Ep.3

1807 Words
Ep.3 Priaw talk. ห้องแต่งตัว "ถ้าวันนี้เธอทำพลาดแม้แต่นิดเดียว ฉันไม่เอาเธอไว้แน่!" ฉันทำเสียงล้อเลียนประโยคที่ผู้จัดการพูด พร้อมกับยัดกระเป๋าเป้เข้าล็อคเกอร์ของตัวเอง เซ็งว่ะ! ก็มาทำงานปกติปะ สายก็ไม่ได้สาย ต่อหน้าลูกค้าฉันก็พูดดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ทำไมผู้จัดการต้องมาจู้จี้จุกจิกกับฉันขนาดนี้ด้วยวะ จะลาออกก็เสียดายเงิน ไม่รู้จะหางานที่ได้เงินเยอะๆ แบบนี้ได้จากที่ไหน ลำพังเงินเดือนปกติของที่นี่มันไม่ได้เยอะหรอก ก็เรตมาตรฐานทั่วไป แค่หมื่นนิดๆ แต่ที่ทำให้ฉันเสียดายไม่กล้าลาออกก็คือทิป! ที่นี่มีแต่พวกไฮโซกระเป๋าหนักๆ มาเที่ยวกันเป็นส่วนใหญ่ ชงเหล้าให้แก้วเดียวก็ได้ละ 80-100 บาท เผลอๆ ถ้าลูกค้าเมาแล้วใจใหญ่ใจโต แก้วละ 500 ฉันยังเคยได้มาแล้วเลย ที่นี่มันดีก็ตรงนี้แหละ เฮ้อ! ได้แต่ถอนหายใจยาวๆ แล้วก้มหน้าทำงานต่อไป เพราะชีวิตมันเลือกไม่ได้ "ไงมึง ทำหน้าเซ็งแบบนี้ ปะทะกับผู้จัดการมาแล้วล่ะสิ" เหมยที่เพิ่งเดินล้วงกระเป๋าเอี้ยมเข้ามาในห้องพักพนักงาน เอ่ยทักทายกึ่งแซวฉันขำๆ "รู้ดี อิดอก" "ที่นี่ก็มีอยู่แค่เรื่องเดียว ใครไม่รู้บ้างเอางี้ดีกว่า" ถ้าให้พูดก็คือพนักงานทุกคนจะรู้นิสัยผู้จัดการคนนี้ดี ชื่อเสียงเรียงนามเป็นที่กล่าวขานมาก "ก็จริงของมึง เฮ้อ" ฉันถอนหายใจออกมาอีกครั้ง "เอาน่า ถึงพี่แกจะขี้จู้จี้แต่ก็แค่เรื่องาน พี่แกก็ทำงานดี ไม่งั้นคุณเจ้าขุนไม่ไว้ใจเอาไว้ถึงทุกวันนี้หรอก" เหมยพูดและเดินเข้ามาตบบ่าให้กำลังใจฉัน "เออ กูจะพยายามคิดแบบมึง" จริงๆ ไม่ต้องพยายามหรอก ฉันเข้าใจที่ผู้จัดการทำอยู่ แต่ตอนนี้เพิ่งโดนมาหมาดๆ มันก็เลยเซ็งฟาดงวงฟาดงาไปก่อน "ไปๆ ใกล้เวลาลูกค้าเข้าร้านแล้ว รีบๆ ออกไปเสนอหน้าซะ ช้าอดได้ทิปนะบอกก่อน" เท่านั้นแหละ ฉันก็ดีดตัวลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินคำว่าทิป ที่นี่จะเป็นระบบทิปแยก ใครดีใครได้ เพราะฉะนั้นฉันต้องแอ็กทีฟตัวเอง ไม่งั้นคืนนี้เฉาแน่ "ปะ!" "เปลี่ยนอารมณ์ไวนะมึง" "ก็ชีวิตกูมันต้องรันด้วยเงินนี่นา" พอฉันพูดจบเหมยมันก็เบะปากใส่ฉันอย่างหมั่นไส้ ก่อนที่เราสองคนจะเดินออกมาเตรียมตัวรับลูกค้าหน้าร้าน คอยถามลูกค้าว่าได้จองโต๊ะไว้หรือเปล่า ถ้าไม่ก็ต้องพาลูกค้าไปนั่งโต๊ะที่เราสำรองไว้สำหรับลูกค้าที่ Walk in เข้ามา อ้อ! ที่นี่ไม่มีพีอาที่แต่งตัวรัดๆ แต่งหน้าจัดจ้านหรอกนะ มีแต่พนักงาน บริกรทั่วไปนี่แหละ และทุกคนก็จะแต่งตัวเหมือนกันหมด เพราะฉะนั้นที่นี่ทุกคนจะเท่าเทียม จะไม่มีสาวสวยดาวเด่นของร้านไว้ให้ผู้ชายแทะโลมเล่นๆ เหมือนร้านทั่วไป เพราะที่ร้านไม่มีสาวบริการแบบนั้น ก็เลยทำให้ที่นี่ไม่ค่อยมีพวกเสี่ย เ*******ูเข้ามาเท่าไหร่ ถึงมีก็มีแต่จำพวกเกรดดีๆ พรีเมียมทั้งนั้น พนักงานทุกคนจึงปลอดภัยในระดับหนึ่ง ส่วนมากก็จะมีแต่พวกลูกค้านั่นแหละที่ถูกใจ และสานต่อกันเอง อันนั้นก็เรื่องของเขา "รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ" ฉันได้ลูกค้ามาแล้วกลุ่มหนึ่ง ลูกค้าที่สำรองโต๊ะไว้แล้ว ฉันจึงเดินพามาที่โต๊ะ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงสุภาพ "เอา..." ฉันเริ่มจดออร์เดอร์ตามที่ลูกค้าสั่ง ก่อนจะทวนรายการ และเดินไปเอาเครื่องดื่มมาบริการลูกค้ากลุ่มนั้น จากนั้นฉันก็เดินไปโต๊ะนั้นโต๊ะนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อบริการลูกค้าทุกคน พนักงานหนึ่งคนจะดูแลประมาณ 4-5 โต๊ะ แต่ถ้ามีลูกค้าโต๊ะอื่นเรียกเราก็ต้องไป งานก็ไม่มีอะไรเยอะหรอกค่ะ ชงเหล้า เสิร์ฟ ลูกค้าสั่งอะไรก็เดินไปเอามาให้ แค่นี้แหละ ฉันทำงานของฉันเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไป วันนี้เป็น Friday night ลูกค้าก็จะแน่นๆ หน่อย ยิ่งดึกก็ยิ่งมันและยิ่งเมา เพราะทุกคนต่างกำลังได้ที่ หน้าที่ของฉันอีกอย่างคือต้องสอดส่งความเรียบร้อยไปด้วย เผื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้น "มึงๆๆ" ขณะที่ฉันกำลังยืนดูฝูงคนที่กำลังดิ้นอยู่ตรงหน้า เหมยที่มาจากไหนก็ไม่รู้ มันเดินเข้ามาสะกิดฉันด้วยสีหน้าตื่นเต้น ตื่นเต้นอะไร ถ้าเป็นเรื่องเจอดารา เซเลบก็เรื่องปกติไปละปะ เจอแทบทุกคืน เจอบ่อยจนเลิกตื่นเต้นไปละ "ว่า ?" "ประตูทางเข้า มองเลยๆ" "มีอะไร" ฉันหันไปดูตามที่มันบอก ก็เจอผู้ชายหล่อๆ คนหนึ่งเดินเข้ามา แล้วก็ไม่มีอะไร มีแค่นี้แหละ "เป็นไง หล่อปะ ?" มันถามฉันต่ออย่างตื่นเต้น สีหน้ามันฉายแววความแรดออกมาชัดเจนเลย "ก็หล่อ แล้ว ?" ฉันถามมันกลับ และรอฟังว่ามันต้องการจะสื่ออะไร และพอมันเห็นสีหน้าของฉัน หน้าตาแรดๆ ของมันก็หายไปทันที จากนั้นมันก็ค้ำเอวพร้อมกับตีหน้ายุ่งมองฉัน เหมือนหมดอารมณ์เมื่อฉันไม่ได้อินไปกับมัน "อะไรวะ หล่อขนาดนั้นไม่ได้ทำให้มดลูกมึงสั่นเลยเหรอ" "ไม่อะ เฉยๆ กูไม่อิน" "มึ้งงงง! แต่นั่นคุณไทเปเลยนะมึง คุณไทเปน่ะไทเป! ไม่สั่นยังไงไหว ผู้หญิงทั้งผับจ้องจะงาบทั้งนั้น แต่ดูมึงทำสิ!" "แล้วไงวะ ไอ้หล่อก็หล่ออยู่หรอก แต่กูแค่ไม่อินกับคนหล่อ" ใครๆ ก็ชอบคนหล่อกันทั้งนั้น ฉันยอมรับนะว่าคนที่ยัยเหมยมันบอกให้ฉันดู เขาหล่อจริงๆ หล่อมากด้วย แต่ไม่ใช่สเป็กฉันอะ ฉันก็เลยไม่หวีดอะไรมาก "มึงตายด้านปะ ถามจริง" "อย่าเวอร์! เลิกเม้าท์แล้วไปทำงานต่อ พ่อมึงมองมานู้นแล้ว!" ฉันพูดพร้อมกับบุ้ยใบหน้าไปทางผู้จัดการ ที่กำลังส่งสายตาคมกริบมาทางเราสองคน และพอเหมยมันหันไปเห็น มันก็รีบหลบหายเข้าไปในฝูงคนเลยทันที ส่วนฉันก็กลับมาทำหน้าที่ตัวเองต่อ ทำได้สักพักฉันก็รู้สึกปวดฉี่ ฉันเลยเดินไปบอกพนักงานที่อยู่แถวนั้นให้ช่วยดูลูกค้าโซนนี้ให้หน่อย ก่อนที่ฉันจะเดินไปฉี่ที่ห้องน้ำ แต่...