ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
เสียงสัญญาณที่ตัดไปเพราะปลายสายไม่รับทำให้เซลีนรู้สึกกระวนกระวายใจจนแทบคลั่งเธอสั่งให้บอดี้การ์ดออกตามหาแป้งหอมทั่วทั้งผับแต่กลับไร้เงาของเพื่อนสนิทที่ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนเธอเป็นห่วงแป้งหอมจนใกล้จะบ้าตายอยู่แล้วเพื่อน
“เฮีย บอกซีนมาเดี๋ยวนี้นะว่าทำไมอยู่ ๆแป้งถึงหายไป ?” เซลีนที่พยายามหาสาเหตุที่ทำให้เพื่อนสนิทหายตัวไปคล้ายคิดบางอย่างขึ้นมาได้ดวงคู่สวยจึงหันมามองลูกพี่ลูกน้องของตนเองที่กำลังยืนสูบบุหรี่ปล่อยควันให้ลอยไปตามสายลมด้วยแววตาคาดคั้น
“เฮียจะไปรู้ได้ไงแป้งแค่บอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำหลังจากนั้นก็หายไปเลย เฮียพยายามตามหาทุกที่ที่คิดว่าแป้งจะไปแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา” เซนต์เอ่ยตอบน้องสาวด้วยสีหน้าราบเรียบไร้ซึ่งความละอายใจพร้อมมองสบสายตาเซลีนอย่างไม่เกรงกลัว
“เฮียแน่ใจนะว่าไม่ได้เป็นต้นเหตุทำให้แป้งหายตัวไป ?”
เซลีนหรี่ตามองพี่ชายตนเองเพื่อจับผิดโซนวีวีไอพีเต็มไปด้วยบอดี้การ์ดของเธอส่วนแป้งหอมอยู่ภายใต้การดูแลของเซนต์ตลอดเวลาหูตาของเธอมากมายขนาดนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครกล้ามายุ่งวุ่นวายและพาตัวแป้งหอมไปนอกเสียจากคนข้างในที่ทำให้เพื่อนของเธอรู้สึกไม่ปลอดภัยซึ่งก็มีแค่พี่ชายของเธอคนนี้กับเพื่อนของเฮียฟอร์ดที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ใกล้ ๆกันส่วนเพื่อน ๆในห้องของเธอที่มีแต่ผู้หญิงนั้นความน่าจะเป็นที่ทำให้แป้งหอมรู้สึกอึดอัดหรือลำบากใจแทบไม่มีเลยเพราะทุกคนรู้จักกันดีถึงจะแค่ผิวเผินแต่เธอมั่นใจว่าไม่มีใครกล้ากลั่นแกล้งเพื่อนของเธอแน่นอน
“แทนที่เราจะมานั่งจับผิดเฮียทำไมถึงไม่ถามตัวเองบ้างล่ะ ? ว่าทำไมถึงได้ทิ้งเพื่อนเอาไว้แล้วหนีไปมีความสุขกับแฟนตั้งนานสองนานจนเพื่อนหายไปไหนก็ไม่รู้”
“เฮียเซนต์ !”
เซลีนขึ้นเสียงเรียกชื่อพี่ชายด้วยความเดือดดาลจนตัวสั่นระริกในขณะที่เซนต์ยกยิ้มมุมปากอย่างนึกดูแคลนน้องสาวที่เอาแต่โยนความผิดมาให้เขาถึงแม้ว่าจะเป็นความจริงที่แป้งหอมหายตัวไปเพราะเขาแต่แล้วอย่างไรล่ะเรื่องนี้คนที่ผิดตั้งแต่ต้นคือเซลีนต่างหากที่เห็นแก่ตัวคิดถึงแต่ความสุขของตัวเองโดยที่ไม่สนใจเพื่อนเลยสักนิดเพราะถ้าหากว่าเซลีนอยู่ด้วยกันตั้งต้นจนจบเขาก็คงไม่คิดที่จะทำแบบนั้นกับแป้งหอม
“ทำไม ? หรือที่เฮียพูดมันไม่จริงพาเพื่อนมาเที่ยวสถานบันเทิงทั้งทีแต่ตัวเองกลับเอาแต่ขลุกอยู่กับแฟนแล้วทิ้งเพื่อนไว้กับพี่นี่มันเพื่อนสนิทแบบไหนกันซีนช่วยบอกพี่ทีสิ ?”
