อารัมภบท

1168 Words
ถ้าเราหน้าตาดี โลกจะใจดีกับเราเอง... คุ้นหูกับประโยคนี้บ้างไหมครับ? มันอาจจะฟังดูขัดหูหน่อยที่โลกเอนเอียงและไม่เท่าเทียม แต่มันก็เป็นประโยคที่ปฏิเสธไม่ลงเลยจริง ๆ คิดเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มของกลุ่มผู้หญิงทั้งหมดที่เข้ามาหาผมตั้งแต่เริ่มแตกหนุ่มจนขึ้นมาถึงปีสอง พวกเธอต่างหลงใหลในเปลือกนอกของผมกันทั้งสิ้น บางคนต้องการเพียงร่างกายเพื่อเอาไว้เมาท์มอยกันสนุกปาก ในวงเหล้า บ้างต้องการเพียงชื่อเสียงอันเกิดจากการร่วมหลับนอนกับผมชั่วข้ามคืน สรุปตรง ๆ คือพวกเธอเหล่านั้นเพียงต้องการประกาศความเพอร์เฟกต์อย่างไม่มีใครเท่าเทียมแค่นั้นแหละ เพราะระดับไอ้ไทน์ จะนอนกับใครต้องเพอร์เฟกต์ที่สุดเท่านั้น “เด็ด ๆ ทั้งนั้นเลยว่ะ” ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างกันกระซิบบอกน้ำเสียงตื่นเต้น ขณะที่พยายามซ่อนอาการไว้ให้มิด เพราะต้องคีพลุคแสร้งทำเป็นพี่ว้ากสุดโหด ใต้ตึกกิจกรรมในช่วงหกโมงเย็นเต็มไปด้วยเหล่านักศึกษาคณะบริหาร สาขาการจัดการไม่ต่ำกว่า 30 คน คิดเป็นผู้หญิงร้อยละ 80 และคิดเป็นร้อยละ 5 ของผู้หญิงทั้งหมดที่... เข้าเกณฑ์จะได้ร่วมเสพสุขไปกับผม “นั่นเมียเก่ามึงเปล่าวะ” ผมพยักพเยิดหน้าส่งไปยังสาวสวยที่เด่นจนแสบตา และจำได้ว่าคนนี้ เคยทำไอ้เรสเจ็บอยู่ปางตาย “เออ!... แม่ง อุตส่าห์ทำใจได้แล้วยังจะตามมาหลอกหลอนกูอีก” มันเคยบอกกับผมว่าระหว่างมันกับเด็กที่ชื่อออมสินนี่จบกันไปไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่มันก็ไม่เคยเล่ารายละเอียดอะไรให้ผมฟังเพิ่มเติมเลย “มึงดูน้องแตงโมดิ แตงโมแม่งดันกระดุมเสื้อจะแตกอยู่แล้ว” “ชูววว เสียงดังไอ้สัตว์” ผมรีบปรามเพื่อนรัก ในขณะที่มันมัวแต่ตื่นเต้นจนเผลอออกนอกหน้า นอกตาเกินไป “เอาละ! ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีคนร้องเพลงเสียงเบา ไหนใครที่ลืมเอาชีตเพลงมาร์ชมหาลัยมาบ้าง” ผมแสร้งทำเสียงดุข่มขู่รุ่นน้อง ตามประสาพี่ว้ากที่วางมาดให้น่าเกรงขาม ทำเอากลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้ารีบก้มลงมองที่ตักตัวเองอย่างประหม่าและ ตื่นกลัว “นะ หนูค่ะ” ผู้โชคร้ายในวันนี้ค่อย ๆ ยกมือขึ้นอย่างเชื่องช้า แววตาใสซื่อส่งผ่านแว่นตาอันหนาเตอะออกมาอย่างหวาดหวั่น เจ้าของเรือนร่างผอมบางผิวขาวผ่อง มาพร้อมกับกระโปรงพีทยาวตกไปถึงข้อเท้าและเสื้อนักศึกษาตัวหลวม ภาพรวมอาจจะเป็นยัยเฉิ่มเกรดเอ แต่ถ้าจับแต่งตัวดี ๆ ก็ไม่แน่... “ก้านตอง... ออกมานี่” ผมเรียกชื่อเธอจากป้ายกระดาษแข็งที่ห้อยอยู่บนคอ พลางจ้องมองเธอลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก แล้วยกตัวขึ้นจากพื้น จากนั้นก็เดิน ก้มหน้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าผม “ไม่ได้ดูในกลุ่มหรือไง? เมื่อคืนฉันก็โพสต์ย้ำไปแล้ว” “ดะ ดูค่ะ หนูวางไว้ข้างกระเป๋าแล้ว แต่ตอนออกมาดันลืมหยิบ” “แล้วทำไมไม่เอาใส่ไว้ในกระเป๋า!!” ผมตะคอกดังสนั่นจนเสียงก้องไปทั่วใต้ตึก