง” เปรมวดีล้างหน้าล้างปากจนเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะหันกลับมามองจ้องหน้าเขา ที่กำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดจ้องมองเธออยู่ “เหม็นกลิ่นเหล้าที่คุณดื่มไปเมื่อกี้” “ทำยังกับคนแพ้ท้อง แค่กลิ่นเหล้ามันจะเหม็นอะไรกันนักกันหนานะ เวลาออกไปพบลูกค้าฉันก็เมากลับไปหาเธอออกจะบ่อย ก็ไม่เห็นจะอาเจียนแบบนี้สักที มีอะไรปิดบังฉันหรือเปล่า” เปรมวดีถึงกับกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคออึกใหญ่ เมื่อถูกเขาถามขึ้นมาแบบนั้น “มะ ไม่มีค่ะ” “แต่วันนั้นเธอบอกมีเรื่องจะคุยกับฉันนี่นา เรื่องอะไรเธอยังไม่ได้พูดเลยนะ?” เขาไม่ลืมที่จะถามเมื่อนึกขึ้นได้ เพราะหลังจากนั้นที่กลับมาก็ดันมีปากเสียงให้ต้องทะเลาะกัน ยังไม่ได้คุยกันเป็นเรื่องราวอีกครั้งเลย “เปรมลืมไปแล้วค่ะ ไม่มีอะไรที่จะพูดแล้ว พาเปรมกลับไปส่งที่ห้องเพื่อนเถอะนะคะ เปรมยังต้องรีบกลับไปทำงานส่งอาจารย์พรุ่งนี้อีก” สายตาที่อ้อนวอนขอร้อง จ้องมองหน้าคนตรงหน้าตาไม่กระพริบ แววตาที่ดูเศร้า สีหน้ามีแต่ความกังวลใจ เพชรรัตน์เข้าใจว่าเธอคงคิดมากกับสิ่งที่เขาเพิ่งประกาศออกทีวีไปเมื่อหลายวันก่อน เลยไม่ได้คาดคั้นหรือซักถามให้เธอรู้สึกไม่ดีไปมากกว่านี้อีก “ฉันมีคอนโดให้เธออยู่ เธอไปอยู่คอนโดฉันก็แล้วกัน” “ไม่ค่ะ เปรมจะไม่ไปอยู่ในที่ของคุณเด็ดขาด คุณไม่ต้องเข้าใจเปรมก็ได้ แต่ขอให้เห็นใจเปรมเถอะนะคะคุณเพชร” “ฉันไม่เห็นใจ และฉันก็ไม่เข้าใจเธอด้วย ทำตามที่ฉันสั่งซะ อย่าให้ฉันต้องโมโหไปมากกว่านี้นะเปรมวดี!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD