เธอนั่งอยู่ที่ห้องด้วยความกระวนกระวายใจ เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งนาฬิกาบอกเวลาสองทุ่ม เธอจึงได้ยินเสียงเจ้าของห้องเปิดประตูเข้ามา ทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตูความประหม่าก็แล่นเข้ามาอยู่เต็มหัวใจของหญิงสาว
“มานานแล้วเหรอ” เสียงของชายหนุ่มเอ่ยถามร่างที่นั่งสั่นอยู่ของหญิงสาว
“ก็สักพักแล้วค่ะ” ศศินราไม่กล้าตอบไปว่าหลายชั่วโมงแล้วที่เธอรอเขาอยู่ที่นี่
ธีย์เทพเดินมานั่งลงตรงข้ามหญิงสาว แล้วเขาก็ต้องมองใบหน้าสวยด้วยความถูกใจ คุณกานดานี่ช่างตาแหลมเสียจริง เธอสวยน่ารักเหมาะที่จะเป็นแม่ของลูกเขาอย่างยิ่ง
“รู้แล้วใช่มั้ยว่าฉันต้องการอะไรจากเธอ”
“ทราบค่ะ แต่ศศิอยากจะขออะไรคุณธีย์อย่างหนึ่งได้มั้ยคะ” ศศินรากลั้นใจเอ่ยออกมา
“อะไรล่ะ” ธีย์เทพเลิกคิ้วมองด้วยความสงสัย นี่เธอกำลังจะขออะไรจากเขา
“ก่อนที่เราจะทำลูกกัน ขอศศิดื่มไวน์ก่อนได้มั้ยคะ” ใบหน้าของหญิงสาวแดงกล่ำขึ้นมาทันทีเมื่อเอ่ยถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น
“ได้สิ แต่เอาตามตรงนะฉันไม่ชอบมีอะไรกับผู้หญิงขี้เมา แต่ถ้าเป็นเธอฉันจะยอมเว้นให้สักคน”
“แล้วถ้าศศิท้อง ถ้าคลอดลูกเมื่อไหร่ศศิจะต้องไปจากบ้านคุณทันทีเหรอคะ” ศศินรากล่าวด้วยความกังวล
“ใช่” คำตอบสั้นๆ ทำให้คนตัวเล็กหวั่นใจกับเรื่องที่เธอกำลังจะทำอยู่เป็นอย่างมาก
“ถ้าศศิคิดถึงลูก ศศิขอกลับมาเยี่ยมลูกได้มั้ยคะ”
“สัญญาของเราจบสิ้นวันที่เธอคลอด เพราะฉะนั้นเธอจะไม่มีโอกาสกลับมาหาลูกอีก ถ้าเธอคิดว่าเธอทำไม่ได้ก็ล้มเลิกมันตั้งแต่ตอนนี้แล้วกัน” ธีย์เทพเอ่ยด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด เขาไม่อยากทำเช่นนี้ แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่อยากผูกมัดกับใคร ที่เขาทำทั้งหมดก็เพราะเขาได้ตกลงกับมารดาไว้แล้วเท่านั้น
“เปล่าค่ะ ศศิแค่อยากรู้เท่านั้น เงื่อนไขทั้งหมดของเรายังคงเดิมค่ะ”
ศศินรากล่าวด้วยความเด็ดเดี่ยว เธอจะพยายามที่สุดเพื่อที่เธอจะได้อยู่เคียงข้างเขากับลูก ไม่เคยมีใครรู้ว่าศศินราแอบคิดเกินเลยกับผู้มีพระคุณ ที่คอยอุปการะส่งเสียเธออยู่ตลอดเช่นธีย์เทพ มันเป็นความลับที่หญิงสาวพยายามเก็บไว้ในใจอยู่นานแสนนาน จนวันนี้กานดาได้มอบโอกาสที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายที่เธอแอบปลื้มมาตลอด เธอหวังว่าเขาจะมองเห็นเธอ แล้วเลือกเธอไปยืนเคียงข้างเขา
หากว่าสิ่งที่เธอวาดหวังไว้มันไม่สำเร็จ เธอก็จะยอมถอยออกมาแต่โดยดี แค่ช่วงหนึ่งที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับเขา แค่นั้นก็คงเกินฝันของหญิงสาวมากแล้ว