คืนวันนัดหมายของการไปดูคอนเสิร์ตในตัวเมืองมาถึง ทุกคนมารวมตัวกันหน้าบ้านบูมที่อยู่ใจกลางอำเภอ เป็นทางผ่านเข้าตัวเมืองพอดี
ตอนแรกทุกคนนัดกันว่าจะเอารถไปสองคัน แต่ธีร์บอกมีธุระเลยเอารถไปเองคนเดียว สร้างความสงสัยให้กับเพื่อนไม่น้อย
“ธุระอะไรน้อ” พูดลอย ๆ ระหว่างรอรุ่นน้องที่จะไปด้วยกัน
“เสือกครับ” ไม่บอกหรอกพวกปากหมา บอกไปได้ด่ากูยับแน่
ไม่รู้บังเอิญหรือยังไงถึงได้ป่วยคืนนี้พอดี แต่ก็ไม่เป็นไร ไหน ๆ จะเข้าเมืองแล้วก็จะแวะไปดูหน่อยแล้วกัน
“ครบแล้ว ไป ๆ เดี๋ยวหน้าเวทีไม่มีที่ให้ยืน” นายพูดขึ้นอย่างรีบร้อน
“ข้าง สห.เถอะพวกมึง” เต้นกวนบาทากันขนาดนั้น ใกล้ตำรวจใกล้ สห.น่าจะปลอดภัยสุด
“ป๊อดว่ะ”
“กูคนมีลูกมีเมียว่ะ” บูมว่าอย่างขยาดกับการตีกันแล้ว แต่หากมาซึ่งหน้าก็ได้ครับ
“กูคนรอมีเมียครับ” ภีมก็เสริมอีกคน
“กูไปล่ะ” ธีร์ไม่พูดเรื่องนี้ เดินหนีขึ้นรถขับนำไปคนเดียวทันที
“น่าสงสัย” นายพูด พร้อมกับทุกคนหันมองหน้ากันอย่างคิดไม่ต่าง
แต่ถ้ามันยังไม่อยากบอกก็ต้องปล่อย โต ๆ กันแล้วก็ต้องมีเรื่องของตัวเองกันบ้างเป็นปกติ
พอคิดได้แบบนั้นคนที่เหลือก็ขึ้นรถกระบะแล้วออกเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองในทันที
ช่วงปลายปีแบบนี้แน่นอนว่าอากาศหนาวเป็นธรรมดา ยิ่งตอนกลางคืนยิ่งเย็น คนนั่งกระบะท้ายซุกหัวหนีลม แต่โคตรได้ฟิวเลย
ใช้เวลาหลายสิบนาทีในที่สุดก็ถึงตัวเมือง ธีร์ยังขับรถนำมาทางเดียวกันเหมือนตอนแรก จนมาถึงทางเลี้ยวที่จะไปแถวงาน ธีร์กลับส่งข้อความหาเพื่อน
Thee : เดี๋ยวโทรหา ไปทำธุระก่อน
แล้วขับตรงไปอีกทาง
แถวนี้ใกล้กับมหาฯลัยของจังหวัดถึงสองแห่ง แน่นอนว่าเนืองแน่นไปด้วยหอพักมากมาย แต่ใครจะคิดว่ามันโคตรจะบังเอิญขนาดนี้ ที่หอพักที่เขากำลังจะไป ดันอยู่ซอยติดกันกับหอพักของใครอีกคน
“?” ไฟหน้ารถที่สาดไปด้านหน้า พร้อมกับมอเตอร์ไซต์สีหวานเลี้ยวตัดเข้าซอยไปพอดี ทำให้เขาได้เห็นหน้าคนขี่ชัด ๆ เต็มสองตา
คนที่ไม่ได้เจอกันเลยหลายเดือนแล้ว ไม่ได้เจอเลยตั้งแต่ที่เกิดเรื่องครั้งนั้น
ธีร์ขับผ่านซอยที่รถสกู๊ปปี้ขับเข้าไปและเลี้ยวซอยถัดไป ขับไปถึงประมาณกลางซอยก็จอดรถแอบข้างทางก่อนจะเดินเข้าไปในหอ
“อยู่ห้องไหน มาถึงแล้ว” แล้วโทรออกไปยังปลายสาย เมื่ออีกฝ่ายรับก็ถามทันที
(ห้องที่สามชั้นหนึ่ง) เสียงแหบตอบกลับมา
เขาวางสายก่อนจะเดินไปตามที่เธอบอก เห็นรถมอเตอร์ไซต์คุ้นตาจอดอยู่ก็มั่นใจ เลยเคาะห้องส่งสัญญาณเรียกคนข้างใน
ไม่นานประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับคนที่เคยคุ้น
“เข้ามาก่อนสิ” เตย ชักชวนเขาก่อนจะขยับหลีกทางให้
“...” ธีร์รู้สึกทำตัวไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ เพราะมันก็หลายเดือนจนเกือบปีได้แล้วที่เราไม่ได้เจอกัน
หมับ! ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เจ้าของห้องก็พุ่งเข้ามากอดเขาไว้แน่นทันที
“คิดถึง”
“...!” ธีร์ตกใจไปนิดหน่อย แต่ไม่นานก็เปลี่ยนเป็นความสับสนพร้อมกับการหักห้ามใจ
แฟนเก่าที่อาจจะไม่ได้มีความรักเหมือนเดิม แต่ยังไม่เคยลืมได้ดีพอ
ตอนนี้อยู่ตรงหน้า คนที่เขาเคยขอความรักและไม่อยากเลิกกันกับเธอ
เขาจะทำยังไงต่อ
กลางคืนของฤดูหนาวแบบนี้ทำให้รู้สึกเหงาขึ้นมาได้ง่าย ๆ เวลาว่างและไม่มีอะไรทำมักหวนนึกถึงอดีตอย่างง่ายดาย ยิ่งบรรยากาศข้างนอกที่ค่อนข้างคึกคักจากงานประจำปีที่ผู้คนคงเต็มไปหมด แต่เธอกลับนอนเหงาอยู่ลำพังในห้อง
“คืนนี้พี่ก็คงมา” คืนนี้เป็นคอนเสิร์ตนักร้องที่เขาชอบมาก ๆ หากนักร้องวงนี้มาเยือนถึงจังหวัดเมื่อไหร่ เขากับเพื่อนไม่เคยพลาดจะไปประจำการหน้าเวที
ซึ่งคืนนี้ก็คงไม่ต่างกัน
เธอจำได้ทุกเรื่องราวของเขา แต่เขาคงไม่ได้สนใจน้องสาวคนนี้ไปนานแล้ว ไม่เห็นเธอเป็นน้องที่เล่นด้วยกันมาร่วมยี่สิบปีตั้งแต่วันนั้น
เธอทั้งโกรธและเสียใจ แต่เขากลับไม่เคยสนใจความรู้สึกของเธอเลย เพราะจนตอนนี้ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว เธอที่เอาตัวเองออกห่างจากชีวิตเขาไม่เคยเห็นกันอีกเลย ตัวเขาเองก็ไม่เคยทักมาคุยอะไรกับเธอเหมือนเมื่อก่อนด้วยเช่นกัน
คนที่คอยเม้นท์รูปหรือโพสเธอทุกอัน คนที่คอยทักมาถามไถ่แม้จะเป็นคำพูดกวนบาทาส่วนใหญ่
ไม่มีอีกแล้ว
มีแต่เธอนี่แหละที่ยังพยายามส่องเขาอยู่ตลอด ยังดีที่เขาไม่ได้ลบเธอออกจากการเป็นเพื่อน ไม่ถึงขั้นบล็อกกันไปแล้ว เพราะถ้าเขาทำแบบนั้น มันก็ชัดเจนว่าระหว่างเราไม่เหลือแม้แต่คำว่าคนรู้จักกันอีกต่อไป
“เห้อ!” พอกดเข้ามาในเฟสฯ ของเขาก็เห็นที่เพื่อนเขาโพสแล้วแท็กหา
ไม่ผิดจากที่พูด พวกเขามาเที่ยวงานประจำปีกันจริง ๆ แต่รูปที่มีกันครบดันไม่มีเขา แล้วไหนจะข้อความตามหานั่นอีก
เขาไปไหน?