เซนต์เอ่ยถามพร้อมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่มีหยดน้ำคลออยู่ด้วยแววตาลึกล้ำคมปลาบท่าทีของเขาที่เปลี่ยนเป็นฝ่ายมาคาดคั้นเซลีนบ้างทำให้เธอได้เบือนหน้าหนีด้วยความรู้สึกละอายใจเพราะสิ่งที่พี่ชายของเธอพูดนั้นไม่ผิดเลยสักนิดเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าเธอไม่ทิ้งเพื่อนแล้วหนีไปมีความสุขอยู่คนเดียว
“ซีนจะโทรบอกป๊า” เซลีนเอ่ยบอกเซนต์ที่ยื่นมือมาแย่งมือถือไปจากเธอทันที
“เฮียเซนต์ !” เซลีนขึ้นเสียงตะคอกใส่เซนต์อีกครั้งด้วยความโมโห
“อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ?” เซนต์เลิกคิ้วถามเซลีนที่เม้มปากแน่นจนเป็นเส้นตรงด้วยความลังเลถ้าไม่โทรบอกบิดาแล้วจะให้เธอทำอย่างไรในเมื่อเธอให้คนค้นหาแป้งหอมจนทั่วผับแล้วก็ยังไม่เจอ
“แล้วเฮียจะให้ซีนทำไง ? คนของเราหาจนทั่วแล้วก็ยังไม่เจอ” ในขณะที่พูดเซลีนก็พยายามที่จะแย่งมือถือคืนมา
“รอไปก่อนบางทีแป้งอาจจะติดต่อกลับมาก็ได้” น้ำเสียงราบเรียบที่ไร้วี่แววร้อนใจของเซนต์ทำให้เซลีนผลักหน้าอกเขาอย่างแรงด้วยความโมโห
“รอเหี้ยอะไรอีกล่ะเฮีย ? นี่แป้งหายไปสองชั่วโมงแล้วนะ” เซลีนแผดเสียงใส่พี่ชายด้วยความฉุนเฉียวกับคำแนะนำที่ดูเหมือนคนใจเย็นของเขา
“ถ้างั้นเอาไปโทรไปบอกคุณลุงเลยว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วช่วยเล่าให้หมดด้วยนะว่าสาเหตุที่แป้งหายไปมันเป็นเพราะใคร” เซนต์ยื่นมือถือคืนให้เซลีนพร้อมจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างท้าทายในขณะที่เซลีนถึงกับได้แต่ยืนนิ่งราวกับรูปปั้นเมื่อถูกเซนต์พูดจี้ใจดำ
“ถ้าไม่โทรก็มานี่” เมื่อเห็นว่าเซลีนเอาแต่ยืนนิ่งจ้องมือถือที่เขายื่นให้ด้วยความลังเลใจเซนต์จึงตัดสินใจคว้าข้อมือน้องสาวแล้วลากกลับเข้ามาภายในงานคืนทันที
ห้องพักนักดนตรี
“ไงไอ้เหี้ยเฮียรับสายไหมวะมึง ?” ไฟเอ่ยถามทันทีที่เห็นจีนเดินเข้ามาภายในห้องหลังจากที่เธอบอกว่าจะลองออกไปโทรหาเฮียภาคย์ดูอีกครั้งหลังจากที่พวกเขาทั้งสองคนกระหน่ำโทรหาจนเกือบร้อยสายแล้ว
“ไม่รู้ไปตายอยู่ที่ไหนแล้วอย่าให้กูรู้นะว่าหนีไปเยสาวกูจะเล่นแม่งให้น่วมไปทั้งตัวเลย” จีนคาดโทษภาคย์ด้วยความโมโหใบหน้าจิ้มลิ้มแดงก่ำเต็มไปด้วยโทสะ
ครืด ครืด ครืด
เพิ่งจะเอ่ยจบมือถือที่อยู่ในมือก็พลันสั่นขึ้นทันทีจีนรีบพลิกหน้าจอขึ้นมาดูด้วยความรวดเร็วเมื่อเห็นว่าใครที่โทรเข้ามาเธอไม่รอช้ากดรับพร้อมตะโกนใส่ปลายสายทันทีด้วยความโมโห
จีน : ไอ้เหี้ยเฮียมึงไปมุดหัวอยู่ที่ไหนบอกกูมาเดี๋ยวนี้นะมึงรู้ไหมว่ากว่าพวกกูจะหามือกีตาร์มาแทนมึงได้เล่นเอาวุ่นวายกันไปทั้งผับอยู่ ๆคิดจะหายตัวไปก็ไปเลยปากน่ะมีไหมรู้จักบอกกันสักคำสิเวลาจะไปไหนอะ ?
