หลุนเหอจิ้งมาที่ร้านแต่ยามเหม่าเพื่อสั่งงานบ่าวไพร่ชายที่เคยเทถังอาจมซึ่งตอนนี้นางตั้งให้เป็นพนักงานประจำร้านติดตั้งโถสะดวกของนาง
นางอนุญาตให้ทุกคนไถ่ถอนตัวเองได้หากหาเงินได้มากพอ นางคิดดอกเบี้ยจากสัญญาซื้อขายทาสเพียงร้อยละสามสิบของจำนวนเงินที่เป็นต้นทุน นางจะเอาไปคืนคลังสมบัติจวิ้นอ๋อง ส่วนกำไรนางจะเอาเข้ากระเป๋าตัวเอง
นี่ก็นับว่าเมตตามากแล้วนะ จะให้เมตตาเบอร์ไหนอีก ปกติทาสเช่นนี้แทบไม่มีทาสคนใดในแคว้นได้ไถ่ถอนตัวเอง เป็นสัญญาซื้อขาดตลอดชีวิต
“ข้าคิดดอกเบี้ยเพียงร้อยละสามสิบ หากทำงานได้ครบ จ่ายต้น จ่ายดอกแล้วพวกเจ้าก็ไถ่ถอนตัวเองได้ จะไปไหนก็ไป ถ้าไม่ไปก็ทำงานที่นี่ต่อ”
“พวกข้าไม่รู้จะไปที่ใด พวกข้าขอทำงานที่ร้านนี้ต่อไปขอรับ” เหล่าทาสเหล่านั้นกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ
“ก็แล้วแต่พวกเจ้า ช่วยงานให้เต็มที่ก็แล้วกัน หลายเดือนที่ผ่านมา เราทั้งหมดแทบไม่มีเวลาพักเลย”
นางให้เบี้ยรายเดือนทุกเดือน ส่วนเบี้ยขยัน หรือ bonus แล้วแต่อารมณ์และผลประกอบการในช่วงนั้นๆ เหล่าทาสสามารถลืมตาอ้าปาก บางคนถึงกับเริ่มส่งให้ครอบครัวที่ยากจนในชนบท
ถึงจะเป็นความเมตตาแบบค้ากำไรก็ยังดีกว่าไม่เมตตาเลย นางคิดเข้าข้างตนเอง
นางให้พนักงานในร้านผู้หนึ่งมาฝนหมึก นางเขียนเอกสารต่างๆ จัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ
แก้มขาวนวลเปื้อนหมึกเล็กน้อย ปากอิ่มแดงแย้มยิ้ม แต่ต่อมาก็กลอกตาขึ้นฟ้าเบ้ปาก เมื่อนางหันไปเห็นหีบตั๋วเงินเปิดอ้าออกจนปิดไม่ได้
เฮ้อ! นางถอนหายใจแรงๆ
ตอนนี้มีคนต้องการติดตั้งโถสะดวก มีแต่ order กับใบสั่งของเต็มไปหมด
โถสะดวกซึ่งถือว่าเป็น revolution หรือการปฏิวัติวงการ ‘ขี้’ ของยุคโบราณอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว
ผมบนศีรษะเริ่มยุ่งฟูเหมือนรังนก นางเริ่มทำบัญชีและส่งคนออกไปติดตั้งโถสะดวกทุกวัน หาคนงานเพิ่มขึ้นมากแค่ไหนก็ยังหาไม่ทัน แถมหัวหน้าตระกูลต่างๆ ที่มาจากเมืองอื่นก็ช่วยเหลือกิจการนางเป็นอย่างดี ช่วยซื้อสินค้า ซ้ำยังติดใจชวนเพื่อน พี่น้องมาสั่งอีกเป็นจำนวนมาก
นางกำลังจะไปเปิดสาขายังเมืองต่างๆ เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการ หลุนเหอจิ้งเริ่มเครียดกับเงินเต็มหีบนั้น ทุกวันนางทำงานมิได้หยุดหย่อน
หลุนเหอจิ้งคิดจะไปหอตำรา ไปหาพวกบัณฑิตตกยากมาทำงานเป็นหัวหน้าสาขาในเมืองต่างๆ นางกำลังจะขยายสาขาไปทั่วแคว้น
บัณฑิตตกยากต่างตะบี้ตะบันสอบจอหงวน หรืออยากเป็นทหาร เงินที่ได้จากทางการก็ไม่ได้มากแค่พอยาไส้ หากยอมทำงานให้นาง นางจะให้มากกว่าเป็นเท่าตัว
ร่างระหงออกมานั่งที่โต๊ะรับรองลูกค้าบริเวณหน้าร้าน นางสั่งสุรามาดื่มตอนกลางวันแสก ๆ พลันมองไปเห็นเป็ดย่างตัวอ้วนแขวนอยู่ในตู้สำหรับขายอาหารของโรงเตี๊ยมฝั่งตรงข้าม เป็ดย่างสีสวย หนังน่าจะกรอบดังกร๊อบๆ เห็นเป็ดย่างหนังมันวาวตัวอวบอ้วน ท้องก็เริ่มร้องดังโครกคราก
แทนที่จะเดินไปสั่งแบบคุณหนูผู้ดีมีชาติตระกูล นางตะโกนข้ามทางไปสั่งเป็ดย่าง
“เสี่ยวเอ้อ เสี่ยวเอ้อ ข้าหลุนเหอจิ้ง เจ้าของร้านโถสะดวก สั่งเป็ดย่างสามตัว ข้าวสวยหนึ่งหม้อ สับมาให้ข้าเดี๋ยวนี้”
“ขอรับ” เสี่ยวเอ้อรับคำนาง พร้อมสับเป็ดดังปัก ปัก ทันที
เป็ดย่างมาถึง นางเอามือจับน่องเป็ดจิ้มน้ำจิ้มกัดกินอย่างเอร็ดอร่อย ที่เหลือนางแบ่งคนงานในร้านกิน
“เท่าไหร่”
“เถ้าแก่บอกมิให้คิดเงินขอรับ หากท่านอยากกินเป็ดย่างให้มาสั่งได้เลย เถ้าแก่จะไม่คิดเงิน ถือว่าร้านอยู่ตรงข้ามกันขอรับ”
งง นางได้แต่ยืนงง นี่คือตรรกะผูกมิตรแบบไหนกัน
“ร้านอื่นที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยกันได้กินเป็ดย่างแบบไม่คิดเงินรึไม่” นางถามแบบงงๆ
“เฉพาะร้านโถสะดวกขอรับ เพราะร้านอยู่ตรงข้ามกันพอดิบพอดี” เสี่ยวเอ้อตอบ
“ฝากขอบคุณเถ้าแก่ด้วย” นางกวาดสายตามองดูในร้านก็ไม่เคยเห็นเถ้าแก่ของโรงเตี๊ยมสักครั้ง มีแต่ผู้ดูแลร้านชื่ออี้เทียนที่แลดูเหมือนจะเป็น manager
“เจ้ารอประเดี๋ยว ข้าอบขนมไว้ในร้าน ฝากไปให้เถ้าแก่ด้วย”
หลุนเหอจิ้งเดินเข้าไปเอาคุกกี้ที่นางอบไว้ในกล่องกระดาษไขกันลมออกมา 2 กล่อง
นางเขียนที่กระดาษแปะที่กล่องว่า “ขอบคุณเถ้าแก่ ท่านน่ารักมาก ข้าจะกินเป็ดท่านทุกวันเลยทีเดียว” และนางเขียนการ์ตูนหน้ายิ้มลงไป
นี่มันอะไรกัน อยู่ดี ๆ ก็ได้ แดกเป็ดฟรี เอ่อ หมายถึง รับประทานเป็ดย่างแบบไม่คิดเงิน แต่นางก็ยินดีจะรับเป็ดฟรีทุกวี่วัน หาได้มีความเกรงใจไม่ คนเขามีไมตรี เราก็ต้องรับ
คนสวยๆ ได้กินเป็ดย่างฟรี มันก็เป็นเรื่องธรรมดา
บนชั้นสองของโรงเตี๊ยม
เขามองนางอยู่จากบนชั้นสองของโรงเตี๊ยมฝั่งตรงข้าม มองผมยุ่งๆ กับแก้มเปื้อนหมึก จะมีวันใดบ้างที่เขาจะได้เห็นนางในสภาพดี ๆ งดงามแบบคุณหนูในห้องหอ
บุรุษร่างสูงนั่งมองกล่องขนมพร้อมข้อความอันนั้นด้วยรอยยิ้มละไม แววตาราวกับหนุ่มอายุสิบห้าหลงรักคุณป้ามหาลัยปีสี่
ชายหนุ่มอายุราวสามสิบต้นๆ ยกยิ้มไม่ยอมหุบ เขาแกะขนมกินพร้อมน้ำชา วันนี้เขาอารมณ์ดีไม่ได้ดื่มสุรารสแรงอย่างเคย
เสียงทุ้มต่ำทรงอำนาจเอ่ยขึ้นเรียบๆ
“อี้เทียน”
“ขอรับ นายท่าน” อี้เทียนใจหายใจคว่ำกับเสียงทุ้มต่ำ ผู้เป็นนายต้องการสิ่งใดหนอ
“เจ้าไปเรียนวิธีทำเป็ดย่างที่อร่อยที่สุดในแคว้นฝู โรงเตี๊ยมของข้าจะขายแต่เป็ดย่าง”
“ขอรับ” เขาได้แต่กลอกตาไปมา รู้สึกอยุติธรรมในใจอย่างแรงที่หัวหน้าหน่วยเงาพิฆาตดาราอย่างเขาต้องรับหน้าที่อันไร้ซึ่งความยุติธรรม
เป็นคนย่างเป็ดอย่างนั้นเรอะ? นายท่านช่างใจร้ายนัก