“เฮ้ย! มาย ทางนี้” มายหันไปตามเสียงเรียกเมื่อเธอเดินมาถึงใต้ตึกคณะ
“สวัสดีค่ะ พี่ลม” มายทักทายชายหนุ่มที่นั่งอยู่กับเพื่อนสาวคนสนิทของตนที่ตะโกนเรียกเธอ มายทรุดนั่งข้างกายเพื่อนสาว “เป็นไงแก วันนี้ฉันมีพี่ชายกับเขาด้วย” มายยิ้มขันกับเพื่อนสาว
“มาย ฟังไอ้น้องสาวตัวแสบของพี่สิ รู้งี้พี่ปล่อยไว้หน้าปากซอยให้นั่งรถมาเองดีกว่ามั้ย”
“มายเห็นด้วยกับพี่ลมค่ะ” มิ้น หรือ ภัทรมน เพื่อนสาว น้องสาวคนดีของพี่ลม หรือ ปุรินทร์
“นี่มาย พี่ลมนะที่มาส่งฉันวันนี้ เขาไม่ได้แค่มาส่ง แต่เขาจะมารอพวกเราสองคนสอบเสร็จแล้วจะพาไปกินข้าว”
เฮ้! “คงไม่ได้จะแค่นั้น”
“มันก็แน่อยู่แล้ว พี่ลมได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่ายแล้ว” ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นมายก็แสดงความยินดีที่มาจากใจ ซึ่งเธอก็ทำให้ได้เพียงแค่นั้น พี่ลมเป็นผู้จัดการฝ่ายซึ่งถือว่าดีมาก เขาขยันและมีความสามารถอนาคตของเขาจะเรียกว่ามั่นคงอีกระดับก็ว่าได้ แต่นั่นก็สำหรับเขา ไม่ใช่สำหรับเธอ
เธอยังจะมาสนใจผู้จัดการฝ่ายอยู่อีกหรือหากในขณะนี้เธอมีประธานบริษัทอยู่ในอ้อมแขน มายรู้ดีว่าเวลานี้เท่านั้นที่จะชัดเจนได้
“มายขอบคุณพี่ลมมากนะคะ แต่ว่า...สอบเสร็จแล้ว มายต้องกลับคอนโดนะคะ เพราะนายไม้กับอานิวไม่อยู่ พวกเขาคงไม่โอเคถ้ามายจะกลับดึกนะคะ” เธอปฎิเสธอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะเพื่อนสนิททุกคนรู้และเข้าใจความสัมพันธ์ภายในครอบครัวของเธอดี เพราะเธอยังต้องอาศัยค่าเลี้ยงดูจากครอบครัวพ่อเลี้ยงเก่า เพราะฉะนั้นเธอยังไม่อาจทำอะไรตามใจตัวเองได้
แต่เดิมก่อนที่แม่ของเธอจะเสียชีวิต อิสระการใช้ชีวิตของมายดีกว่านี้ และความจริงแล้วหลังการเสียชีวิตของแม่เธอ ก็ไม่ได้ทำให้เธอสูญเสียอิสระการใช้ชีวิตเลย แต่ที่เธอทำแบบนี้และเริ่มเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อสี่เดือนก่อน ตั้งแต่วันที่อานิวกลับมา
เหตุผลของการปฎิเสธ ทำให้สองพี่น้องไม่อาจไม่ยอมรับได้ แต่มิ้นที่รู้เรื่องเหล่านี้และความตั้งใจเดิมของมาย ก็อดที่จะเอ่ยออกมาไม่ได้
“นี่! มาย บริษัทที่พี่ลมทำงานอยู่ มีการเปิดรับสมัครเลขาด้วยนะ” ลม ที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้ารับทันที ขอแค่มายไปสมัคร เขามั่นใจว่าเธอจะได้ทำงานบริษัทเดียวกับเขาแน่
มายเมื่อได้ยินแบบนั้น ถ้าเป็นก่อนที่เธอจะได้รู้จักอานิว เธอคงยินดี แต่ปณิธานเธอเปลี่ยนไปแล้ว ปณิธานใหม่นี้ของเธอ เธอไม่ได้บอกใครไม่เว้นแม้แต่เพื่อนสาวคนสนิท
“ขอบคุณนะคะพี่ลม แต่มายต้องไปช่วยงานบริษัทของอานิวนะคะ”
“มาย...แล้วเมื่อไหร่เธอถึงจะออกมาใช้ชีวิตที่เธอต้องการได้ล่ะ” มิ้นอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม เพราะพี่ชายเธอชอบเพื่อนสาวคนนี้เอามากๆ และเธอก็ไม่รังเกียจเลย มายเป็นหญิงสาวที่สวยมากๆ คนหนึ่ง ระดับการเรียนแม้ไม่ได้โดดเด่น พื้นเพครอบครัวของมายเธอก็รู้ดี ไม่มีอะไรที่น่ารังเกียจเลย ได้มายมาเป็นพี่สะใภ้ มิ้นคิดว่ามันโอเคมากๆ ซึ่งเธอก็คอยเชียร์พี่ชายเธอมาตลอด สองสามปีมานี้
“ตอนนั้นกับตอนนี้มันไม่เหมือนกัน พอเอาเข้าจริงๆ และคิดว่าต้องออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ฉันก็แอบกลัวนะ มิ้นฉันไม่เหลือใครแล้ว และถ้าฉันออกมาจากที่นั่น และเกิดฉันไม่ไหวหรือเกิดอะไร ฉันไม่สามารถที่จะกลับไปที่นั่นได้อีกแล้ว...โปรดเข้าใจฉันด้วยนะ” มายทำหน้าเศร้า สองพี่น้องมองมายแล้วได้แต่เงียบงัน ให้ทั้งสองอยากได้มายมาเป็นคนในครอบครัวมากเพียงไร แต่ก็ไม่อาจเอ่ยออกไปได้ และปุรินทร์เองก็คิดว่าตอนนี้ตัวเองก็ยังไม่มั่นคงพอจะดูแลใครอีกคนได้ เขาอยากจะคบหากับเธอไปอีกสักสองสามปี
แต่ถ้าการคบหากันระหว่างเขากับเธอ มันจะเกิดขึ้นได้นั่นก็ต่อเมื่อเธอต้องมีอิสระในการใช้ชีวิต มันก็เสี่ยงเกินไปสำหรับเธอและเขา หากเวลานั้นเขากับเธอไปกันไม่ได้จริงๆ เขาที่เป็นสาเหตุให้เธอออกมาจากที่นั่น เขาจะกลายเป็นคนแบบไหนกัน
“มื้อเย็นไม่ได้ จะเป็นไปได้มั้ยที่พี่จะได้กินข้าวกับมายในมื้อเที่ยงบ้าง” คราวนี้ลมเป็นคนเอ่ยเอง
“ได้สิค่ะ” ปฎิเสธมาหลายอย่าง คราวนี้มายจึงตอบรับด้วยใบหน้าที่สดใส และก็ได้เวลาที่พวกเธอต้องเข้าห้องสอบ ลมก็ลากลับ แผนการณ์เย็นนี้จึงเลิกล้มไป