ลุ่มหลงกลิ่นนิกา 1

2222 Words
รถเก๋งสีดำคันหนึ่งแล่นอยู่บนถนนคดเคี้ยว ที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มโดยไม่ใช้ความเร็ว เนื่องจากไม่คุ้นชินกับเส้นทาง ภายในรถคันดังกล่าวมีร่างเล็กผิวขาวเนียน ใบหน้าสวยหวานรับกับดวงตากลมโต อีกทั้งปากนิดจมูกหน่อย รวม ๆ แล้วน่ารักน่าเอ็นดู นั่งอยู่ทางด้านหลังเบาะคนขับ กำลังมองบรรยากาศด้านนอกด้วยความเบิกบานใจ กับความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ที่มองทางไหนก็สดชื่นสบายตา จนไม่สามารถนั่งมองเฉย ๆ ได้ นิ้วเรียวยาวจึงลดกระจกลง แล้วยื่นหน้าออกไปรับลมทางด้านนอก นิกา ปล่อยให้สายลมเย็น ๆ หลังฝนตกกระทบใบหน้าด้วยความสุขเอ่อล้นหัวใจ ก่อนจะสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดแล้วพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “อ่า~ สดชื่นจัง” “จริง บรรยากาศดูร่มรื่นเย็นสบายมากเลยอะ” ป๊อบ เพื่อนสนิทของนิกาที่นั่งมองบรรยากาศด้านนอกได้ยินเช่นนั้นก็พูดเห็นด้วย ต่างจาก โปรด เพื่อนสนิทอีกคนที่ไม่ได้พูดอะไร เพราะตั้งใจขับรถอยู่ “ใช่ ฉันคิดไม่ผิดเลยจริง ๆ ที่เลือกมาที่นี่” ด้วยความชอบบรรยากาศที่นี่มาก นิกาจึงขอพ่อกับแม่ของเธอลงสอบครูที่จังหวัดกาญจบุรี ซึ่งพ่อแม่ของเธอก็อนุญาตเพราะเห็นว่าไม่ไกลจากกรุงเทพมาก “ว่าแต่ แกอยู่ได้จริง ๆ ใช่ไหมวะ?” เนื่องจากโรงเรียนที่นิกามาบรรจุ เป็นโรงเรียนเล็ก ๆ ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลความเจริญพอสมควร ไม่เหมือนกับเมืองกรุงที่พวกเธออาศัยอยู่ ป๊อบจึงอดเป็นห่วงนิกาไม่ได้ จึงถามเพื่อนให้แน่ใจอีกครั้ง ทว่าคนที่คิดและไตร่ตรองมาดีแล้ว ตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น... “ได้สิ แค่นี้สบายมาก” เพราะกว่าจะได้บรรจุมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แล้วทำไมเธอต้องรอหรือเลือกไม่มาที่นี่เพียงเพราะเหตุผลแค่นี้ ถึงแม้หมู่บ้าน พนาลี จะเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ทว่าไฟฟ้าก็เข้าถึง นิกาจึงมองว่าไม่เป็นปัญหา สิ้นเสียงใสใบหน้าสวยหวานก็หันกลับไปชื่นชมบรรยากาศด้านนอกอีกครั้ง หลังจากใช้เวลาเดินทางผ่านป่าเขาลำเนาไพร ไม่นานรถเก๋งก็จอดหน้าหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ที่รายล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ บรรยากาศดูร่มรื่นเย็นสบาย แม้จะมองด้วยตาเปล่าก็สัมผัสได้ ทำเอานิกาตื่นเต้นอีกทั้งประทับใจมาก ขณะคนตัวเล็กกำลังมองบรรยากาศด้านนอก พอได้ยินโปรดที่นั่งอยู่ตำแหน่งคนขับถาม “ครูแพรวบอกให้พวกเรารอที่หน้าหมู่บ้านใช่ไหมนิ?” “ใช่” สิ้นเสียงใส นิกาก็กวาดสายตามองหาแพรว ครูในพื้นที่ ที่บอกจะมารับ ไม่นานตาคู่สวยก็สะดุดกับผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังขับรถมอเตอร์ไซค์มุ่งตรงมายังเธอ นิกาจึงเดาว่าต้องเป็นครูแพรวแน่นอน เธอจึงลดกระจกรถลง ซึ่งเป็นจังหวะที่รถคันดังกล่าว ขับมาจอดเทียบข้างรถของเธอพอดี คนตัวเล็กจึงเอ่ยถาม “ใช่ครูแพรวหรือเปล่าคะ?” “ใช่ค่ะ ครูนิใช่ไหมคะ?” “ใช่ค่ะ” เมื่อได้รับการยืนยันคำตอบ นิกาก็ยกมือไหว้แพรวตามมารยาท รวมถึงเพื่อนทั้งสองของเธอด้วย หลังจากแพรวรับไหว้ป๊อบกับโปรดเรียบร้อย ก็หันกลับไปถามนิกาที่นั่งอยู่เบาะหลัง “ครูนิจะไปดูโรงเรียนก่อนไหมคะ หรือจะไปบ้านแพรวเลย?” “ไปบ้านครูแพรวเลยก็ได้ค่ะ” “ได้ค่ะ ถ้างั้นขับรถตามแพรวมานะคะ” “ค่ะ” แพรวพูดจบก็ขับรถมอเตอร์ไซค์นำทางนิกาและเพื่อน ๆ ของเธอไปยังบ้านผู้ใหญ่มั่น ซึ่งเป็นพ่อของเธอทันที เมื่อรถเก๋งแล่นผ่านซุ้มประตูที่มีป้ายชื่อหมู่บ้านติดอยู่เรียบร้อย ร่างเล็กที่นั่งอยู่เบาะหลังก็มองสำรวจภายในหมู่บ้านที่เงียบสงบ ไม่นานก็ได้ยินป๊อบเอ่ยถาม “คืนนี้เรานอนที่บ้านผู้ใหญ่ใช่ไหมแก?” “ใช่” เนื่องจากบ้านพักครูที่นิกาจะอาศัยอยู่ยังไม่ได้ทำความสะอาด ทำให้คืนนี้เธอกับเพื่อน ๆ ที่มาส่ง ต้องนอนบ้านครูแพรวก่อน แล้วพรุ่งนี้เช้าถึงจะไปทำความสะอาดบ้านพัก และรอพ่อแม่ของนิกาเอาของใช้มาให้ สิ้นเสียงเล็กป๊อบก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพราะกำลังจดจ่อกับถนนเบื้องหน้าที่เต็มไปด้วยชาวบ้าน จากนั้นก็เอ่ยถามเพื่อนทั้งสองด้วยความสงสัย “เขาทำอะไรกัน?” “ทำถนนเปล่า” เนื่องจากเห็นชาวบ้านถือจอบถือเสียมกันทุกคน โปรดจึงเดาเช่นนั้นส่วนนิกาไม่ได้แสดงความคิดเห็น เพราะกำลังมองชาวบ้านที่คล้ายกับกำลังทำพิธีบางอย่าง ด้วยความอยากรู้อยากเห็น กระทั่งตาคู่สวยสะดุดกับถาดอาหารที่มีหน้าตาแปลก ๆ รวมถึงเต่าประกอบอยู่ในนั้นตั้งวางที่พื้น นิกาจึงมองด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยเห็นที่ไหนเซ่นไหว้เจ้าที่แบบนี้มาก่อน แต่พอรถของพวกเธอแล่นผ่านจุดดังกล่าว ร่างเล็กจึงเลือกไม่สนใจ แล้วหันไปมองบรรยากาศภายในหมู่บ้านอีกครั้ง ใช้เวลาไม่นานโปรดก็เลี้ยวรถตามครูแพรว เข้าไปภายในบ้านไม้สองชั้นมีใต้ถุนหลังหนึ่ง พอเห็นผู้ใหญ่มั่นยืนรออยู่หน้าบ้าน เธอกับเพื่อน ๆ จึงรีบลงจากรถแล้วเดินไปหา จากนั้นก็ไหว้ผู้ใหญ่ด้วยท่าทีนอบน้อม “สวัสดีค่ะ / สวัสดีครับ” “สวัสดี” ผู้ใหญ่มั่นรับไหว้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และท่าทีเป็นกันเอง ทำให้นิกาและเพื่อน ๆ ของเธอผ่อนคลายไม่น้อย จากนั้นร่างเล็กก็เอ่ยบอกเจ้าของบ้านด้วยท่าทีเกรงใจ “คืนนี้พวกหนูสามคนขอพักอาศัยที่นี่หน่อยนะคะ” “เชิญตามสบายเลยครู” “ขอบคุณค่ะ” สิ้นเสียงใสบริเวณนั้นก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มของผู้ที่มาขออาศัยและผู้ให้อาศัย ก่อนจะได้ยินแพรวพูดขึ้น “ยกกระเป๋าขึ้นไปเก็บไว้บนบ้านเลยไหมคะครูนิ?” “เก็บเลยก็ได้ค่ะ” “ไปค่ะ เดี๋ยวแพรวช่วย” “ขอบคุณค่ะ” นิกาตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ขณะความรู้สึกเต็มไปด้วยความปลื้มใจ ที่เจ้าของบ้านน่ารักกับเธอและเพื่อน ๆ มาก หลังจากตกลงกันเรียบร้อย นิกาก็เดินพูดคุยกับแพรวไปยังรถเก๋ง ขณะริมฝีปากเล็กขยับพูด ตาคู่สวยก็มองชาวบ้านทั้งชายและหญิงเกือบสิบคนยืนออกันอยู่หน้าบ้าน นิกาจึงเอ่ยถามแพรวด้วยใบหน้าสงสัย “ชาวบ้านมาทำอะไรกันเหรอคะ?” แพรวได้ยินเช่นนั้นก็เบี่ยงสายตามองชาวบ้านครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตอบนิกาด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ “อ๋อ เขามาดูครูนิค่ะ” “หา! มาดูนิเหรอคะ?” คนตัวเล็กได้ยินเช่นนั้นก็ถามย้ำด้วยท่าทีตกใจ เพราะไม่เข้าใจว่าชาวบ้านจะมาดูหน้าเธอทำไม เธอไม่ใช่ดาราสักหน่อย “ใช่ค่ะ เป็นเรื่องปกติของชาวบ้าน หากมีคนต่างถิ่นเข้ามาในหมู่บ้านก็จะตื่นเต้นหน่อย” “ตกใจหมดเลยค่ะ นิก็ว่านิไม่ใช่ดาราสักหน่อย ชาวบ้านจะอยากเห็นหน้าทำไม” “ถึงไม่ใช่ดารา แต่สวยเหมือนดาราเลยนะคะ” “บ้า~ ครูแพรวก็พูดเกินไป นิไม่ได้สวยขนาดนั้น” คนที่ถูกชมถึงกับไปไม่เป็น ยืนบิดเขินอาย ยิ้มจนแก้มจะแตก “แพรวพูดจริง ๆ ค่ะ ไม่เชื่อคอยดู หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มารุมจีบครูนิแน่” “ไม่มีหรอกค่ะ” นิกาตอบด้วยท่าทีเคอะเขิน