เคย์สันเดินออกมายังลานกว้างเพื่อหาที่ดูดบุหรี่ผ่อนคลายความรู้สึกทั้งหมดที่ติดอยู่ภายในใจ
“ถ้ารำคาญก็ให้เบอร์มาสิ ให้แล้วก็จบจะได้ออกไป” ฮันน่ายังคงยื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้าชายหนุ่มอย่างไม่ยอมแพ้
“ฮันน่ามาทำอะไร” เฮียมาร์คเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินออกมาเห็นเพื่อนสนิทของกวิน ก่อนที่เขาจะดึงแขนเธอออกมาให้ห่างจากเคย์สัน
“มาขอเบอร์ผู้ชายค่ะ” หญิงสาวตอบไปตามตรง เพราะเธอเป็นคนตรงๆ แบบนี้อยู่แล้ว
“ใคร?” เฮียมาร์คถามขึ้นโดยที่ในใจยังแอบหวังว่าจะไม่ใช่เพื่อนสนิทของตัวเอง
“คนนั้นไงคะ” มือบางชี้ไปยังเป้าหมายทันที
“ไม่ได้ คนนี้ไม่ใช่คนที่ใครๆ จะยุ่งด้วย”
“งั้นเฮียมาร์คช่วยไปขอให้หน่อยดิ”
“ยืนรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวเฮียไปถามให้”
มาร์คอยากจะช่วยให้เพื่อนรักลืมเรื่องราวในอดีตและอยากจะให้ลองเปิดใจดูบ้าง อย่างน้อยฮันน่าก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีอยู่พอสมควร
“สนใจไหม” มาร์คหยุดยืนตรงหน้าเคย์สันก่อนจะถามออกไปอย่างไม่อ้อมค้อม
“ไม่!!”
คำตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความอย่างชัดเจน เพราะคนอย่างเคย์สันพูดคำไหนคำนั้นไม่มีเปลี่ยนใจ
“ก็แค่ขอเบอร์ไม่ได้ขอแต่งงานไม่ต้องคิดนานขนาดนั้นก็ได้!” ฮันน่าทนยืนดูเฉยๆ ต่อไปไม่ไหวจึงเดินเข้ามาบอกด้วยความหมั่นไส้ ผู้ชายอะไรหยิ่งชะมัด
มาร์คกับแดเนียลมองหน้ากันแล้วยกยิ้มออกมาอย่างนึกสนุก แบบนี้ชีวิตของเคย์สันจะได้มีสีสันขึ้นมาบ้าง อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะเก่งสักแค่ไหน
“เป็นเจ้าชายมาจากไหนถึงจะยุ่งไม่ได้ หรือว่าเป็นดาราดังเหรอ” หญิงสาวมองคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง เกิดมายังไม่เคยขอเบอร์ผู้ชายคนไหนยากขนาดนี้มาก่อนเลย
เคย์สันถึงกับยืนนิ่งแล้วหันไปมองหน้าหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า อยู่ๆ ความทรงจำในอดีตก็วิ่งเข้ามาในโซนประสาท เมื่อนึกถึงคำพูดของอดีตภรรยาที่เคยบอกเอาไว้ว่าเขาดูเหมือนเจ้าชายไม่เหมือนมาเฟียเลยสักนิด
“ยิ่งกว่านั้นอีก” มาร์คเอ่ยบอกเผื่อจะทำให้หญิงสาวเปลี่ยนใจ
“เป็นโจรหรือว่าเป็นคนร้ายโรคจิตเหรอคะถึงไม่ควรเข้าใกล้” ฮันน่ายังคงดื้อไม่ยอมแพ้
“เดี๋ยวกูมานะ” มาร์คเห็นว่าเรื่องไปกันใหญ่ และฮันน่าก็ดูท่าจะเมามากแล้ว จึงจัดการลากเธอออกมาจากพื้นที่อันตรายทันที
“เฮียเตือนด้วยความหวังดีนะ แล้วนี่มากับใคร นั่งอยู่โต๊ะไหนเดี๋ยวเฮียเดินไปส่ง”
“มากับวินค่ะ ส่วนโต๊ะอยู่ด้านนู้นค่ะ” ฮันน่าชี้ไปยังโต๊ะเดิมที่เคยนั่ง ถึงจะเมาแต่ก็ยังจำได้
“แล้วไอ้วินมันไม่รู้เหรอถึงได้ปล่อยเราไปแบบนั้น” เฮียมาร์คถามต่อด้วยความสงสัย
“มันนั่นแหละที่เป็นคนท้าให้หนูไป” คนเมาไม่เคยโกหกใครอยู่แล้ว
เฮียมาร์ครีบดึงแขนฮันน่าให้เดินตามเข้าไปที่โต๊ะทันที
“เล่นไม่ดูอะไรเลย รู้ทั้งรู้ยังท้าให้เพื่อนไปอีก”
เมื่อมาถึงที่โต๊ะก็เจอกวินนั่งหัวเราะอยู่ เฮียมาร์คก็บ่นให้รุ่นน้องคนสนิท
“นิดๆ หน่อยๆ ครับ” กวินที่เห็นเฮียมาร์คทำหน้านิ่งมาส่งฮันน่าก็รีบแก้ตัวอย่างไม่รอช้า
“ดูแลเพื่อนด้วย อย่าปล่อยให้ไปอีก!” เฮียมาร์คกำชับเสียงแข็งก่อนจะเดินออกไป
ฮันน่าก็นั่งนิ่งพร้อมกับความสงสัย และอยากจะรู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร ทำไมเฮียมาร์คถึงไม่อยากให้เธอไปยุ่งด้วย
..
หลังจากที่ดูดบุหรี่ผ่อนคลายอยู่ด้านนอกเสร็จ เคย์สันก็เดินกลับเข้ามาหาเพื่อนในห้องวีไอพีเช่นเคย บรรยากาศในห้องถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ จนน่าอึดอัด ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ
มือหนายกแก้วเหล้าราคาแพงขึ้นดื่ม พลางสายตาก็ไปสะดุดกับหญิงสาวในชุดเดรสสีแดงสดที่อยู่ในภาพจากกล้องวงจรปิด
ผู้คนมากมายที่อยู่บนหน้าจอ แต่เคย์สันกลับเห็นหญิงสาวคนนี้ชัดที่สุด อาจจะเป็นเพราะใบหน้าสวยที่เป็นจุดโดดเด่น ทำให้เขาเผลอมองเธอผ่านกล้องวงจรปิดโดยไม่รู้ตัว
ทว่าความสวยของเธอก็เป็นจุดสนใจของใครหลายๆ คน และทำให้มีผู้ชายเข้าหาอยู่ตลอดเวลา
“ถ้าสนใจทำไมไม่ให้เบอร์ไปตั้งแต่แรกวะ” มาร์คพูดแซวขึ้นมาทันที เมื่อเห็นเพื่อนรักจ้องมองภาพตรงหน้าตาแทบไม่กระพริบ
“ขนาดแต่งงานแล้วยังเสน่ห์แรงมีเด็กมาชอบ” ตามมาด้วยเสียงของแดเนียล
“ทั้งสวย ทั้งรวย เรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปของที่นี่เลยนะ” มาร์คยังคงพูดต่อ เผื่อว่าเพื่อนจะสนใจขึ้นมา และเขาก็สามารถที่จะช่วยได้
“….” เคย์สันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง
ตอนนี้เขายังไม่พร้อมที่จะเปิดใจ และไม่อยากจะจริงจังกับใคร แต่ถ้าจะให้คุยเล่นๆ แก้เหงาแบบเมื่อก่อน เขาก็เลิกทำไปนานแล้ว และไม่อยากจะกลับไปทำตัวแบบเดิมอีก
ฮันน่านั่งสงบสติอารมณ์ตัวเอง ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยมีผู้ชายคนไหนปฏิเสธเลยสักครั้ง ขอเบอร์ผู้ชายก็ได้ตลอดไม่เคยพลาด แต่ผู้ชายคนนี้กลับทำให้เธอเสียความมั่นใจไปในพริบตา
“สรุปว่าได้เบอร์โทรมาไหม” กวินถามขึ้น ทั้งๆ ที่ในใจรู้คำตอบเป็นอย่างดี
“ใกล้จะได้แล้ว แต่โดนเฮียมาร์คเข้ามาขัดจังหวะก่อน” ฮันน่าโกหกคำโตออกไป
“ฮ่าๆๆ” เพื่อนๆ ที่ได้ยินคำตอบต่างก็หัวเราะออกมา เพราะต่างก็รู้ความจริงกันดี
“หัวเราะทำไม!” ฮันน่าถามขึ้น คนยิ่งอารมณ์ไม่ดียังจะมาหัวเราะอีก
“ยังไงมึงก็ไม่มีวันได้เบอร์มาหรอก” กวินบอกไปตามตรง เผื่อฮันน่าจะเปลี่ยนใจแล้วยอมแพ้
“ทำไมจะไม่ได้ เป็นใครยิ่งใหญ่มาจากไหน”
“อย่าไปรู้เลย”
“บอกมา!” ฮันน่ากอดคอกวินเอาไว้แน่นด้วยความอยากรู้ โดยที่ไม่สนใจสายตาผู้คนที่อยู่ใกล้ๆ
“ไม่บอก”
“ถ้ามึงไม่บอก กูจะโทรฟ้องคุณน้าเรื่องที่มึงไม่เข้าเรียน แล้วก็ชอบจ้างเพื่อนทำรายงานให้อีก”
ฮันน่าสนิทกับกวินมาก มากจนสามารถเข้าออกบ้านกวินได้ตลอด และแม่ของกวินก็รักและเอ็นดูเธอเหมือนลูกอีกคน ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็เชื่อหมดทุกอย่าง
“โอเคกูยอมแล้ว” กวินไม่อยากฟังคุณแม่บ่นและตัดเงินเดือนจึงต้องยอมบอก
“บอกมา!” ฮันน่ายอมปล่อยให้กวินเป็นอิสระ ก่อนจะนั่งรอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ
“นั่นน่ะเพื่อนสนิทเฮียมาร์คเป็นมาเฟีย เขาแต่งงานไปเมื่อสามปีที่แล้วแต่เมียดันเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ซึ่งเรื่องนี้ก็ผ่านมาเป็นหลายปีแล้ว แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ แล้วเขาก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนสักคน”
กวินเล่าให้ฟังคร่าวๆ ตามที่ได้ยินมา ส่วนฮันน่าก็นั่งนิ่งตั้งใจฟัง
“ทางที่ดีมึงยอมแพ้ไปเลยดีกว่า” กวินเสนอทางออกที่ดีที่สุดให้
“แล้วมึงได้เบอร์มาหรือยัง” ฮันน่าถามกลับทันที
“อย่าว่าแต่เบอร์โทรเลย มันยังไม่ได้เข้าไปใกล้ด้วยซ้ำก็ถูกจับโยนออกมาก่อนแล้ว” ดีเดย์ทั้งเล่าทั้งขำเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า
“จะสู้ต่อหรือจะพอแค่นี้” ฮันน่าหันไปถามความคิดเห็นของกวิน
“กูไม่มีทางยอมแพ้อยู่แล้ว” กวินตอบด้วยความมั่นใจ
“งั้นก็มาสู้กันต่อ!”
ตามที่ฟังกวินเล่ามายิ่งทำให้ฮันน่ามีโอกาสและมีความหวังมากขึ้น ถึงจะมีเพียงอดีตภรรยาที่อยู่ในใจ แต่ในปัจจุบันเขาก็ไม่ได้มีแฟนหรือผู้หญิงคนไหน ยิ่งทำให้เธอมั่นใจยังไงเธอก็ต้องชนะอย่างแน่นอน
..
ฮันน่ามาแล้วค่าาาา