เพชรรัตน์เดินทางมาที่อพาร์ตเม้นต์ของเปรมวดีอีกครั้ง เขายืนเคาะประตูหน้าห้องอยู่นาน นานมากจนทำให้เขาอารมณ์เสีย ก่อนที่จะเห็นหญิงสาวเดินกลับมาในเวลาพลบค่ำ
ร่างสูงยืนกอดอกจ้องมองหน้า เปรมวดีกำลังเดินเข้ามาใกล้ จนกระทั่งมาหยุดยืนเผชิญอยู่ตรงหน้าเขา
“ไปไหนมา ค่ำมืดป่านนี้แล้วเพิ่งจะกลับมานี่นะ ฉันมายืนเคาะประตูอยู่ตั้งนาน มือแทบหักแล้วเธอรู้หรือเปล่า”
“ขอโทษค่ะ เปรมไปทำธุระส่วนตัวมา คุณเพชรมาหาเปรมทำไมคะ?”
ฝ่ามือเรียวหยิบจับกุญแจในกระเป๋าขึ้นมาไขประตูห้องพักเพื่อจะเดินเข้าไปข้างใน ทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดออกร่างสูงก็เดินเข้าไปภายในห้องก่อนเจ้าของห้องด้วยซ้ำ เพราะมาที่นี่ทุกวันจนคุ้นเคย แทบจะเป็นเขาเสียอีกที่เป็นเจ้าของห้องไม่ใช่เธอ
เปรมวดีวางกระเป๋าสะพายลงบนโต๊ะทานข้าว หาน้ำเย็น ๆ มาดื่มให้ชุ่มคอ ก่อนจะเดินถือแก้วน้ำอีกใบไปยื่นส่งให้กับเขา ผู้ชายที่ชอบทำหน้าตาหงุดหงิดและอารมณ์เสียได้ทุกวันที่พบเจอกัน
“คุณเพชรไม่ควรมาที่นี่อีกนะคะ”
ดวงตากลมโตที่ยืนจ้องมองหน้าเขาอยู่ เพชรรัตน์ปลายหางตาขึ้นมองหญิงสาวอีกครั้งอย่างอดไม่ได้
“ถ้าฉันอยากมา ใครก็ห้ามไม่ได้ทั้งนั้นล่ะ”
“แต่คุณเพิ่งจะประกาศแต่งงานไปนะคะ คุณไม่ควรจะมาที่นี่มันไม่เหมาะสม”
“แล้วไง ประกาศแต่งแต่ฉันก็ยังไม่ได้แต่งนี่นา ฉันจะมาหาเธอ จะมานอนกับเธอ ฉันก็ย่อมทำได้อยู่แล้วหรือเธอมีปัญหา?”
“ค่ะ เปรมมีปัญหา เปรมไม่อยากยุ่งกับคุณแล้ว”
หญิงสาวกำลังจะเดินหนีเข้าห้องนอนไป ร่างสูงของเพชรรัตน์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะสาวเท้าก้าวเดินตามร่างบอบบางไปติด ๆ พร้อมกับกระชากแขนจนอีกคนต้องจำใจหันมาเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง
“เธอมีสิทธิ์จะพูดกับฉันแบบนี้งั้นสิ ถ้าฉันไม่เลิกยุ่งกับเธอก่อน เธอก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาสั่งห้ามฉันไม่ให้มาที่นี่เปรมวดี!”
“คุณจะทำแบบนี้กับเปรมทำไมคะ ที่ผ่านมาเป็นปี ๆ มันยังไม่พออีกงั้นเหรอ เปรมอยากหลุดพ้น เปรมไม่อยากอยู่แบบนี้ เปรมอยากมีชีวิตของเปรม ปล่อยเปรมไปเถอะนะคะเปรมขอร้อง” ดวงตากลมโตกำลังมีหยดน้ำตาที่เอ่อหล้น จับจ้องมองหน้าเขาอ้อนวอนขอร้องให้เขาเห็นใจ
ดวงตาคมที่จ้องมองเธออยู่ไหววูบขึ้นเล็กน้อย เขาสงสารแต่เขาปล่อยเธอให้ไปจากชีวิตนี้ไม่ได้
“ถ้าฉันบอกว่าไม่ล่ะ”
“แล้วจะให้เปรมอยู่แบบนี้ทำไมคะ เปรมไม่อยากเป็นเมียน้อยใคร ไม่อยากเป็นผู้หญิงของใคร ไม่อยากมีชีวิตเหมือนที่ผ่าน ๆ มาอีกแล้ว วันนี้คุณเลือกแล้วนะคะคุณเพชร ทุกคนเขารับรู้หมดแล้วว่าคุณกำลังจะแต่งงาน”
“เธอไม่ต้องไปสนใจเรื่องนั้นหรอกหน่า เขาก็อยู่ส่วนเขา เธอก็อยู่ส่วนเธอ ต่างคนต่างไม่ยุ่งเกี่ยวกัน มันก็จะไม่มีปัญหาอะไรตามมาฉันรับรอง”
“พูดง่ายดีนะคะ ควรจะบอกตัวเองมากกว่าไหมว่าห้ามมายุ่งกับเปรม? มันคือการแก้ปัญหาที่ตรงจุดมากกว่า”
“ฉันไม่เลิกยุ่ง นอกจากคุณลุงฉันที่เป็นเจ้าของชีวิตเธอ มีพระคุณกับชีวิตเธอ ก็มีฉันอีกคนนี่แหละที่เป็นเจ้าของชีวิตเธอ เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเธอเหมือนกัน”
“แต่เปรมไม่ได้อยากอยู่แบบนั้นค่ะ เปรมไม่อยากเป็นผู้หญิงของคุณ เปรมอยากมีชีวิตของเปรม อยากมีความสุขในแบบที่เปรมควรจะมีมากกว่า”
“ฉันก็ให้อิสระเธอเต็มที่นี่ ไม่ใช่ว่าฉันกักขังหน่วงเหนี่ยวเธอซะที่ไหนเปรมวดี อย่าลืมสิว่าคุณลุงของฉันชุบชีวิตเธอให้มันดีขึ้นอย่างทุกวันนี้มากแค่ไหน แค่เธอหนีออกมาอยู่ข้างนอกบ้านแบบนี้ คุณลุงฉันก็แทบกินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่แล้วนะ”
“แล้วมันเป็นเพราะใครล่ะ เปรมถึงอยู่บ้านหลังนั้นไม่ได้ เพราะคุณกับผู้หญิงของคุณไงคะ คุณพาเขาเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยเปรมก็เลยต้องออกมา แต่ก็ช่างเถอะค่ะ คุณเพชรอยากทำอะไรก็เชิญตามสบายเลย เปรมไม่มีสิทธิ์พูด ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอะไรอยู่แล้ว”
ความเศร้าใจที่เกิดขึ้น ปัญหาที่กำลังรุมเร้าชีวิตทำให้รู้สึกอ่อนแอไปทั้งกายและใจ เปรมวดีจึงทำได้เพียงแค่ปล่อยน้ำตาให้มันรินไหลออกมาอาบแก้มเป็นทางยาว เหนื่อยกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้ แต่เธอสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะไม่ยืนอยู่ตรงนี้ให้ตัวเองต้องรู้สึกต่ำต้อย ให้ตัวเองต้องรู้สึกไร้ค่าไร้ศักดิ์ศรีได้อีกต่อไป
วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เธอและเขาจะได้พบเจอหน้ากันก่อนลาจาก เพราะพรุ่งนี้สำหรับเธอแล้วผู้ชายที่ชื่อเพชรรัตน์จะไม่ได้มาก่อกวนในชีวิตของเธออีก
เพชรรัตน์ที่เห็นน้ำตาของอีกฝ่าย เขาไม่อาจทนมองต่อไปได้เลยสักนิด จึงปล่อยมือจากเธอและเดินหายออกไปจากห้องไม่พูดไม่จา
“ลาก่อนนะคุณเพชร”
ทันทีที่ร่างสูงหายลับตาจากไปแล้ว เปรมวดีรีบเดินเข้าไปภายในห้องนอน เก็บเอากระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กที่หยิบติดตัวมาตั้งแต่บ้านวิบูลย์เทวัญ ดีที่ว่าตอนมาพักอาศัยอยู่ห้องพักแห่งนี้ มีข้าวของเครื่องใช้ครบครันโดยไม่ต้องหาซื้อเพิ่ม วันนี้ที่ต้องจากไปคงมีแต่กระเป๋าเสื้อผ้าติดตัวไปด้วยเพียงเท่านั้น
ชีวิตที่จะต้องไม่ทนอยู่เป็นผู้หญิงของเขา ชีวิตที่ต้องไม่ทนเป็นเมียน้อยของใคร และชีวิตของลูกที่ไม่ต้องถูกตราหน้าว่าเป็นลูกชู้ให้อับอายผู้คนในวันข้างหน้า
บ้านวิบูลย์เทวัญ
ทันทีที่เพชรรัตน์กลับมาถึงบ้าน วาสิตาว่าที่ภรรยาในอนาคตก็รีบเดินเข้ามาหา พร้อมกับชักสีหน้าใส่ด้วยความไม่พอใจ
“คุณไปไหนมาคะเพชร โทรไปก็ไม่รับสาย คุณจะรีบออกจากงานแถลงข่าวไปทำไมนะ แล้วปล่อยให้วารับหน้านักข่าวอยู่คนเดียวแบบนี้ มันใช้ได้ที่ไหนคะ”
“ผมก็ทำตามใจที่คุณอยากได้แล้วนะวา อย่ามายุ่งวุ่นวายกับผมมากจะได้ไหม ผมรำคาญ!”