คนตัวเล็กสะดุ้งโหยงพลาง กุมมือตัวเองเอาไว้แน่น “ขะ ขอโทษค่ะ ต่อไปหนูจะไม่ลืมอีก” ไหล่บางสั่นเทาด้วยความรู้สึกกลัวจับใจ เห็นแล้วอดที่จะสงสารไม่ได้ ผมเลยต้องยอมปล่อยผ่าน แต่ใช่ว่าจะไม่ลงโทษนะครับ ของแบบนี้มันต้องเชือดไก่ให้ลิงดู “ปั่นจิ้งหรีด!” “กะ กี่ครั้งคะ” “จนกว่าฉันจะพอใจ” “...” ใบหน้าจิ้มลิ้มปราศจากเครื่องสำอางเงยขึ้นมาสบตาผมพร้อมกับเบิกตาโพลง เตรียมจะเอ่ยต่อรองแต่คงไม่กล้า จึงเปลี่ยนเป็นพรูลมหายใจออกมาหนัก ๆ แทน ผมปล่อยให้คนตัวเล็กปั่นจิ้งหรีดอยู่แบบนั้น ส่วนตัวผมก็เดินมาหยิบ ขวดน้ำดื่มด้วยท่าทางสบาย ๆ กะว่าจะลงโทษไม่นานเพราะตอนนี้ก็เลยเวลาออกล่าเหยื่อของผมแล้ว “คนนี้มาจากโคราช โรงเรียนเดียวกันกับมึงเลยนะเว้ย คลับคล้ายคลับคลาบ้างปะ” “ยัยเฉิ่มเนี่ยนะ?” ผมเพ่งมองร่างผอมบางที่กำลังปั่นจิ้งหรีดเอาเป็นเอาตาย พลางส่ายหน้าระรัว “น่าจะเด็กกิจกรรมว่ะ กูเป็นเด็กหลังห้องไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับโซนนั้น” “เหรอวะ...” ไอ้เรสว่าเสียงเบา พลางยกปลายนิ้วขึ้นมาเกาคางด้วยท่าทางครุ่นคิด “มึงว่า... ซิงไหมวะ?” “โห ถามโง่ ๆ ถ้ายังแต่งตัวเป็นมนุษย์ป้าอยู่แบบนี้กูว่าชาตินี้ ก็ไม่ถูกเปิดหรอกซิงอะ” “มึงก็ว่าไป น้องเขาอาจจะซิงเพราะได้ยากก็ได้นะเว้ย” “เหอะ! เนี่ยนะยาก? กูให้สามวัน” “อ้าวว พูดแบบนี้ก็จัดเลยดิครับบ” ไอ้เรสยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างมีแผนร้าย ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ผมยิ่งขึ้นเพื่อ จะได้กระซิบข้างหูถนัด “ถ้ามึงปิดจ๊อบได้ภายในสามวัน กูโอนให้เลยห้าหมื่น แต่ถ้าปิดไม่ได้ มึงต้องโอนให้กูห้าหมื่นเคปะ?” “ฮะ! คือจะให้กูไปปิดจ๊อบยัยเด็กเฉิ่มเนี่ยนะ” “หรือมึงไม่กล้า? กลัวจะปิดจ๊อบไม่ได้อะดี้” เป็นแบบนั้นซะเมื่อไหร่กันเล่า ใครก็รู้ว่ามาตรฐานของผมสูงแค่ไหน คนที่จะปีนขึ้นบนเตียงแล้วเสวยสุขไปกับผมได้ต้องมีพร้อมทุกด้าน แต่เท่าที่ดูด้วยหางตา ยัยนี่ไม่น่าจะมีอะไรให้ผมเซอร์ไพรส์ได้เลย “ไทน์ พอก่อนไหม น้องเริ่มหน้าซีดเหมือนจะเป็นลมแล้ว” เพื่อนอีกคนรีบเดินเข้ามาบอกเพราะเห็นว่าท่าไม่ดี ผมก็ลืมนึกไปเลยว่า สั่งยัยนั่นปั่นจิ้งหรีดอยู่ “พอ!” เพียงได้รับอนุญาตให้หยุด เธอก็ล้มฟุบไปกับพื้น พลางหายใจเหนื่อยหอบปานจะขาดใจ “เอาละ แยกย้ายกลับไปพักได้ นัดรอบต่อไปอย่าให้มีใครลืม ชีตเพลงอีกล่ะ” “ขอบคุณครับ / ขอบคุณค่ะ” เพื่อนผู้หญิงที่ชื่อออมสินเดินเข้ามาพยุงตัวก้านตอง พร้อมกับยัดยาดม เข้าไปในรูจมูก มองดูแล้วน่าเวทนาชะมัด “ว่าไง ดีลหรือไม่ดีล ใจ ๆ หน่อยดิวะ” ไอ้เรสก็ยังตอแยผมไม่เลิก ทำไมมันถึงอยากให้ผมไปปิดจ๊อบยัยเด็กนี่นักวะ ผมไม่ได้สนจำนวนเงินห้าหมื่นที่มันเสนอให้สักนิด เพราะผมไม่เคยขัดสนเรื่องนี้ แต่เรื่องศักดิ์ศรีนี่สิครับ โดนมันสบประมาทหาว่าไม่ใจแล้วของมันขึ้น “เออ! ดีลก็ดีล เดี๋ยวกูจะฉีกก้านตองให้มึงดูเป็นขวัญตา”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD