ภายในห้องกระจกสี่เหลี่ยมที่อยู่โซนด้านหลัง ซึ่งเป็นห้องทำงานและห้องวีไอพีสำหรับเจ้าของผับที่มักจะมีเพื่อนสนิทมาดื่มด้วยกันอยู่เป็นประจำ
“มึงควรลืมแล้วเริ่มต้นใหม่ได้แล้ว”
น้ำเสียงนิ่งเรียบเอ่ยบอกเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหนก็ไม่ได้ช่วยให้เพื่อนของเขาลืมเรื่องราวเก่าๆ ในอดีตได้เลยสักนิด
มาร์คหรือเฮียมาร์คเป็นชื่อเรียกติดปากสำหรับนักท่องราตรีขาประจำที่รู้จักคุ้นเคยกับเฮียมาร์คเจ้าของผับเป็นอย่างดี
“….”
ไม่มีคำพูดใดออกจากปากเพื่อนรัก มีเพียงความเงียบปกคลุมภายในห้อง และเหตุการณ์มักจะเป็นแบบนี้ประจำเมื่อพูดถึงเรื่องราวในอดีต
“คนอยู่ก็ต้องใช้ชีวิตต่อไปให้มีความสุข” มาร์คเป็นห่วงแต่ก็ไม่รู้จะปลอบและให้กำลังใจเพื่อนยังไง ทำได้แค่พูดให้กำลังใจ
“ถ้ามันง่ายก็ดีสิ!” ชายหนุ่มตอบเพียงสั้นๆ ตามสไตล์ของมาเฟีย ภายในใจยังคงบอบช้ำจากการสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิต
เคย์สันหรือเคย์ลูกชายคนกลางของมาเฟียตระกูลดัง เขามีพี่ชายหนึ่งคนชื่อคิมหันต์ (คิม) และน้องสาวสุดที่รักชื่อคาริ
จากการสูญเสียในอดีตที่เกิดขึ้นทำให้เคย์สันยังคงตามสืบเรื่องของภรรยา เพราะเขาคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่อุบัติเหตุอย่างแน่นอน
‘จากผลตรวจพบว่าผู้ตายกำลังตั้งครรภ์’ คำพูดของคุณหมอในวันนั้น ยังคงติดอยู่ในใจเขาตลอดเวลา ทั้งภรรยาและลูกต้องจากเขาไป จากชีวิตที่เต็มไปด้วยความรักและความสุข ทุกอย่างกลับพังทลายลงในพริบตา จากคนที่เคยยิ้มแย้มมีความสุขก็ดูนิ่งเงียบ จมอยู่กับความทุกข์ ชีวิตก็เศร้าหมองจนเพื่อนต้องชวนออกมาดื่มเพื่อผ่อนคลาย
“แต่มึงไม่สามารถกลับไปแก้ไขอดีตได้ มึงก็ต้องใช้ชีวิตต่อไป เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งนานแล้ว มึงก็ควรจะเปิดใจได้แล้วนะ” มาร์คพยายามพูดให้เพื่อนก้าวผ่านเรื่องร้ายๆ
“ถ้าจะชวนมาคุยเรื่องเดิมๆ กูกลับดีกว่า” เคย์สันเอ่ยบอกเสียงเซ็ง ไม่ว่าจะออกมาเจอกันกี่ครั้งเพื่อนก็ยังพูดแต่เรื่องเดิมๆ
ร่างหนาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงตั้งท่าจะกลับ เพราะคิดว่าเพื่อนไม่เข้าใจและเอาแต่พร่ำบอกให้เขาเปิดใจ
“มึงจะไปไหนวะ” แดเนียลที่เดินเข้ามาเห็นก็ถามขึ้น
“มึงมาก็ดีแล้ว ช่วยพูดกับมันหน่อย” มาร์คหันไปขอความช่วยเหลือจากคนที่เข้ามาใหม่ทันที
“มึงจะรีบไปไหน นั่งดื่มกับกูก่อนดิวะ” แดเนียลดึงแขนมาเฟียหนุ่มให้นั่งลงที่เดิม
“กูชวนมันมาผ่อนคลายแท้ๆ งานยิ่งเครียดๆ ก็ต้องมานั่งเศร้ากับมันอีก” มาร์คบ่นให้แดเนียลฟังทันที
“แล้วทำไมมึงไม่ปลอบใจมันเองล่ะ” แดเนียลถามขึ้น
“กูไม่เคยมีเมียมาก่อน กูก็ไม่รู้จะปลอบมันยังไง” คนไร้ประสบการณ์ปฏิเสธไปตามตรง
“ไม่ได้เรื่องเลยมึง ต้องให้ถึงมือกูตลอด กูก็เข้าใจมึงนะ แต่เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว มึงก็ต้องเปิดใจผ่านมันไปให้ได้ พวกกูเป็นห่วงมึงนะ”
แดเนียลหันไปบอกมาร์ค ก่อนที่ประโยคต่อมาจะหันไปบอกเคย์สันด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่ใจเย็น
“พวกมึงไม่เบื่อกันหรือไง พูดเรื่องเดิมซ้ำอยู่ได้!”
ในขณะที่ภายในห้องกำลังตึงเครียดกันอยู่ แต่ด้านนอกกลับมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น
“หลีกทางเดี๋ยวนี้นะ” ฮันน่าตะคอกเสียงดังเมื่อโดนชายชุดดำที่ยืนเฝ้าหน้าห้องขวางทางเอาไว้
“ไม่ได้ครับ” ชายชุดดำตอบเสียงเรียบ ใบหน้าไร้ความรู้สึกใดๆ ราวกับหุ่นยนต์
“ทำไมฉันจะเข้าไปไม่ได้ ในเมื่อฉันรู้จักคนที่อยู่ข้างใน”
ฮันน่าชี้เข้าไปหาเฮียมาร์คที่อยู่ภายในห้อง แต่เมื่อโดนปฏิเสธซ้ำๆ มือบางจึงหยิบแบงค์ในกระเป๋ามาจ่ายค่าผ่านทาง
“ไม่ได้ครับ!!”
น้ำเสียงหนักแน่นและท่าทางจริงจัง ทำเอาหญิงสาวหน้าเสีย แต่เธอก็ไม่ยอมท้อ ยังไงก็จะเอาเบอร์ผู้ชายคนนั้นมาให้ได้
“ฉันไม่เข้าไปก็ได้ เห็นไหมเขากำลังจะเดินออกมาหา แบบนี้เขาเรียกว่าพรหมลิขิตชัดๆ” ฮันน่าไม่พูดเปล่ามือบางชี้ไปยังชายหนุ่มที่กำลังตั้งท่าลุกเดินออกมา
“สะ…”
เคย์สันมองหน้าหญิงสาวเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะเดินผ่านเธอออกไป โดยที่ไม่ได้สนใจใบหน้าสวยที่กำลังจะเอ่ยทักทายเขาเลยสักนิด
มือบางกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ถึงเธอจะไม่เคยมีแฟนมาก่อน แต่ก็ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนมองข้ามความสวยของเธอไปแบบนี้
“หยุดก่อนค่ะ! ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” ร่างเล็กยืนกางแขนขวางทางมาเฟียหนุ่มเอาไว้
“….”
“ฉันขอเบอร์โทรคุณหน่อยค่ะ” ฮันน่ายื่นโทรศัพท์ให้เหมือนกับที่เคยขอเบอร์ผู้ชายคนอื่นๆ
“หลีกไป!!” เคย์สันยืนสำรวจหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
เมื่อก่อนเหตุการณ์แบบนี้มักเกิดขึ้นกับเขาอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งมักจบลงที่เตียงเสมอ แต่ตอนนี้เขากลับรำคาญและไม่ชอบให้ผู้หญิงคนไหนมายุ่งวุ่นวายในชีวิต
ใบหน้าสวยรู้สึกชาวูบเมื่อโดนปฏิเสธ ฮันน่าตั้งสติอยู่สักพักก่อนจะวิ่งตามชายหนุ่มออกไป รู้จักคนอย่างฮันน่าน้อยไปซะแล้ว
..
ฮันน่ามาแล้วค่าาา
น้องจะทำยังไงต่อไปน๊าาา