อารัมภบท
ถ้าเราหน้าตาดี โลกจะใจดีกับเราเอง...
คุ้นหูกับประโยคนี้บ้างไหมครับ? มันอาจจะฟังดูขัดหูหน่อยที่โลกเอนเอียงและไม่เท่าเทียม แต่มันก็เป็นประโยคที่ปฏิเสธไม่ลงเลยจริง ๆ
คิดเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มของกลุ่มผู้หญิงทั้งหมดที่เข้ามาหาผมตั้งแต่เริ่มแตกหนุ่มจนขึ้นมาถึงปีสอง พวกเธอต่างหลงใหลในเปลือกนอกของผมกันทั้งสิ้น บางคนต้องการเพียงร่างกายเพื่อเอาไว้เมาท์มอยกันสนุกปาก
ในวงเหล้า บ้างต้องการเพียงชื่อเสียงอันเกิดจากการร่วมหลับนอนกับผมชั่วข้ามคืน สรุปตรง ๆ คือพวกเธอเหล่านั้นเพียงต้องการประกาศความเพอร์เฟกต์อย่างไม่มีใครเท่าเทียมแค่นั้นแหละ เพราะระดับไอ้ไทน์
จะนอนกับใครต้องเพอร์เฟกต์ที่สุดเท่านั้น
“เด็ด ๆ ทั้งนั้นเลยว่ะ”
ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างกันกระซิบบอกน้ำเสียงตื่นเต้น ขณะที่พยายามซ่อนอาการไว้ให้มิด เพราะต้องคีพลุคแสร้งทำเป็นพี่ว้ากสุดโหด
ใต้ตึกกิจกรรมในช่วงหกโมงเย็นเต็มไปด้วยเหล่านักศึกษาคณะบริหาร สาขาการจัดการไม่ต่ำกว่า 30 คน คิดเป็นผู้หญิงร้อยละ 80 และคิดเป็นร้อยละ 5 ของผู้หญิงทั้งหมดที่... เข้าเกณฑ์จะได้ร่วมเสพสุขไปกับผม
“นั่นเมียเก่ามึงเปล่าวะ”
ผมพยักพเยิดหน้าส่งไปยังสาวสวยที่เด่นจนแสบตา และจำได้ว่าคนนี้
เคยทำไอ้เรสเจ็บอยู่ปางตาย
“เออ!... แม่ง อุตส่าห์ทำใจได้แล้วยังจะตามมาหลอกหลอนกูอีก”
มันเคยบอกกับผมว่าระหว่างมันกับเด็กที่ชื่อออมสินนี่จบกันไปไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่มันก็ไม่เคยเล่ารายละเอียดอะไรให้ผมฟังเพิ่มเติมเลย
“มึงดูน้องแตงโมดิ แตงโมแม่งดันกระดุมเสื้อจะแตกอยู่แล้ว”
“ชูววว เสียงดังไอ้สัตว์”
ผมรีบปรามเพื่อนรัก ในขณะที่มันมัวแต่ตื่นเต้นจนเผลอออกนอกหน้า
นอกตาเกินไป
“เอาละ! ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีคนร้องเพลงเสียงเบา ไหนใครที่ลืมเอาชีตเพลงมาร์ชมหาลัยมาบ้าง”
ผมแสร้งทำเสียงดุข่มขู่รุ่นน้อง ตามประสาพี่ว้ากที่วางมาดให้น่าเกรงขาม ทำเอากลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้ารีบก้มลงมองที่ตักตัวเองอย่างประหม่าและ
ตื่นกลัว
“นะ หนูค่ะ”
ผู้โชคร้ายในวันนี้ค่อย ๆ ยกมือขึ้นอย่างเชื่องช้า แววตาใสซื่อส่งผ่านแว่นตาอันหนาเตอะออกมาอย่างหวาดหวั่น เจ้าของเรือนร่างผอมบางผิวขาวผ่อง มาพร้อมกับกระโปรงพีทยาวตกไปถึงข้อเท้าและเสื้อนักศึกษาตัวหลวม ภาพรวมอาจจะเป็นยัยเฉิ่มเกรดเอ แต่ถ้าจับแต่งตัวดี ๆ ก็ไม่แน่...
“ก้านตอง... ออกมานี่”
ผมเรียกชื่อเธอจากป้ายกระดาษแข็งที่ห้อยอยู่บนคอ พลางจ้องมองเธอลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก แล้วยกตัวขึ้นจากพื้น จากนั้นก็เดิน
ก้มหน้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าผม
“ไม่ได้ดูในกลุ่มหรือไง? เมื่อคืนฉันก็โพสต์ย้ำไปแล้ว”
“ดะ ดูค่ะ หนูวางไว้ข้างกระเป๋าแล้ว แต่ตอนออกมาดันลืมหยิบ”
“แล้วทำไมไม่เอาใส่ไว้ในกระเป๋า!!”
ผมตะคอกดังสนั่นจนเสียงก้องไปทั่วใต้ตึก คนตัวเล็กสะดุ้งโหยงพลาง
กุมมือตัวเองเอาไว้แน่น
“ขะ ขอโทษค่ะ ต่อไปหนูจะไม่ลืมอีก”
ไหล่บางสั่นเทาด้วยความรู้สึกกลัวจับใจ เห็นแล้วอดที่จะสงสารไม่ได้
ผมเลยต้องยอมปล่อยผ่าน แต่ใช่ว่าจะไม่ลงโทษนะครับ ของแบบนี้มันต้องเชือดไก่ให้ลิงดู
“ปั่นจิ้งหรีด!”
“กะ กี่ครั้งคะ”
“จนกว่าฉันจะพอใจ”
“...”
ใบหน้าจิ้มลิ้มปราศจากเครื่องสำอางเงยขึ้นมาสบตาผมพร้อมกับเบิกตาโพลง เตรียมจะเอ่ยต่อรองแต่คงไม่กล้า จึงเปลี่ยนเป็นพรูลมหายใจออกมาหนัก ๆ แทน
ผมปล่อยให้คนตัวเล็กปั่นจิ้งหรีดอยู่แบบนั้น ส่วนตัวผมก็เดินมาหยิบ
ขวดน้ำดื่มด้วยท่าทางสบาย ๆ กะว่าจะลงโทษไม่นานเพราะตอนนี้ก็เลยเวลาออกล่าเหยื่อของผมแล้ว
“คนนี้มาจากโคราช โรงเรียนเดียวกันกับมึงเลยนะเว้ย คลับคล้ายคลับคลาบ้างปะ”
“ยัยเฉิ่มเนี่ยนะ?”
ผมเพ่งมองร่างผอมบางที่กำลังปั่นจิ้งหรีดเอาเป็นเอาตาย พลางส่ายหน้าระรัว
“น่าจะเด็กกิจกรรมว่ะ กูเป็นเด็กหลังห้องไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับโซนนั้น”
“เหรอวะ...”
ไอ้เรสว่าเสียงเบา พลางยกปลายนิ้วขึ้นมาเกาคางด้วยท่าทางครุ่นคิด
“มึงว่า... ซิงไหมวะ?”
“โห ถามโง่ ๆ ถ้ายังแต่งตัวเป็นมนุษย์ป้าอยู่แบบนี้กูว่าชาตินี้
ก็ไม่ถูกเปิดหรอกซิงอะ”
“มึงก็ว่าไป น้องเขาอาจจะซิงเพราะได้ยากก็ได้นะเว้ย”
“เหอะ! เนี่ยนะยาก? กูให้สามวัน”
“อ้าวว พูดแบบนี้ก็จัดเลยดิครับบ”
ไอ้เรสยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างมีแผนร้าย ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ผมยิ่งขึ้นเพื่อ
จะได้กระซิบข้างหูถนัด
“ถ้ามึงปิดจ๊อบได้ภายในสามวัน กูโอนให้เลยห้าหมื่น แต่ถ้าปิดไม่ได้ มึงต้องโอนให้กูห้าหมื่นเคปะ?”
“ฮะ! คือจะให้กูไปปิดจ๊อบยัยเด็กเฉิ่มเนี่ยนะ”
“หรือมึงไม่กล้า? กลัวจะปิดจ๊อบไม่ได้อะดี้”
เป็นแบบนั้นซะเมื่อไหร่กันเล่า ใครก็รู้ว่ามาตรฐานของผมสูงแค่ไหน คนที่จะปีนขึ้นบนเตียงแล้วเสวยสุขไปกับผมได้ต้องมีพร้อมทุกด้าน แต่เท่าที่ดูด้วยหางตา ยัยนี่ไม่น่าจะมีอะไรให้ผมเซอร์ไพรส์ได้เลย
“ไทน์ พอก่อนไหม น้องเริ่มหน้าซีดเหมือนจะเป็นลมแล้ว”
เพื่อนอีกคนรีบเดินเข้ามาบอกเพราะเห็นว่าท่าไม่ดี ผมก็ลืมนึกไปเลยว่า
สั่งยัยนั่นปั่นจิ้งหรีดอยู่
“พอ!”
เพียงได้รับอนุญาตให้หยุด เธอก็ล้มฟุบไปกับพื้น พลางหายใจเหนื่อยหอบปานจะขาดใจ
“เอาละ แยกย้ายกลับไปพักได้ นัดรอบต่อไปอย่าให้มีใครลืม
ชีตเพลงอีกล่ะ”
“ขอบคุณครับ / ขอบคุณค่ะ”
เพื่อนผู้หญิงที่ชื่อออมสินเดินเข้ามาพยุงตัวก้านตอง พร้อมกับยัดยาดม
เข้าไปในรูจมูก มองดูแล้วน่าเวทนาชะมัด
“ว่าไง ดีลหรือไม่ดีล ใจ ๆ หน่อยดิวะ”
ไอ้เรสก็ยังตอแยผมไม่เลิก ทำไมมันถึงอยากให้ผมไปปิดจ๊อบยัยเด็กนี่นักวะ ผมไม่ได้สนจำนวนเงินห้าหมื่นที่มันเสนอให้สักนิด เพราะผมไม่เคยขัดสนเรื่องนี้ แต่เรื่องศักดิ์ศรีนี่สิครับ โดนมันสบประมาทหาว่าไม่ใจแล้วของมันขึ้น
“เออ! ดีลก็ดีล เดี๋ยวกูจะฉีกก้านตองให้มึงดูเป็นขวัญตา”