“โอ้ย!! นี่ฉันเจ็บนะ”
ในขณะที่เธอร้องเจ็บ กลับไม่มีใครสนใจฟังเสียงของเธอเลยสักคน
”ไปไหนครับนาย”
ดินเอ่ยถามผู้เป็นนาย เสียงของเขาเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความละมุนในน้ำเสียง เมื่อครั้งที่เขาพูดกับผู้เป็นนาย
“คอนโด”
เขาพูดเพียงเท่านั้น ก่อนจะเอนตัวพิงเบาะรถอย่างสบายใจ พลางยกขาขึ้นไขว่ห้างอย่างไม่รีบร้อน
“ครับ”
หลังจากสิ้นเสียงตอบรับ รถหรูคันนั้นก็เร่งเครื่องขึ้นสู่ถนนหลัก มุ่งหน้าไปยังคอนโดหรูใจกลางเมือง สถานที่ที่เขามีไว้สำหรับพักผ่อนอย่างสบายอารมณ์เท่านั้น
“คุณจะพาฉันไปไหนกันแน่ ถ้าแค่นอนกับคุณนอนที่ห้องฉันก็ได้ ไม่เห็นต้องพาฉันออกมาข้างนอกแบบนี้เลย บอกฉันมาดีกว่าว่าคุณคิดจะพาฉันไปไหน"
ใบหน้าสวยหันมามองเจ้าหนี้ เธอกำมือเล็กของตัวเองไว้แน่น ราวกับจะดึงเอาความกล้าทั้งหมดที่เหลืออยู่ขึ้นมาเผชิญหน้ากับเขา
“………“
เจ้าหนี้ยังคงนั่งนิ่ง ไม่แม้แต่จะขยับหรือหันมามอง แถมยังทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินเสียงของเธอเลยสักคำ
“นี่นายจะพาฉันไปไหน”
เมื่อนายใหญ่ไม่ยอมตอบ เกวลินจึงขยับตัวไปด้านหน้า เอ่ยถามดินที่กำลังนั่งขับรถอยู่หลังพวงมาลัยแทน
“………”
แต่ดินก็ไม่ยอมตอบเช่นกัน เขาเอาแต่นั่งนิ่ง สายตาจับจ้องไปยังถนนเบื้องหน้าอย่างไม่เหลือบมองเธอแม้แต่น้อย ราวกับไม่ได้ยินคำถามของเธอเลย
"นี่ทุกคนไม่ได้ยินฉันบ้างเลยหรือยังไง"
เกวลินหันมองเจ้าหนี้กับดินที่นั่งขับรถ สายตามองสลับไปมาระหว่างทั้งสองด้วยความหวาดระแวง
รถหรูสีดำเงาวับแล่นเข้าสู่คอนโดหรูใจกลางเมือง ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปจอดในพื้นที่จอดรถ VIP ที่จัดไว้สำหรับรถคันนี้เท่านั้น
“ถึงแล้วครับ”
ทันทีที่รถจอดสนิท เสียงของดินก็ดังขึ้นทำลายความเงียบลง
“มานี่"
เธอยังไม่ทันตั้งตัวดี แขนเล็กถูกมือหนาคว้าแล้วดึงกระชากลงจากรถทันที ที่ประตูถูกเปิดโดยลูกน้องคนสนิท ความเร็วและแรงของการกระทำนั้นทำให้เธอแทบตั้งตัวไม่ทัน
“ปะ ไปไหน”
ดวงตากลมโตทอดมองตึกสูงเสียดฟ้า ก่อนจะค่อยๆกวาดสายตาไปรอบๆด้วยความลังเล เธอไม่แน่ใจว่าการตัดสินใจเลือกมานอนกับเขานั้นถูกต้องหรือผิด แต่ทางเลือกที่เขาให้มากับไม่ใช่ทางเลือกจริงๆ ทุกอย่างดูเหมือนเป็นข้อบังคับที่เธอไม่มีทางเลี่ยง ถ้าเธอเลือกอีกทางหนึ่งก็คงต้องตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเงินสองล้านบาทที่จะต้องหาให้ได้ภายในพรุ่งนี้นั้น เป็นไปได้ยากเกินกว่าที่จะทำได้จริง
"นี่ฉันเจ็บนะปล่อย ฉันเดินเองได้"
เกวลินกระชากแขนออกจากมือหนานั้นอย่างแรง สายตาของเธอเปล่งประกายความแข็งกร้าว
“จะลงดีๆหรือจะให้กระชากแรงกว่านี้"
ครามไม่ได้แค่ขู่ เขาก้มตัวลงคว้าแขนเธออีกครั้งอย่างรวดเร็ว รากล่างบางรอยเหนือเบาะมาหยุดอยู่ที่ริมเบาะ จนเกวลินแทบเสียหลักตกจากรถ
”กรี๊ดดดดดด!!“
เสียงกรี๊ดแหลมดังลั่นเมื่อร่างเธอถูกกระชากจนลอยละลิ่ว ดวงตากลมโตปิดแน่นด้วยความหวาดกลัว ใจคิดว่าคราวนี้ต้องตกรถแน่ๆ แต่โชคยังเข้าข้างเมื่อเขาหยุดแรงดึงในจังหวะสุดท้าย หัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำราวกับหลุดออกมาอยู่ที่ตาตุ่ม เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาต้องรุนแรงกับเธอถึงขนาดนี้
”ฉันไม่ชอบคนลีลา ถ้าเต็มใจก็มา ถ้าไม่เต็มใจก็กลับไป ฉันไม่เคยชอบบังคับใครอยู่แล้ว“
น้ำเสียงของเขาฟังดูเหมือนจะเปิดโอกาสให้เธอตัดสินใจเอง แต่แท้จริงแล้วกับแฝงความไม่พอใจและหงุดหงิด ที่เห็นเธอเอาแต่เล่นตัว ทั้งที่ทุกอย่างได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว
“คุณไม่ได้พาฉันมาฆ่าเพราะเงินนั่นใช่ไหม”
“หึ!!”
“เธอโง่หรือเปล่า”
คำพูดของเขาทำให้เธอสะอึกไปเล็กน้อย ไม่ใช่คำด่าตรงๆแต่เป็นคำถามที่บาดลึกจนคนฟังเจ็บ เกวลินสูดหายใจลึกดึงสติของตัวเองกลับมา ก่อนจะเอ่ยถามต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย
“ฉันอยากรู้ว่าคุณไม่ได้หลอกฉันมาฆ่าใช่ไหม”
“กลัวมากก็กลับไปซะ อย่ามายืนพูดจาปัญญาอ่อนอยู่ตรงนี้ให้ฉันรำคาญ"
พูดจบเขาก็ก้าวขาเดินตรงไปยังตึกสูงทันที โดยไม่แม้แต่จะหันกลับมาสนใจ ว่าเธอจะยอมตามมาด้วยหรือไม่
“นี่นาย!!”
ร่างบางรีบก้าวลงจากรถก่อนจะเดินตามหลังเขาอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ในใจจะเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่เธอก็ยังพยายามฮึดสู้ ทำใจกล้าเหมือนเสือที่ไม่ยอมถอย
ร่างบางเดินตามหลังเขาไปเงียบๆ ใจพลางคิดปลอบตัวเองว่าเขาคงไม่กล้าฆ่าเธอหรอก อย่างมากก็คงแค่ทำตามที่ตกลงกันไว้ แค่นอนด้วยกันเท่านั้นเอง
ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก กลิ่นหอมอ่อนๆจากเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบก็ลอยมาแตะปลายจมูกของเธอ ไม่ใช่กลิ่นอับชื้นเหมือนที่เธอคาดไว้ แต่เป็นกลิ่นหอมแปลกตา หอมละมุนแบบที่เธอไม่เคยได้กลิ่นจากที่ไหนมาก่อน
คอนโดแห่งนี้ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของตึกใจกลางเมือง แสงไฟยามค่ำคืนของกรุงเทพฯ ส่องสว่างลอดผ่านกระจกบานสูง เผยให้เห็นวิวเมืองที่กว้างไกลและงดงาม จนให้ความรู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด
ทุกอย่างภายในห้องดูแพงหรูหรา การตกแต่งโทนสีดำเทาเข้มดูคลาสสิค แต่ก็แฝงไปด้วยความน่ากลัว เหมือนสะท้อนตัวตนของเจ้าของห้องได้อย่างชัดเจน
เกวลินก้าวเท้าเข้าไปอย่างช้าๆ พร้อมกับกวาดสายตาสำรวจทุกมุมของห้อง เธอไม่ได้กลัวที่จะอยู่สองต่อสองกับเขา แต่กลัวว่าเขาอาจจะหลอกเธอมาเพื่อลงมือทำร้ายมากกว่า
”เข้ามาสิ“
เสียงของเขาดึงสติของเธอให้กลับมา
”ห้องคุณหรอ“
เธอเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าทุกอย่างดูสะอาดเรียบร้อย จนแทบไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือห้องของผู้ชายที่น่าดุอย่างเขา
แต่ก็คงไม่แปลกอะไร เพราะคนมีเงินอย่างเขาคงจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดวันละสามรอบก็ยังได้ เงินแค่นี้ขนหน้าแข้งของเขาคงไม่ร่วงหรอก
“หึ!!”
เขาไม่ได้ตอบอะไร แค่เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเนื้อดี แล้วโยนมาให้เธออย่างไม่ใส่ใจ
เกวลินก้มเก็บผ้าเช็ดตัวที่ตกอยู่บนพื้น หลังจากที่เขาโยนมาให้โดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว
ครามเดินไปหยิบขวดวิสกี้ราคาแพงจากเคาน์เตอร์ ก่อนจะเทลงในแก้วใบหนาอย่างช้าๆด้วยท่าทางไม่รีบร้อน
“ยืนบื้ออยู่ทำไมไปอาบน้ำสิ”
เขาพูดเพียงเท่านั้นก่อนก้าวขาเดินไปยังระเบียง ในมือยังถือแก้ววิสกี้อยู่ สายตาจับจ้องไปยังแสงไฟระยิบระยับของเมือง พร้อมกับเอียงแก้ววิสกี้แตะริมฝีปากอย่างสบายใจ
ดวงตากลมโตจับจ้องการเคลื่อนไหวของเขาอย่างไม่วางตา ก่อนจะค่อยๆก้าวเท้าอย่างช้าๆไปยังห้องน้ำ
”นี่ฉันมาทำอะไรที่นี่“
เกวลินพูดกับตัวเองเบาๆในห้องน้ำ ที่ตกแต่งอย่างหรูหราทุกอย่างดูเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยของราคาแพง ไม่มีของตกแต่งฟุ่มเฟือยหรือไร้สาระใดๆ แม้แต่ชักโครกยังเป็นระบบอัตโนมัติ ทุกอย่างสะอาดหมดจดเหมือนได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน ไม่มีฝุ่นหรือแม้แต่เศษเสี้ยวให้เห็นเลย
เกวลินใช้เวลาในห้องน้ำนานเกือบครึ่งชั่วโมง เธอก้าวออกมาพร้อมมือกำผ้าเช็ดตัวแน่นที่อกของตัวเอง แม้เธอจะพยายามทำใจให้แข็งแค่ไหน ลึกๆในใจกลับยังเต็มไปด้วยความกลัว
“ฉันนึกว่าเธอนอนในห้องน้ำแล้วสะอีก”
“ฉันแค่ไม่ชินกับการใช้เครื่องพวกนี้”
“แล้วทำไมไม่บอก”
“ไม่เป็นไรฉันทำได้แล้ว”
“อืม”
เขาตอบเพียงสั้นๆก่อนจะดึงเสื้อบนตัวออกอย่างไม่รีรอ คว้าผ้าเช็ดตัวผืนใหม่มาพันรอบเอวอย่างง่ายดาย จากนั้นก็ถอดกางเกงออกต่อหน้าเธอ โดยไม่แยแสถึงสายตาที่มองอยู่แม้แต่น้อย
“ว้ายยยยยย!! นี่นายทำอะไร”
มือเล็กรีบยกขึ้นมาปิดหน้าของตัวเองทันที ไปหน้าร้อนผ่าวอย่างควบคุมไม่อยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นผู้ชายถอดเสื้อผ้าต่อหน้า แบบไม่เหลือความเขินอายเลยสักนิด
“หึ!“
ครามไม่ตอบอะไรเพียงหัวเราะเบาๆในลำคอ ก่อนจะเดินผ่านร่างบางเข้าไปในห้องน้ำ ปล่อยให้เธอยืนปิดตาอยู่อย่างนั้น โดยไม่แม้แต่จะหันกลับมาสนใจ
”หื้อ…อิตะบ้า“
เกวลินบ่นงึมงามกับตัวเองอย่างหัวเสีย ก่อนจะหันไปมองประตูห้องน้ำด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นผู้ชายถอดเสื้อผ้าต่อหน้าแบบนั้น ใบหน้าสวยหวานร้อนวูบวาบราวกับกำลังยืนอยู่หน้ากองเพลิง