คนต่อคิวเยอะมาก! จริงๆ มันเป็นห้องน้ำพนักงานแหละ แต่ห้องน้ำลูกค้าน่าจะล้นมั้ง ยิ่งดึกคนยิ่งเข้าห้องน้ำเยอะเป็นธรรมดาแบบนี้แหละ และฉันก็ยืนต่อคิวจนฉันได้เข้าห้องน้ำ ออกมาฉันก็ล้างมือ เช็กความเรียบร้อยของเสื้อผ้า หน้า ผม ก่อนจะหยิบลิปสติกขึ้นมาเติมปากเล็กน้อย จากนั้นก็เดินไปนั่งพักที่ม้านั่งข้างนอกแป๊บๆ กะจะพักสายตาสักสามนาที แต่... อาจจะด้วยความเหนื่อย ความเพลียที่สะสมมาทั้งวัน ทำให้ฉันเผลอหลับไป จนเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็มีคนมานั่งจ้องหน้าฉันอยู่ และฉันก็ต้องตกใจสุดขีดเพราะคนที่นั่งจ้องฉันอยู่ตอนนี้คือ... "คะ...คุณเจ้าขุน!" ใช่! คุณเจ้าขุนที่เป็นเจ้าของผับนี้ไง และเขาคือเจ้านายฉัน! ตาย! ตายแน่ๆ หลับในเวลางานแบบนี้ ไม่รอดแน่อีเปรี้ยวเอ๊ย! "เมื่อคืนไม่ได้นอนเหรอ" น้ำเสียง สีหน้า ท่าทางของผู้ชายวัยกลางคนที่หยัดตัวขึ้นและยืนอยู่ตรงหน้า ฉันให้ฉันรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย ทำไมไม่ดุ ? ทำไมไม่ต่อว่า ? ทำไมถามฉันด้วยน้ำเสียงปกติแบบนี้… ถึงจะแปลกใจกับท่าทางของเจ้านายตัวเอง แต่ความกลัวมันก็ไม่ได้หายไป เพราะอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ ตอนนี้อาจจะแค่เก็บอาการอยู่ก็ได้ "เอ่อ...คือ..." จะตอบยังไงดีล่ะ เดี๋ยวก็หาว่าแก้ตัวอีก "ไปนอนพักก่อนไหม ?" แบบนี้คือไล่ออกไหม ฉันลูกไล่ออกแล้วใช่ไหม "นะ...หนูขอโทษ ขอโทษที่หลับในเวลางาน แต่อย่าไล่หนูออกเลยนะคะ หนูสัญญาว่าจะไม่มีคราวหน้าอีกแล้ว" พอคิดว่าตัวเองกำลังจะถูกไล่ออก ฉันก็รีบยกมือขึ้นไหว้และอ้อนวอนคนตรงหน้าทันที "?" "นะคะ อย่าไล่ปรี้ยวออกเลยนะคะ เปรี้ยวต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเอง เห็นใจเปรี้ยวเถอะค่ะ เปรี้ยวจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก" ฉันจะร้องไห้ จะร้องจริงๆ นะ ไม่น่าพลาดเลยฉัน แค่กะจะนั่งพักแท้ๆ ซวย ซวยที่สุด! "ฉันหมายถึงถ้าหนูง่วง..." "ไม่นะคะ เปรี้ยวขอโอกาสอีกครั้งนะคะ เปรี้ยวจะตั้งใจทำงาน" "ใจเย็นก่อนนะ ฉันไม่ได้จะไล่หนูออก…" "อ้าว !?" ฉันหยุดฟูมฟายทันทีที่คนตรงหน้าพูดว่าไม่ได้ไล่ฉันออก แล้วที่ฉันได้ยินคืออะไรอะ "ฉันแค่จะให้กลับไปนอนพักก่อน" "ไม่ได้จะไล่หนูออกใช่ไหมคะ" ฉันถามท่านไปด้วยความตื่นเต้น ใจชื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ "ไม่ครับ" ท่านส่ายหน้า อร๊ายย พูดครับด้วย ทำไมถึงได้ฟังดูโอนโยนขนาดนี้นะ เขินอะ >///< นี่ใช่ไหมที่เขาชอบพูดกันว่า ผู้ชายยิ่งอายุมากยิ่งมีเสน่ห์อะ "จะดีเหรอคะ" "แล้วทำไมจะไม่ดีล่ะ หื้ม"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD