(แอสตัน)
ณ อาคาร S10 (ตึกประจำคณะวิศวะ)
“เอาสังฆทานจีบผู้หญิงเหรอ โรแมนติกแบบเคารพบูชา”
เสียงของ ‘วาฬ’ เอ่ยขึ้น สายตาจ้องมองยังเพื่อนสนิทของตนเดินเข้ามานั่งลงยังม้านั่งตัวเดียวกัน รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าทำให้เห็นลักยิ้มชัดเจนบนข้างแก้มของวาฬ หนุ่มหล่อแห่งคณะวิศวะที่แม้ว่าเราจะอยู่กันคนละคณะ แต่สุดท้ายก็เจอหน้ามันแทบจะทุกเวลาอยู่ดี
เรื่องการให้สังฆทานเป็นของขวัญวาเลนไทน์นั้นถูกพูดถึงไปทั่วทั้งมหา’ ลัย นับวันปัญหาของเขากับเขียนฝันยิ่งหนักขึ้นแล้วความบังเอิญก็เกิดขึ้นไม่จบไม่สิ้นอีกเช่นกัน เมื่อน้องสาวของเธอดันเข้ามาเป็นหลานรหัสของมาร์ติน เรื่องมันไม่ควรจะบานปลายมาถึงขนาดที่ว่าทำให้คนในมหา’ ลัยคิดว่าเราเป็นแฟนกันจริง ๆ
แต่จะให้ทำยังไงได้ ในเมื่อเธอดันยื่นมือเข้ามาช่วยน้องตัวเองซึ่งมันไม่แฟร์กับคนอื่นเลย และล่าสุดที่เขียนฝันตั้งใจปิดผับของเขาในวันวาเลนไทน์ ซึ่งเขาไม่มีปัญหาหากเงินถึงมากพอแต่เพราะมันมาจาก ‘เขียนฝัน’ ทำให้รู้ได้เลยว่าเธอตั้งใจมาก่อกวนกัน
ใครได้เป็นแฟนผู้หญิงคนนี้ประสาทเสียน่าดู นิสัยแพ้ไม่เป็น...
“ดีไม่ไปพร้อมกระถางธูป แค่เขาปิดผับแค่นี้ยังไงก็ได้เงินไม่ใช่หรือไงวะ” ‘เต๋าเต้ย’ พูดตามขึ้นมาอีกคน การที่มันรู้ต้นสายปลายเหตุลึกขนาดนี้ นอกจากจะเป็นเพื่อนสนิททั้งในกลุ่มและเรียนคณะเดียวกัน เต๋าเต้ยยังเป็นฝาแฝดกับปลาเก๋าเพื่อนสนิทของเขียนฝัน
“ว่าจะยกพานบายศรีกับขบวนแห่ไปด้วย กลัวไม่รู้ว่ากูรักมากแค่ไหน...แล้วปิดผับกูคือการที่เขียนฝันตั้งใจกวนประสาท ได้เงินก็ส่วนได้เงินถ้ามาจากคนอื่นจะไม่ว่าอะไรเลย” คำว่า ‘รัก’ ที่ออกจากปากทำเอารู้สึกขนลุกแปลก ๆ
“ระวังรู้สึกรักจริง ๆ ขึ้นมา” คำเตือนด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบของ ‘มาร์ติน’ ฝาแฝดของตัวเองพูดขึ้นทำเอาทุกคนนิ่งเงียบไปชั่วขณะ แล้วหันมาจ้องหน้าเขาอย่างพร้อมเพรียง
“ไม่ไหว อยู่ห่างคำว่าชอบโคตรไกลถึงจะสวยมากก็เถอะ ชอบยังทำให้รู้สึกไม่ได้อย่าไปข้ามถึงรักเลย” ปกติไม่ใช่พวกที่มองคนเพียงภายนอกอยู่แล้ว ยอมรับว่าเขียนฝันเป็นผู้หญิงที่ผู้ชายในมหาวิทยาลัยตามจีบเยอะมาก ๆ แต่ยกเว้นเขาไว้คนหนึ่งแล้วกัน
“เขียนฝันก็ตีกับมึงแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ คนอื่นเขาก็ปกติ” เต๋าเต้ยที่พบเจอเขียนฝันบ่อยเพราะเป็นเพื่อนสนิทกับแฝดตัวเอง
“ก็แบบนี้แหละคนเป็นแฟนกัน...วันนี้มีเรียนกี่โมงเนี่ยสมองกูไม่รับอะไรแล้ว” มีแต่เรื่องปวดหัวไปหมด
“มาถามอะไรกู ไปถามไอ้เต๋านู้น” วาฬชี้นิ้วส่งไปที่คนข้างกาย เพราะตัวเองเรียนคนละคณะแต่มันลืมไปว่าวันนี้มันกับเขาเรียนเซคเดียวกัน
“เช้านี้มึงเรียนเซคเดียวกับกู”
“เออว่ะ” วาฬดูจะนึกขึ้นมาได้แล้ว ดูเหมือนสมองจะหายไปไม่ต่างกันหรืออาจจะเช้าไป
“พี่เขียนฝันนิ มาหาพี่แอสตันเหรอ...เกินไปแล้วนะ”
“ช่อดอกไม้ในมือนั่นมันอะไร”
“ก็วันนี้วันวาเลนไทน์เอามาให้...แอสตันเหรอ”
เสียงซุบซิบรอบตัวที่มาพร้อมชื่อ ทำให้เจ้าตัวเงยหน้าจากโทรศัพท์ในมือหันกลับไปมองยังด้านหลังของตัวเองและไม่ใช่แค่เขา แต่รวมไปถึงเพื่อนคนอื่นด้วยที่มองไปเป็นตาเดียว จับจ้องยังร่างบางในชุดเสื้อโปโลของคณะสีดำ กระโปรงพลีทความยาวเหนือเข่าเนื้อผ้าพลิ้วไหวไปตามแรงเคลื่อนตัว
ในมือมีช่อดอกไม้ขนาดใหญ่แต่ดูเหมือนว่าในนั้นจะดูไม่เหมือนดอกไม้สักเท่าไร ข้างกันคือปลาเก๋าฝาแฝดเต๋าเต้ย ทิศเหนือและโป๊ยเซียนที่เดินตามมาไม่ห่าง แล้วการที่เขียนฝันมาหาเขาด้วยตัวเองมันย่อมทำให้เรื่องทั้งหมดถูกพูดถึงแบบทวีคูณแน่นอน
“แฟนมาหาแล้วแอส” เต๋าเต้ยพูดแซวขึ้น พยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้จึงทำได้เพียงอมยิ้มเท่านั้น
“เขียนฝันไม่ยอมใครอยู่แล้ว น่าจะมีใครตายไปก่อนแน่นอนหรือไม่ก็ได้คบกันจริง ๆ ไปเลย” คำพูดของวาฬทำให้เขาหันมองไปด้วยหางตา ทำไมกลายเป็นว่ามาเชียร์ให้คบกันจริง ๆ ได้วะเนี่ย
“ไฮ ~ มาร์ติน” เสียงทักทายของทิศเหนือนำหน้าขึ้นมาคนแรก เมื่อตัวเองเข้ามาหยุดยืนหน้าโต๊ะที่เรานั่งอยู่ ซึ่งเขียนฝันจ้องหน้าเขาอย่างไม่มีการหลบสายตา เรามองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
“ไงทิศเหนือ” มาร์ตินทักทายกลับ ปกติถึงจะเป็นคนพูดน้อยแต่ไม่ใช่คนถือตัวอะไร
“วาเลนไทน์นี้ไปไหนหรือเปล่า” ทิศเหนือทิ้งตัวนั่งลงยังฝั่งตรงกันข้ามกันมาร์ติน เบียดเต๋าเต้ยให้ขยับไปทางวาฬ ปกติทิศเหนือก็ตั้งหน้าตั้งตาจีบมาร์ตินมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ภาพเหล่านี้จึงไม่ได้เป็นเรื่องแปลกตาสักเท่าไหร่
“ไม่ เรียนเสร็จก็ว่าจะกลับบ้านไปนอน” มาร์ตินย้อนถามกลับ ยกมือเท้าคางจ้องทิศเหนืออย่างรอคำตอบ การกระทำของมันยิ่งทำให้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามเขินจนซบหน้าลงบนไหล่เต๋าเต้ย
“เขินอะเต๋า โดนผู้ชายจีบ ~” ทิศเหนือพูดกับคนข้าง ๆ ด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ
“ตั้งแต่มานี่เห็นแต่แกจีบไอ้มาร์ มันยังไม่ได้จีบอะไร” เต๋าเต้ยต้องดึงสติให้ทุกรอบ แต่การจีบของทิศเหนือตัวมาร์ตินก็ชินชามาก
“แค่มาร์ตินพูดคำว่านอนก็เหมือนชวนเราไปขึ้นเตียงแล้วปะ พูดละเขิน ~” พูดจบก็ซบหน้าลงกับไหล่กว้างของเต๋าเต้ยอีกครั้ง อาการของคนอื่นแตกต่างกับเขาและเขียนฝันอย่างสิ้นเชิง