เพชรรัตน์รีบเดินเข้าไปภายในบ้าน เสื้อสูทที่ใส่ติดตัวได้ถูกถอดออก พอเดินเข้าไปภายในห้องรับแขกก็ฟาดเสื้อสูทในมือทิ้งลงบนโซฟาอย่างแรง
วาสิตาที่เดินตามมาติด ๆ รีบเดินเข้าไปใกล้พร้อมกับนั่งลงเคียงข้างกับร่างสูงที่ทำสีหน้าหงุดหงิดให้ได้เห็น
“วาขอโทษ วาทำให้คุณหงุดหงิดหรือเปล่าคะเพชร?”
“ผมอยากอยู่คนเดียว อย่าเพิ่งมายุ่งกับผมได้ไหมวา”
“ทำไมถึงหงุดหงิดคะ ออกไปหาอีหนูมาแล้วมันไม่ให้คุณเอาหรือยังไง ถึงต้องหงุดหงิดอารมณ์เสียกลับมาบ้านแบบนี้!”
ดวงตาคมจับจ้องมองคนข้างกายด้วยความไม่พอใจอีกครั้ง นับวันวาสิตาก็ยิ่งทำตัวเหมือนแม่เข้าไปทุกทีแล้ว
“มันไม่ใช่เรื่องของคุณ ไม่ต้องมายุ่งกับชีวิตผมขนาดนั้นนะวา เราตกลงกันแล้วนี่ว่าที่ผมยอมแต่งงานกับคุณเพราะธุรกิจของเราเท่านั้น! ถ้าผมไม่เป็นรองผมไม่ยอมทำตามข้อเสนอของคุณหรอกนะ”
“อย่าให้จับได้ก็แล้วกันว่าผู้หญิงที่คุณไปยุ่งเกี่ยวด้วยมันเป็นใคร วาจะฉีกอกมัน จะทำให้มันอับอายคนทั้งโลกเลยคอยดูสิ!”
“อยากทำอะไรก็เชิญเลย พวกนักสืบกระจอกที่คุณใช้มันตามผมน่ะเหรอ ชาตินี้คุณก็ไม่ได้เจอหรอก หึหึ!”
ทันทีที่พูดจบเพชรรัตน์ก็ลุกเดินหนีออกไปจากห้องรับแขกในทันที ปล่อยให้วาสิตานั่งจ้องมองแผ่นหลังที่กำลังเดินหายขึ้นไปบนชั้น 2 ของบ้านด้วยความไม่พอใจ
มีหลายเรื่องที่เธอสงสัย มีหลายเรื่องที่เธออยากรู้แต่ก็ยังไม่ได้รู้อะไรสักอย่าง แต่ถ้าวันไหนที่เธอรู้ว่าผู้หญิงที่มายุ่งกับผู้ชายของเธอเป็นใคร เธอจะไม่ปล่อยนิ่งไว้อย่างตอนนี้แน่ ๆ ยิ่งอีกไม่นานจะได้เป็นสะใภ้ของบ้านนี้เต็มตัวแล้ว คงมีสิทธิ์มีเสียงที่จะทำตามอะไรอำเภอใจได้มากกว่าตอนนี้ที่เป็นอยู่ จากความหงุดหงิดเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มร้ายที่แสนจะพอใจแทน