ภาคย์เอามือถือที่แนบหูอยู่ออกแทบไม่ทันเมื่อจีนตะโกนใส่เขาทันทีที่กดรับสายใบหน้าหล่อเหลาไร้ซึ่งความละอายแก่ใจก่อนจะเหลือบมองเด็กสาวที่กำลังหลับสนิทอยู่ในอ้อมกอดเขาพลางหลุดยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
ภาคย์ : มึงจะแหกปากเพื่อ ? กูไม่ได้หูหนวกสักหน่อย
จีน : อ้าวไอ้พี่เวร ! เสียงกูโกรธขนาดนี้มึงฟังไม่ออก ?
ภาคย์ : อืม ไม่ออก
จีน : อ้าวไอ้นี่พูดแบบนี้มึงมาต่อยกับกูเลยเฮียโผล่หัวออกมา
จีนตะโกนใส่มือถืออีกครั้งด้วยความโมโหทั้ง ๆที่มีความผิดติดตัวแต่ก็ยังจะยั่วโมโหเธอไม่หยุด
“เอาล่ะ พอ ๆ ๆ มานี่กูคุยเอง” สิงห์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆรีบแย่งมือถือมาจากจีนทันทีขืนให้เธอคุยต่อคงไม่มีทางรู้เรื่อง
สิงห์ : มึงหายไปไหนของมึงเฮีย ?
ภาคย์ : พอดีมีธุระด่วนนิดหน่อยน่ะ
สิงห์ : ด่วนแค่ไหนมึงก็ควรจะบอกพวกกูก่อนออกไปปะเฮียเล่นหายตัวไปแบบนี้กูไม่โอเคเลย
สิงห์ตอบภาคย์กลับไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงชัดถึงความไม่พอใจเพราะอย่างน้อยๆก่อนที่ภาคย์จะออกไปก็ควรบอกพวกเขาทั้งสามคนให้รับรู้ไม่ใช่อยู่ ๆก็หายตัวไปเฉย ๆแบบนี้คิดถึงว่าถ้าวงพวกเขาไม่มีไอ้ตามเพื่อนในคณะที่เขาไปขอร้องให้มาช่วยเล่นกีตาร์งานนี้คงต้องจ่ายค่าปรับแทนค่าตัวบานเลยแหละ
ภาคย์ : อืม ต้องขอโทษพวกมึงด้วยแล้วกันที่ทิ้งงานกลางคันต่อไปจะไม่มีอีกแล้ว
ภาคย์เอ่ยขอโทษออกมาจากใจเพราะเขารู้ดีว่าเด็กทั้งสามคนต้องวิ่งไปหาคนมาช่วยเล่นกีตาร์แทนเขาด้วยความยากลำบากแค่ไหนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านนอกถูกลูกน้องของเขาที่แอบจับตามองอยู่ในมุมมืดรายงานให้เขาได้รู้ตั้งแต่สิบนาทีก่อนแล้ว
ไฟ : ว่าธุระอะไรของมึงวะเฮียอยู่ ๆก็หายหัวไปแบบนี้
ไฟที่แย่งมือถือมาจากสิงห์เอ่ยถามปลายสายด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ภาคย์ : ไม่เสือกสิเหี้ยไฟ
ไฟ : ก็กูอยากเสือกอะครับ
นอกจากจะไม่สลดเพราะถูกด่าไฟยังโต้ปลายสายกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้อีกด้วย
ภาคย์ : เรื่องส่วนตัวที่แบบว่าส่วนตัวมาก ๆ น่ะหายเสือกได้ยัง ?
ไฟ : สักนิดก็ไม่ได้ ?
ภาคย์ : ถ้ามึงถามต่อรับรองได้แดกตีนกูแทนข้าวแน่
ไฟ : มึงนี่ก็ใจร้ายนะเฮียกูแค่อยากใส่ใจจำเป็นต้องเสิร์ฟตีนกูด้วยหรือไง ?
ภาคย์ : หยุดพล่ามได้แล้วกูขี้เกียจฟังขอคุยกับไอ้จีนมันหน่อย
ไฟด่าปลายสายไม่ออกเสียงไปสองสามประโยคก่อนจะยื่นมือถือคืนให้จีนด้วยความไม่เต็มใจ
“เอาไปเฮียขอคุยกับมึง” จีนรับมือถือมาจากไฟก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับโทสะที่กำลังสูงปรี๊ดให้สงบลง
จีน : จะพูดอะไรก็พูดมาแต่กูบอกมึงไว้ก่อนเลยนะเฮียว่าถ้ามึงกลับมากูจะตีให้น่วมเลย
ภาคย์ : Fender รุ่นที่มึงอยากได้กูซื้อให้แทนคำขอโทษแล้วกัน
จีน O_O โทสะที่คุกรุ่นพลันหายวับไปในชั่วพริบตารอยยิ้มหวานหยดพลันปรากฏอยู่บนใบหน้าแทนที่ทำเอาสิงห์กับไฟได้แต่มองหน้ากันด้วยความงุนงงเมื่ออารมณ์ของจีนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันคนที่กำลังโมโหจนแยกเขี้ยวยิงฟันหายไปไหนแล้วนะ
จีน : อุ้ยตาย !แล้วเฮียจ๋าเฮียคนดีของจีนมีอะไรให้จีนรับใช้พูดมาได้เลยจีนพร้อมเสมอ
น้ำเสียงหวานหยดของจีนทำให้สิงห์กับไฟถึงกับขนลุกพรึบด้วยความตกตะลึงนี่มันเป็นการเปลี่ยนอารมณ์แบบไหนกัน ? ทำไมมันช่าง...จากหน้ามือเป็นหลังเท้าแบบนี้
ภาคย์ : มีชุดสำรองที่ยังไม่ได้ใส่บ้างไหม ? ขอตัวที่เรียบร้อยที่สุด
จีน : ไอ้เหี้... โอ๊ะ ไม่ใช่ ๆ มีน่ะมีอยู่ว่าแต่เฮียจะเอาไปให้ใครนี่มึงอย่าบอกนะว่า...
สิงห์ & ไฟ O_O ว่าอะไรรีบพูดเร็ว ๆสิพูดมาพวกเขาอยากรู้จะแย่อยู่แล้ว
ภาคย์ : อืม นั้นแหละพอดีชุดน้องเขาเปียกน่ะ
จีน : นั่นไงกูว่าแล้วไงไอ้เหี้ยเฮียหายหัวไปก...
ภาคย์ : เรื่องเบสของ Fender ถือว่ากูไม่ได้พูดแล้วกัน
จีน : โอ๊ะ ! เฮียจ๋าเฮียของจีนอย่าเพิ่งงอนกันสิโอเค ๆ ไม่ด่าแล้วว่าแต่อยู่ไหนเดี๋ยวจีนเอาไปให้
ภาคย์ : ห้องส่วนตัวน่ะ
จีน : รับทราบครับผมไม่เกิน 10 นาทีรอจีนได้เลย
จีนกดตัดสายทันทีที่พูดจบก่อนที่เธอจะหันหลังวิ่งออกไปจากห้องพักนักดนตรีท่ามกลางสายตาที่มองตามมาด้วยความงุนงงของสิงห์กับไฟ
“สองคนนี้คุยกันเรื่องอะไรวะทำไมไอ้จีนมันถึงได้หายโกรธไวขนาดนี้ ?” ไฟหันไปถามสิงห์พร้อมยกมือขึ้นลูบคางราวกับกำลังใช้ความคิด
“มึงไม่รู้แล้วคิดว่ากูรู้หรือไง” สิงห์ใช้สายตามองคนโง่มองไฟก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องพักอีกคนทิ้งให้ไฟได้แต่ยกมือขึ้นเกาหัวด้วยความงุนงง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องที่จงใจลงน้ำหนักมือจนทำให้เกิดเสียงดังลั่นไปทั่วบริเวณทำให้แป้งหอมที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่ในอ้อมกอดของภาคย์ค่อย ๆลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงียส่วนภาคย์เองก็ไม่รอช้ารีบกระโดดลงจากเตียงไปเปิดประตูห้องให้จีนทันทีด้วยความรำคาญ
แกร๊ก
แอด
“เคาะเบา ๆมันจะตายหรือไง ?” ภาคย์ส่งเสียงดุจีนที่พยายามยื่นหน้ามองเข้าไปในห้องด้วยความอยากรู้อยากเห็นแต่ก็เห็นเพียงเส้นผมดำขลับก่อนที่ภาคย์จะรีบขยับตัวเข้ามาบังสายตาของจีนเอาไว้ต่อให้เป็นผู้หญิงด้วยกันเขาก็ไม่อยากให้ใครเห็นสาวน้อยที่กำลังลืมตาแป๋วจ้องมองมาที่เขาทั้งนั้น
“มึงนี่ก็เหี้ยนะเฮียทิ้งงานมาเ...”
หมับ
จีนยังเอ่ยไม่ทันจบมือใหญ่ของภาคย์ก็ตะปบปิดปากของเธอเอาไว้ทันที
“ขืนมึงยังพูดต่ออีกสองสามคำเรื่องที่ตกลงกันไว้ถือว่าเป็นโมฆะ” ทันทีที่ได้ยินว่าเบสตัวใหม่กำลังจะกลายเป็นโมฆะจีนก็พลันส่ายหน้าไปมาภายใต้ฝ่ามือใหญ่ของภาคย์จนเส้นผมสะบัด
“หุบปากได้ยัง ?” จีนพยักหน้ารับอย่างแข็งขันทันที
“อะนี่เอาไปแล้วมีอะไรให้ช่วยอีกไหม ?” เพื่อเบสตัวใหม่แล้ววันนี้จีนยอมทุ่มสุดตัวจะให้เป็นเบ๊คอยวิ่งรับใช้จีนก็จะไม่บ่นสักคำ
“ไม่มีแ...ไม่รู้เหมือนกันเอาเป็นว่าถ้ามีจะโทรหาแล้วกัน”
“โอเค งั้นจีนไปล่ะ”
“อืม”
ภาคย์ครางรับเสียงเบาก่อนที่จีนจะหันหลังเดินจากไปทันทีส่วนเขาก็ค่อย ๆปิดประตูอย่างแผ่วเบาก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้ากับสาวน้อยหน้าใสที่ตอนนี้สติค่อย ๆกลับคืนมาเกือบเต็มร้อยเมื่อฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กซ์ถูกกำจัดออกไปจนหลงเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยแป้งหอมมองใบหน้าหล่อเหลาที่เหมือนไม่มีอยู่จริงของคนตรงหน้าก่อนที่เธอจะก้มหน้างุดด้วยความเขินอายระคนรู้สึกผิดหวังกับตนเองที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความผิดของเขาคนที่อยู่ตรงหน้าแต่เป็นความผิดของเธอคนเดียวเท่านั้น