ก่อนจะเอื้อมมือไปรับกระเป๋าลากใบใหญ่และกระเป๋าเป้จากโปรด แพรวจึงรีบเข้าไปช่วย เมื่อเห็นโปรดกับป๊อบเอากระเป๋าลงจากรถเรียบร้อย นิกาจึงพยักหน้าให้ จากนั้นก็เดินพูดคุยกับแพรวไปยังบ้านไม้สองชั้น “ที่นี่อากาศดีมากเลยค่ะ” “ใช่ค่ะ ไม่ว่าจะฤดูไหนที่นี่ก็ไม่ร้อนเลย” เพราะหมู่บ้านปกคลุมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่อีกทั้งยังติดเขา ทำให้อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี “ดีจังเลยค่ะ” “ที่นี่ไม่ใช่แค่อากาศดีนะคะ ชาวบ้านก็น่ารัก เด็ก ๆ ก็ว่านอนสอนง่ายมาก” “ครูแพรวพูดแบบนี้ นิอยากให้ถึงวันจันทร์เร็ว ๆ เลยค่ะ” เนื่องจากเป็นวันแรกที่เธอจะได้สอนเด็ก ๆ อนุบาล ทำเอานิกาตื่นเต้นไม่น้อย “อีกสองวันก็ถึงแล้วค่ะ” หลังจากเดินพูดคุยกันกระทั่งถึงบนชั้นสองของบ้าน นิกาก็กวาดสายตามองทั่วทั้งชั้นที่มีเพียงสองห้องนอน ไม่นานตาคู่สวยก็สะดุดกับเสาไม้ต้นหนึ่งที่ล้อมรอบด้วยผ้าสีตั้งอยู่บนบ้าน ก็มองนิ่ง ๆ ขณะภายในใจนั้นวูบหวั่นไม่น้อย เพราะไม่เคยเห็นแบบนี้ที่ไหนมาก่อน ทว่าก็พยายามไม่คิดอะไร ก่อนจะมองเลยเสาต้นดังกล่าวไปยังฝาบ้าน ที่มีรูปบรรพบุรุษของเจ้าของบ้านติดอยู่ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ จากนั้นนิกาก็เลือกไม่สนใจเดินเอากระเป๋าไปวางข้างที่นอน ที่มีมุ้งสองหลังกางอยู่ ในขณะที่เพื่อนสองคนของเธอเดินตามมาติด ๆ เมื่อทั้งสามวางกระเป๋าเรียบร้อย แพรวก็เอ่ยถามแขกที่มาขออาศัยด้วยใบหน้าเป็นกังวล “พอจะนอนกันได้ไหมคะ?” “ได้ค่ะ” นิกาได้ยินเช่นนั้นจึงรีบตอบกลับเพื่อให้เจ้าของบ้านคลายกังวล แม้บ้านของอีกคนจะไม่ได้ใหญ่โต แต่ก็สะอาดสะอ้านและน่าอยู่มาก เช่นเดียวกับป๊อบและโปรด “สบายมากค่ะ ครูแพรวไม่ต้องกังวลนะคะ” “ใช่ครับ นอนเต็นท์ลำบากกว่านี้พวกเราก็นอนมาแล้ว” สิ้นคำพูดของทั้งสามก็ทำเอาแพรวคลายกังวล จากคราแรกที่กลัวคนกรุงอย่างทั้งสามจะนอนไม่ได้ แพรวยืนมองนิกาและเพื่อน ๆ ของเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่พอนึกถึงเรื่องสำคัญได้ ก็รีบเอ่ยบอกทั้งสามคนด้วยใบหน้าและน้ำเสียงจริงจัง “คืนนี้นอนแยกชายหญิงก่อนนะคะ” “ทำไมเหรอคะ?” ป๊อบได้ยินเช่นนั้นก็รีบถามในสิ่งที่เธอไม่เข้าใจ เช่นเดียวกับนิกาและโปรดทว่าทั้งสองไม่ได้ถามอะไร เพียงแต่นั่งรอฟังคำตอบเงียบ ๆ “เป็นความเชื่อของทางตระกูลแพรวน่ะค่ะ” “อ๋อ ได้ค่ะ” แม้คำตอบที่ได้ยินจะยังไม่กระจ่าง ทว่าทั้งสามก็ไม่กล้ารบเร้าต่อ จึงตอบรับทราบกลับเพื่อให้เจ้าของบ้านไม่กังวลใจ ทั้งที่ภายในใจของทุกคนยังเต็มไปด้วยความสงสัย “ทานข้าวกันมาหรือยังคะ ถ้าหิวลงไปทานในครัวได้เลยนะคะ แพรวทำกับข้าวไว้ให้แล้ว” “ขอบคุณค่ะ” “งั้นเชิญตามสบายนะคะ ขาดเหลืออะไรบอกได้เลยนะคะไม่ต้องเกรงใจ” เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แพรวก็ลงไปข้างล่างเพื่อให้นิกาและเพื่อน ๆ ของเธอทำธุระส่วนตัว… พอบนชั้นสองของบ้านเหลือเพียงพวกเธอสามคน ป๊อบจึงพูดถึงเรื่องเมื่อครู่ด้วยใบหน้าเซ็ง ๆ “ความเชื่ออะไรวะ? ห้ามผู้หญิงกับผู้ชายนอนด้วยกัน” “เกิดมาเค้าก็พึ่งเคยได้ยินเหมือนกัน” เช่นเดียวกับโปรดเมื่อรู้ว่าคืนนี้จะไม่ได้นอนกับคนรักของตัวเอง “ใช่ไหม งั้นคืนนี้เค้าก็อดนอนกับตัวเองน่ะสิ” “นั่นสิ ทำไงเค้าอยากนอนกับตัวเองจังเลย” “เค้าก็อยากนอนกับตัวเองเหมือนกัน” ทางด้านนิกาที่นั่งจัดกระเป๋าให้เข้าที่เข้าทาง พอได้ยินป๊อบกับโปรดนั่งคุยกันงุ้งงิ้งก็ถึงกับกลอกตามองบน ก่อนจะพูดเตือนเพื่อนทั้งสอง “ก็มันเป็นความเชื่อของเขา พวกแกนอนแยก ๆ กันสักวันคงไม่เป็นอะไรหรอก”เนื่องจากมาขออาศัยบ้านเขาหลับนอน เธอจึงไม่อยากมีปัญหา ทางด้านป๊อบได้ยินเช่นนั้นก็ตอบกลับไปด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “ฉันรู้แล้ว” จากนั้นทั้งสามก็แยกย้ายจัดแจงสัมภาระของตัวเองให้เรียบร้อย โดยคืนนี้นิกากับป๊อบนอนด้วยกัน ส่วนโปรดนอนอีกมุ้งที่อยู่ข้าง ๆ หลังจากเก็บสัมภาระเรียบร้อยก็นั่งพักให้หายเหนื่อย กระทั่งช่วงเย็นทั้งสามก็ลงไปข้างล่าง เพื่อจะไปขับรถเล่นภายในหมู่บ้าน แต่พอผู้ใหญ่มั่นรับรู้ว่าทั้งสามจะไปขับรถเล่น จึงแนะนำให้พวกเธอปั่นจักรยานแทน เพราะจะได้สัมผัสกับบรรยากาศมากกว่า เมื่อนิกากับเพื่อน ๆ ได้ยินเช่นนั้นก็ตกลงตามคำแนะนำของผู้ใหญ่มั่น หลังจากคร่อมจักรยานเรียบร้อย นิกาก็หันมองป๊อบที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานของโปรด จากนั้นก็เอ่ยถามเพื่อนทั้งสอง “ไปยัง?” “ไปเลย” สิ้นเสียงโปรด รถจักรยานสองคันก็แล่นเคียงคู่ออกจากบ้านไม้ จากนั้นก็วิ่งเลาะถนนของหมู่บ้านไปเรื่อย ๆ ...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD