บทที่ 4

1696 Words
ผมเดินเข้าบ้านด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดด้วยความโมโหสุดๆ อะไรๆ ก็ไม่ได้อย่างใจผมสักอย่าง ผมเดินมาหยุดนั่งที่โซฟาหนังเสือในห้องทำงานส่วนตัว ผมมองไปที่แจกันดอกไม้บนโต๊ะรับแขก ภาพใบหน้าผู้หญิงคนนั้นก็ปรากฏบนแจกัน ทำให้ผมอารมณ์ขึ้นสุดขีดที่มันกล้าเอาปืนมาจ่อหน้าผากผม ด้วยอารมณ์โทสะผมใช้หลังมือปัดแจกันใบนั้นสุดแรง จนแจกันนั้นแตกกระจายด้วยหลังมือของผมร่วงเกลื้อนพื้น ทำให้ลูกน้องของผมที่ยืนอยู่ด้านนอกวิ่งเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าตกใจ "นายเกิดอะไรขึ้นครับ เลือด! นายมือของนายเลือดออกครับ!!..." หัวหน้าลูกน้องร้องถามขณะสำรวจสิ่งที่เกิดขึ้นจนเห็นเลือดบนมือของผม แล้วรีบวิ่งเข้ามาจับมือผมไปดู แต่ถูกผมสะบัดมือออก "ปล่อย เลือดออกแค่นี้มันไม่ทำให้เราเจ็บหรอก แต่ที่เจ็บที่สุดคือ เราเจ็บใจ…" ปึ้ง! ผมกล่าวจบก่อนใช้มือข้างที่เลือดไหลชุ่มทุบลงบนโต๊ะซ้ำแผลรอยเดิม ทำให้ทุกคนตกใจไปตามๆ กัน "ออกไป... ออกไปให้หมด กูอยากอยู่คนเดียว" ผมตะโกนไล่ทุกคนอย่างหัวเสีย "แต่นายต้องทำแผลก่อนนะครับ เลือดยังไหลไม่หยุดเลยครับนาย..." "ไป!" ผมตะโกนไล่อีกครั้งด้วยความรำคาญ ทุกคนทยอยเดินออกจากห้องไปด้วยสภาพคอตก ผมเดินตามไปล็อกประตูเพื่อป้องกันการถูกรบกวน ผมมองที่หลังมือขณะที่เลือดยังไหลซึมไม่หยุด จึงเดินเข้าห้องน้ำไปยังอ่างล้างมือ เปิดน้ำพอเอื่อยๆ ล้างคราบเลือดและลิ่มเลือดสดๆ ออกจากมือ ก่อนเอื้อมมือหยิบกล้องยาบนตู้กระจกใสมาทำแผลด้วยตัวเอง   ตลอดระยะเวลาที่นั่งรถกลับมาบ้าน ฉันยังไม่เห็นว่าคนสนิทจะทำหน้าเป็นปกติสักที เขายังคงมีสีหน้าไม่สบายใจ มีท่าทีโกรธเคืองอยู่ไม่หาย จนฉันเองก็อดห่วงไม่ได้ "วิตเตอร์ นายยังโกรธคนพวกนั้นอยู่เหรอ?" "ครับนายหญิง หากผมรู้มาก่อนว่ามันเป็นลูกชายของคนที่ฆ่านายใหญ่นะ มันคงตายไปนานแล้ว..." เขามีน้ำเสียงที่สอดคล้องกับใบหน้าที่มีรอยความแค้นเคือง "วิตเตอร์..." ฉันเพียงได้แค่เอ่ยชื่อเขาก็ถูกเขาพูดสวนขึ้นอย่างตั้งใจ "นายหญิงไม่ต้องพูดหรอกครับ ผมรู้ว่านายหญิงจะพูดอะไร แม้ถึงผมจะตายก็ยอมเพื่อได้กำจัดคนชั่วที่ฆ่านายใหญ่" เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและสีหน้าดุดัน จนฉันรู้สึกกลัวกับอาการที่วิทย์แสดงออกมา ฉันนั่งมองเขาพลางคิดทบทวน หากฉันมีความเด็ดเดี่ยว ใจเด็ดได้อย่างเขาสักครึ่งก็คงดี ฉันกับวิตเตอร์เรามีข้อดีข้อเสียกันคนละอย่าง วิทย์มีความเด็ดเดี่ยว ใจเด็ดเป็นข้อดี ส่วนข้อเสียคือเรื่องการต่อสู้หรือการเอาตัวรอดจากการกำลัง ส่วนฉันที่ดีที่เรื่องการต่อสู้ในทุกแขนงเป็นเลิศกลับมาเสียในเรื่องความเด็ดขาดเด็ดเดี่ยว หากเราสองคนรวมร่างเป็นหนึ่งเดียวได้ ฉันคงได้ครองตำแหน่งเจ้าแม่มาเฟียไปนานละค่ะ "นายหญิง! นายหญิงครับ! นายหญิงได้ยินผมไหมครับ!!..." ฉันสะดุ้งเหมือนตื่นจากภวังค์ "มีอะไรเหรอวิทย์?" "ผมต้องถามนายหญิงมากกว่า ว่านายหญิงเป็นอะไร เห็นนั่งเหม่ออยู่นานแล้วนะครับ"  "เปล่าหรอกเราคิดอะไรนิดหน่อยน่ะ" "นี่นายหญิงคงกำลังคิดถึงคำพูดของไอ้มาเฟียคนนั้นอยู่ใช่ไหมครับ ที่มันบอกจะเอานายหญิงทำเมีย!" ฉันต้องสะดุ้งอีกครั้งกับคำพูดของคนสนิทที่พูดถึงคำพูดของไอ้มาเฟียนั่น "ไม่ใช่นะวิตเตอร์ นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ เราจะไปสนใจอะไรกับคำพูดของคนพันธุ์นั้นก็แค่หมาบ้าที่เห่าไปทั่ว ไม่ได้อยู่ในสมองของเราเลย นายเป็นคนรู้ใจเราที่สุดแต่กลับคิดถึงเรื่องไร้สาระ เราเสียใจนะที่นายดูถูกความรู้สึกของเราแบบนี้" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจก่อนลุกจากโซฟาที่มุมห้องเดินไปที่เตียงโดยมีคนสนิทเดินตามหลังมาห่างๆ "ผมขอโทษครับนายหญิง หากสิ่งที่ผมพูดไปด้วยความเป็นห่วงนายหญิง ทำให้นายหญิงโกรธผม ผมก็ขอรับโทษด้วยการนอนหน้าห้องคืนนี้ครับ" เมื่อฉันได้ยินหันไปเห็นเจ้าตัวกำลังกอดหมอนพร้อมผ้าห่มเดินไปยังประตูหน้าห้อง ฉันจึงรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดเขาจากด้านหลังทันที "นายจะนอนหน้าห้องไม่ได้นะ เรายกโทษให้สำหรับความผิดของนาย แต่เราขอลงโทษนายด้วยวิธีอื่นแทนได้ไหมวิตเตอร์" "อะไรเหรอครับ?" "นายช่วยนอนกอดเราทั้งคืนจะได้ไหม?" "นายหญิงแน่ใจนะครับว่าจะให้ผมแค่นอนกอดอย่างเดียว รักษาคำพูดด้วยนะครับ 5555" วิทย์หัวเราะชอบใจก่อนที่ฉันจะส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เขา "ได้ นายต้องนอนกอดเราอย่างเดียว... แต่ต้องเป็นท่านี้นะ 555+" ฉันพูดพลางเอื้อมมือปิดไฟหัวเตียงแล้วบทลงโทษจึงเริ่มขึ้น   วันนี้ฉันอาสาพาวิตเตอร์มาพักผ่อนตามคำสัญญาที่ให้กับเขาไว้ในคืนทำโทษ ว่าจะพาเขามาเที่ยวรีสอร์ทที่ใกล้น้ำตกด้วย ฉันเลยตัดสินใจพาเขามาที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งที่ค่อนข้างสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน ธรรมชาติยังสวย น้ำใส ฉันนั่งมองเขาเล่นน้ำตกกับน้องสาวต่างพ่อของเขาอีกสองคนอย่างสนุกสนาน จนอดยิ้มในบทบาทพี่ชายแบบน่ารักๆ ของเขาไม่ได้ วิทย์พยายามชวนฉันลงเล่นน้ำด้วยแต่ฉันไม่พร้อมเลยปฏิเสธเขาไปอย่างสุภาพ พอสองสาวที่ขอมาด้วยลงเล่นเป็นเพื่อนแค่นั้นฉันจึงกลายเป็นหมาหัวเน่าไปเลยค่ะ ฉันนั่งชื่นชมธรรมชาติอยู่สักพักหนึ่งก็เหลือบมองไปเห็นยอดน้ำตกที่มีความสวยงามน่าหลงใหลจึงขอตัวกับสองสาวอีกหนึ่งหนุ่มไปด้านบน ได้คำตอบเป็นสัญลักษณ์มือว่าตกลง ฉันจึงเดินจากไปโดยไร้การ์ดคุ้มกัน ธรรมชาติเป็นอะไรที่วิเศษมากสำหรับฉัน ความสดชื่น สบายตา สวยงาม ฉันใช้เวลาเดินขึ้นมาไม่ถึง 20 นาทีก็ขึ้นมาถึงยอดน้ำตก ไม่เสียแรงที่ปีนขึ้นมาจริงๆ ฉันยิ้มกว้างให้กับความสวยงามของธรรมชาติ สายน้ำที่ไหลลงสู่เบื้องล่าง สายลมที่พัดผ่านมอบความเย็นสบายให้กับจิตใจได้เป็นอย่างดี ฉันลงนั่งบนโขดหินข้างลำธารใช้เท้าเปล่าเตะน้ำเล่นด้วยความสบายใจ จู่ๆ ก็เห็นอะไรบางอย่างลอยมาตามสายน้ำ ที่พอฉันเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาดู นี่มันเสื้อกล้ามผู้ชายนี่ เอ๊ะ! มีใครอยู่บนนี้ด้วยเหรอเนี่ย ฉันรีบหันไปมองทางต้นน้ำ อีกฝั่งแต่ต้องตกใจเมื่อสิ่งที่เห็นอยู่ใกล้แค่เอื้อม "นี่คุณ!" ฉันแหงนหน้าขึ้นมองอีกคนที่ยืนอยู่ด้านข้างโดยเปลือยท่อนบน สิ่งที่อยู่ในมือฉันตอนนี้ก็คงเป็นเสื้อของมันแน่ๆ "เอาเสื้อกูมา!" แต่สิ่งที่ฉันได้ยินมันไม่เสนาะหูเท่าไหร่ เลยเกิดความหมั่นไส้โยนเสื้อในมือออกไปอย่างแรง จนไหลลงไปเบื้องล่างตามสายน้ำตก "ขอโทษนะหลุดมือไปแล้ว กรุณาพูดกับกุลสตรีให้สุภาพกว่านี้นะคะเจ้าพ่อมาเฟีย" ฉันตอบแบบหน้าตาเฉยทำให้อีกฝ่ายคงโกรธมากทำท่าจะผลักฉันให้ตกน้ำ ฉันรู้ทันเสียก่อนเลยเอี้ยวตัวหลบทำให้มันตกน้ำอย่างจงใจ "ช่วยด้วย... ช่วยด้วยผมว่ายน้ำไม่เป็น!" ฉันเตรียมจะลุกขึ้นแล้วลงไปด้านล่าง ก็ได้ยินร้องขอความช่วยเหลือก่อนจะหันกลับไปก็พบกับไอ้เจ้าพ่อมาเฟียกำลังตะเกียกตะกายน้ำสะเปะสะปะ 'หึ้ม! คงจะหลอกให้เราลงไปช่วยล่ะสิ ฝันไปเถอะ' ฉันลุกขึ้นหันหลังเดินโดยไม่สนใจแต่เสียงจากคนในน้ำก็ยังส่งเสียงไม่หยุดเหมือนจะขาดๆ หายๆ เป็นช่วงๆ ฉันเห็นท่าไม่ดีจึงหันไปมองอีกที เป็นจังหวะที่คนในน้ำค่อยๆ จมและไหลไปตามน้ำ สร้างความตกใจฉันไม่รอช้ารีบกระโดดลงไปช่วยมันขึ้นมาจนสำเร็จ แต่ไอ้มาเฟียกลับหมดสติไป ฉันพยายามเรียกสติมันด้วยการเขย่าตัวหลายครั้งกลับไม่มีการตอบสนองใดๆ ฉันจับชีพจรๆ มันเต้นอ่อนมาก ฉันไม่รู้จะทำยังไงมีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น.... "เป็นไงเป็นกัน ถ้าแกตายตอนนี้ ทุกคนต้องคิดว่าเป็นฝีมือฉันแน่" ฉันตัดสินใจผายปอดให้ไอ้มาเฟียก่อนจะค่อยๆ ประกบปากกับอีกคนที่นอนหมดสติแล้วเป่าลมเข้าไป อยู่ครั้ง สองครั้ง พอเตรียมจะก้มผายปอดเป็นครั้งที่สาม คนหมดสติกลับลืมตาโพลงยกแขนขึ้นมากอดคอฉันไว้แน่นอย่างรวดเร็ว ฉันตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นพยายามแกะแขนอีกฝ่ายออกแต่ไม่เป็นเพราะไม่ถนัดเลยต่อยที่ท้องแทน ต่อยเท่าไหร่ๆ อีกฝ่ายยิ่งเพิ่มความร้อนแรงในการจูบเพิ่มขึ้น เริ่มมีการรุกล้ำในปากของฉันมากขึ้น ฉันพยายามดิ้นรนขัดขืนทุกวิถีทางแต่ก็ไม่สำเร็จ ริมฝีปากมันพยายามบดเบียดกับริมฝีปากฉันตลอด ขณะที่บางอย่างยังวนเวียนในปากฉันไม่ลดละ ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ ในรสจูบครั้งนี้มันไม่เหมือนรสจูบของวิทย์เลยแม้แต่น้อย มันลึกซึ้งกว่า ดีกว่า เอ๊ะ! ไม่ได้นะฉันจะรู้สึกแบบนั้นไม่ได้ ฉันเตือนสติตัวเองก่อนจะใช้กำปั้นตัวเองต่อยเข้าไปยังจุดสงวนของไอ้มาเฟียบ้ากามนั้น มันถึงกับรีบปล่อยแขนจากคอแล้วไปกุมที่จุดสงวนด้วยท่าทางเจ็บปวด ฉันใช้โอกาสนี้วิ่งหนีลงมาจากยอดน้ำตกทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD