1 ซวยชะมัด
“ไอ้ผู้ชายเฮงซวย”
เสียงสั่นพร่าหลุดออกมาพร้อมลมหายใจร้อนผ่าว หญิงสาวในชุดเกาะอกสีดำแนบเนื้อยกแก้ววอดก้าขึ้นกระดก รสขมของแอลกอฮอล์แผดเผาลำคอ แต่ก็ยังไม่มากพอจะกลบความเจ็บในอกได้
“เอามาอีกแก้ว”
น้ำเสียงหวานที่เอ่ยออกมาแทบไม่เป็นคำสั่ง เสียงสั่นไหวแต่เต็มไปด้วยความดื้อรั้น
“ได้ครับคุณผู้หญิง”
บาร์เทนเดอร์ส่งเครื่องดื่มแก้วใหม่วางตรงหน้า เธอยกมือเรียวงามคว้าแก้วขึ้นมาทันที ปลายนิ้วสั่นน้อยๆขณะยกมันขึ้น
“ขอเลิกเพราะฉันเฉิ่มงั้นเหรอ หึ!”
เธอพึมพำกับตัวเอง แววตาแดงก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ผสมกับความน้อยใจ น้ำตาคลอคาเปลือกตาแต่ไม่ยอมปล่อยให้ไหลออกมา
“แหกตาดูสิฉันเฉิ่มตรงไหนวะ ทำไมต้องตัดสินกันที่เปลือกแบบนั้นด้วย”
ริมฝีปากแดงสดขบเม้มแน่นขณะนึกถึงคำพูดของบอส ผู้ชายที่เธอทุ่มทั้งใจให้ แต่กลับเหยียบย่ำมันด้วยประโยคเดียวที่ยังดังก้องในหู 'ฉันอายที่จะควงเธอไปไหนมาไหนเธอเฉิ่มเกินไปมีนา เราเลิกกันเถอะ'
"หึ!!
เสียงหัวเราะเย้ยหยันหลุดออกจากริมฝีปากเธอเบาๆ ทั้งที่น้ำตาเอ่อคลอไม่หยุด
“เลิกก็ดี ไอ้ผู้ชายห่วยแตกแบบนั้น ฉันไม่เสียดายหรอก”
แต่ยิ่งพูดหัวใจเธอก็ยิ่งเจ็บจนแทบแตกสลาย
ปั่ก!!
เสียงแก้วกระแทกเคาน์เตอร์บาร์ดังก้อง เศษน้ำแข็งในแก้วกระเด็นเล็กน้อยจนบาร์เทนเดอร์ถึงกับชะงัก
“เอามาอีก”
มีนาออกคำสั่งเสียงห้วน ดวงตาคมกริบแดงก่ำเหมือนพร้อมจะระเบิดอารมณ์ออกมาทุกเมื่อ
“คะ…คุณผู้หญิงครับ ผมว่าคุณมามากแล้วนะครับ”
บาร์เทนเดอร์เอ่ยเตือนเสียงเบา แววตาเต็มไปด้วยความหวังดีปนหวาดหวั่น
มีนาหันขวับมามอง ริมฝีปากแดงสดคลี่ยิ้มเย้ยหยัน
“ฉันขอถามนายหน่อยสิ”
“เอ่อ…ครับคุณผู้หญิง”
เขาขานรับอย่างเกร็งๆ มือยังคงถือขวดวอดก้าแต่ไม่กล้าเทต่อ
“นายว่าฉัน…ดูเฉิ่มไหม”
เสียงเธอสั่นพร่าราวกับจะขาดห้วงในทุกถ้อยคำ
“แล้วฉันสวยหรือเปล่า”
บาร์เทนเดอร์กลืนน้ำลายเอื๊อก มองร่างระหงษ์ในชุดเกาะอกสีดำแนบเนื้อที่กำลังจ้องเขาอย่างคาดคั้น
“อะ เอ่อ…สวยครับ คุณสวยมาก”
“เหอะ…”
มีนาหัวเราะในลำคอ สายตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“แล้วทำไมพี่บอสถึงทิ้งฉันวะ ทำไมเขามองไม่เห็นแบบที่นายเห็น ทำไมเขาต้องมองว่าฉันเฉิ่ม ไม่น่าควง ทำไมเขาไม่รักฉัน”
เสียงสั่นเครือผสมหัวเราะเยาะตัวเอง ดวงตาคู่สวยคลอไปด้วยน้ำตาที่เธอฝืนกลั้นไว้ไม่ให้ร่วงหล่น
“เฮ้ย! วันนี้ทำไมกลับไวจังวะไอ้เสือ เพิ่งแดกไปไม่กี่แก้วเองนะเว้ย”
วายุเอ่ยแซวพร้อมยกแก้วขึ้นกระดก ดวงตาคมมองเพื่อนรักที่ลุกขึ้นจากโต๊ะด้วยความแปลกใจ
สายธารหรือที่เพื่อนๆในกลุ่มเรียกติดปากว่าเสือ ขยับสูทเข้าที่อย่างเคร่งขรึม
“พรุ่งนี้กูมีประชุมแต่เช้า กูไม่อยากแดกจนเมาแล้วไปนั่งหัวโตในห้องประชุมว่ะ”
วายุหัวเราะหยัน
“ประชุมอะไรวะ ถึงขนาดทำให้ไอ้เสือยอมวางแก้วไวน์ไว้กลางโต๊ะได้ กูไม่เคยเห็นปกติมึงก็แดกได้นี่หว่า ท่านประธานอย่างมึงจะไปกลัวห่าอะไรวะ”
สายธารปรายตามองเพื่อนนิดเดียว สีหน้าเย็นชาราวกับไม่คิดจะอธิบาย
“กูกลับแล้วดีกว่า กูไม่อยากแดกเยอะว่ะ”
พูดจบสายธารก็ก้าวขาออกจากมุมบาร์ที่เขามักนั่งประจำ ทว่าเพียงเดินมายังไม่ทันจะพ้นเคาน์เตอร์บาร์ กลับต้องหยุดชะงักเมื่อร่างบางในชุดเดรสดำแนบเนื้อ เดินโซซัดโซเซออกมาจากห้องน้ำ แล้วพุ่งเข้าชนแผ่นอกกว้างของเขาเต็มแรง
“ว้าย!!”
เสียงหวานร้องลั่นด้วยความตกใจ ก่อนที่ร่างจะเซถอยหลังไป แต่กลับถูกมือหนาคว้าเอวบางไว้แล้วกระชากเข้ามาแนบอกอย่างรวดเร็ว
“โธ่เว้ย! เดินให้มันระวังหน่อยสิคุณ ถ้าผมคว้าไม่ทันจะเป็นยังไง”
น้ำเสียงเข้มดุดันดังขึ้นเหนือศีรษะเธอ
หญิงสาวค่อยๆเงยหน้าขึ้น ใบหน้าสวยเซ็กซี่แดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ดวงตาฉ่ำวาวสบเข้ากับเขาอย่างท้าทาย ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะขยับเอ่ยคำที่ทำให้ชายหนุ่มถึงกับชะงัก
“ไอ้ผู้ชายเฮ็งซวย!!”
คำหยาบกระแทกหูทำให้สายธารปล่อยมือจากเอวบางทันที เพราะคิดว่าเธอตั้งใจด่าเขา
“วะ…ว้าย!!”
ร่างบางเสียหลักล้มลงไปกองกับพื้น กระโปรงเดรสร่นขึ้นนิดจนเขาต้องเบือนสายตาหนี แต่ก็ยังอดหงุดหงิดไม่ได้
“เป็นผู้หญิงทำไมปากเสีย พูดจาหยาบคายขนาดนี้”
เขาเอ่ยเสียงเข้ม สายตาเย็นชาจ้องเธออย่างไม่ไว้หน้า
“นี่คุณ! จะปล่อยฉันทำไมเนี่ย ฉันเจ็บเข้าใจไหม!”
เสียงหวานตะคอกลั่นแข็งกร้าวสวนทันที กับท่าทางร่างกายที่โอนเอน พยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ขาเรียวกลับไร้เรี่ยวแรงจนทรุดลงซ้ำ
สายธารขมวดคิ้วแน่น สบถในลำคออย่างหงุดหงิด
“ซวยชะมัด ต้องมาเจอผู้หญิงบ้าพวกนี้อีก เสียเวลาชีวิตชิบหาย”
แต่ถึงจะบ่นมือหนาก็ยังโน้มลงคว้าแขนเล็กแล้วออกแรงฉุดขึ้นมาในทีเดียว ร่างบางถึงกับลอยละลิ่วขึ้นมาแนบอกเขาอีกครั้ง คราวนี้กลับไม่ยอมปล่อย เธอวาดแขนเรียวขึ้นมาคล้องคอเขาไว้แน่นราวกับหาที่พึ่ง
“เฮ้ย! กลิ่นเหล้าแม่งหึ่งไปหมด”
สายธารเบี่ยงหน้าแทบไม่ทัน กลิ่นแอลกอฮอล์แรงจัดลอยตลบเต็มโพรงจมูก เขากัดกรามแน่น กำลังจะดันเธอออกแต่เสียงพร่าของเจ้าหล่อนกลับดังขึ้นเสียก่อน
“คุณรู้ไหมคะไอ้บ้านั่นมันทิ้งฉัน เพราะมันบอกว่าฉันเฉิ่มเกินไป หึ! ฮะๆๆ เฉิ่มตรงไหนวะ ตลกสิ้นดี”
น้ำเสียงทั้งสั่นทั้งเต็มไปด้วยความแค้นปนเจ็บ แต่ก็ยังขำออกมาเหมือนกำลังเยาะเย้ยตัวเอง สายธารชะงักไปวูบหนึ่ง แต่รีบตีหน้านิ่งใส่
“ขอโทษนะฉันไม่รู้จักเธอ แล้วก็ไม่ใช่ถังขยะให้ใครมานั่งระบาย ถ้าเธอเมามากแล้วก็กลับไปนอน อย่ามาเป็นภาระให้คนอื่นแบบนี้”
คำพูดนั้นเหมือนแรงกดดันสุดท้าย ก่อนที่อยู่ๆร่างบางในอ้อมแขนจะเงียบกริบลงไปอย่างน่าประหลาด สายธารขมวดคิ้ว มองเธอที่ซบหน้ากับอกเขาอย่างหมดสภาพ
“อย่าบอกนะว่า…”
เขาเขย่าไหล่บางแรงๆ พร้อมขมวดคิ้วมุ่น
“นี่เธอ หลับไปแล้วเนี่ยนะ”
ไม่มีเสียงตอบกลับจากเธอแม้แต่น้อย มีเพียงลมหายใจทีีลดแผ่นอกแกร่งของเขา สายธารสบถอย่างหัวเสีย
“โธ่เว้ย! ทำไมกูต้องซวยมาเจอเรื่องบ้าๆแบบนี้ด้วยวะ มันใช่หน้าที่ของกูต้องมารับผิดชอบไหมเนี่ย”
ถึงจะพูดแบบนั้น แขนหนากลับกระชับร่างบางไว้แน่นกว่าเดิม ราวกับกลัวว่าเธอจะล้มลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง