บทที่ 4-2

1571 Words
นีรญาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในชุดพร้อมเข้านอน ทว่าหญิงสาวกลับไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ ก่อนหน้านี้นีรญานำเครื่องเพชรไปคืนฟลอเรนซาที่ห้อง แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวยังไม่กลับมา เพราะหลังจากที่เคาะประตูเรียก และรออยู่พักใหญ่ มีเพียงความเงียบที่ตอบรับกลับมา หญิงสาวจำต้องนำเครื่องเพชรกลับมาที่ห้องอย่างไม่มีทางเลือก ร่างเล็กลากเก้าอี้มาที่ระเบียงห้อง แขนทั้งสองข้างวางพาดไปตามความยาวของราวกั้น ซีกหน้าข้างหนึ่งแนบลงบนท่อนแขน ดวงตากลมโตสีดำขลับฉายแววครุ่นคิด ก่อนจะผงกศีรษะขึ้นทอดสายตามองหมู่ดาวบนท้องฟ้า ยามที่หญิงสาวมีเรื่องที่ต้องขบคิด การได้มองท้องฟ้าเช่นนี้ช่วยให้เธอรู้สึกผ่อนคลายได้มาก แม้ยังไม่สามารถค้นพบทางออกของปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ได้ก็ตาม อย่างน้อยก็ช่วยให้ความตึงเครียดของเธอผ่อนลงได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง “นีรคิดถึงพ่อจังเลยจ้ะ” นีรญาพึมพำกับตัวเอง นัยน์ตากลมโตดำขลับยังคงทอดมองบนท้องฟ้า สิบเอ็ดปีแล้วที่บิดาของเธอจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ และก็เป็นเวลาสิบเอ็ดปีที่หญิงสาวจากประเทศไทยมาใช้ชีวิตที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ถึงแม้มีบางช่วงที่ครอบครัวคาสซาโน่จะบินไปพักผ่อนที่คฤหาสน์ลิลลี่ซึ่งอยู่แถบชานเมืองในกรุงเทพฯ เธอก็ติดสอยห้อยตามไปด้วยทุกครั้ง แต่ก็เป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพราะส่วนใหญ่จะอยู่ที่คฤหาสน์คาสซาโน่เสียมากกว่า และทุกครั้งที่ได้กลับประเทศไทย นีรญาก็จะต้องแวะไปไหว้อัฐิของบิดาอยู่เสมอ และพอมีเรื่องไม่สบายใจแบบนี้ ความรู้สึกคิดถึงบิดาก็ยิ่งท่วมท้น “อยากไปกรุงเทพฯ จัง” เป็นอีกครั้งที่นีรญาพึมพำกับตัวเอง จริงอยู่ที่ครอบครัวคาสซาโน่ดูแลเธอเป็นอย่างดี ส่งเสริมให้เธอได้เรียนในสิ่งที่รัก รวมถึงให้เงินค่าขนมที่เธอคิดว่ามันมากเกินความจำเป็นเข้าบัญชีของเธอทุกเดือน แต่หญิงสาวไม่กล้านำออกมาใช้หากไม่จวนตัวจริงๆ เพราะเท่าที่เป็นอยู่ เธอก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระมากพออยู่แล้ว แม้จะทราบดีว่าครอบครัวคาสซาโน่ร่ำรวยขั้นมหาเศรษฐี แต่ก็อดเกรงใจไม่ได้อยู่ดี เพราะฉะนั้นนีรญาจึงคิดว่าจะเก็บเงินสักก้อนที่ได้จากการทำงาน บินไป เที่ียวกรุงเทพฯ ที่สำคัญจะได้ไปเคารพอัฐิของบิดาด้วย ลมหนาวในยามค่ำคืนเข้าปะทะผิวกายครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายร่างแบบบางก็ทนความหนาวเย็นไม่ไหว ตัดใจลุกกลับเข้าไปด้านใน ค่อยๆ ทิ้งตัวลงบนฟูกนุ่ม พยายามข่มตาให้หลับลงอย่างยากลำบาก และสุดท้ายหญิงสาวก็ทำมันสำเร็จ นีรญาตื่นแต่เช้าตรู่ตั้งใจจะนำเครื่องเพชรไปคืนฟลอเรนซา แต่เป็นอีกครั้งที่หญิงสาวต้องพบกับความผิดหวังเพราะฟลอเรนซาไม่อยู่ที่ห้อง หญิงสาวลองโทรหาจึงทราบว่าฟลอเรนซาไปทัวร์ยุโรปกับเพื่อน นีรญาจำต้องนำเครื่องเพชรกลับมาที่ห้องอย่างไม่มีทางเลือก ร่างแบบบางในชุดพร้อมทำงานขยับเท้าไปที่ห้องของเฟเดริโก้ หญิงสาวตั้งใจจะไปพบท่านก่อนที่จะออกไปทำงาน หญิงสาวตั้งใจจะไม่ไปกินมื้อเช้า นั่นเป็นเพราะจะได้ไม่ต้องไปเจอกับฟอซโซให้เขาหงุดหงิดรำคาญใจ นีรญาหยุดเท้าที่หน้าห้องของเฟเดริโก้ มือบางยกขึ้นเคาะประตู ก่อนจะผลักบานประตูเข้าไปด้านใน “คุณปู่” ริมฝีปากอวบอิ่มคลี่ยิ้มกว้าง เท้าเล็กขยับไปหยุดที่ข้างเตียง เฟเดริโก้ที่อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนคลี่ยิ้มบางๆ เมื่อเห็นหญิงสาวค่อยๆ ย่อตัวคุกเข่าลงที่พื้นห้อง ข้างเตียงอีกฝั่งมีมาเรียสาวใช้วัยกลางคนที่ทำหน้าที่ดูแลเฟเดริโก้ยืนเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ “คุณปู่จะลงไปกินมื้อเช้าหรือยังคะ เดี๋ยวนีรพาไป” “เอาสิ” เมื่อเฟเดริโก้รับคำพร้อมรอยยิ้มบางๆ ที่ประดับบนมุมปาก นีรญากับมาเรียจึงช่วยกันพยุงเฟเดริโก้ให้นั่งลงบนรถเข็น เฟเดริโก้ยังพอเดินไหวอยู่บ้าง แต่เรี่ยวแรงลดน้อยถอยลงด้วยวัยแปดสิบสี่ปี ลูกหลานเกรงว่าท่านจะพลัดตกหกล้ม ส่วนใหญ่จึงใช้รถเข็นเสียมากกว่า แต่หากเป็นระยะไม่ไกลนัก เฟเดริโก้ก็จะใช้วิธีการเดิน ทว่าก็ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุง นีรญาอาสาเป็นคนเข็นรถให้เฟเดริโก้ ทั้งสามคนลงมาทางลิฟต์เพื่อไปยังห้องอาหาร เมื่อมาถึงนีรญาก็พบว่าฟอซโซนั่งอยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวเผลอสบตากับเขาแว่บหนึ่งก่อนจะหลบสายตา ช่วยประคองเฟเดริโก้ให้ลุกจากรถเข็นมานั่งที่เก้าอี้ เมื่อเฟเดริโก้นั่งเรียบร้อยนีรญาจึงเอ่ยขอตัว “นีรไปทำงานก่อนนะคะคุณปู่” “แล้วไม่กินมื้อเช้าก่อนเหรอหนูนีร” “นีรไม่ค่อยหิวค่ะคุณปู่ แล้วอีกอย่างช่วงนี้นีรมีงานเร่งด่วนด้วย ขอตัวก่อนนะคะ” นีรญาคลี่ยิ้มบางๆ ให้เฟเดริโก้แล้วสาวเท้าออกไปทันที ฟอซโซมองตามร่างเล็กไปจนลับสายตา ท่าทางเมินเฉยราวกับไม่เห็นเขาในสายตาของหญิงสาวทำให้เขารู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเสียดื้อๆ ไม่ทันที่สาวใช้จะได้เสิร์ฟอาหาร ฟอซโซก็หันไปพูดกับเฟเดริโก้ “ผมขอตัวก่อนนะครับคุณปู่ พอดีมีงานด่วนน่ะครับ” กล่าวจบก็ลุกจากเก้าอี้ทันที เฟเดริโก้เองก็เรียกหลานชายเอาไว้ไม่ทัน คนสูงวัยทำเพียงส่ายหน้าเบาๆ พลางยกยิ้มที่มุมปาก “ลูกหลานบ้านนี้ขยันทำงานกันจริงๆ เธอว่าไหมมาเรีย” “ค่ะ” มาเรียรับคำพร้อมรอยยิ้มบางๆ ก่อนจะกวักมือเรียกสาวใช้จัดการตักอาหารใส่จานให้เฟเดริโก้ โดยมาเรียคอยยืนรับใช้ไม่ห่าง นีรญายังไม่ทันก้าวพ้นหน้ามุขของคฤหาสน์ รถยนต์คันหนึ่งเข้ามาจอดเทียบตรงบริเวณดังกล่าว ทำให้หญิงสาวจำต้องหยุดเท้า คิ้วสวยทั้งสองข้างยกขึ้นสูงอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นคนขับก้าวลงมาจากรถ “อรุณสวัสดิ์ครับคุณนีร” “อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเอริค มาได้ยังไงคะ” “พอดีผมตั้งใจจะมารับคุณนีรไปส่งที่ทำงานน่ะครับ ทราบมาจากคุณฟลอนซ์ว่าคุณนีรทำงานอยู่ที่สเพนดอเร่ ดีไซน์ใช่ไหมครับ” “ใช่ค่ะ แต่คุณเอริคไม่เห็นต้องลำบากเลยค่ะ ฉันไปเองได้ค่ะ” นีรญาพยายามปฏิเสธอย่างนุ่มนวล มาถึงตรงนี้หญิงสาวก็พอจะเดาออกว่าเอริคคงต้องการพัฒนาความสัมพันธ์มากกว่าแค่การรู้จักผิวเผิน “ไม่ลำบากเลยครับ ให้ผมไปส่งนะครับ” “เอ่อคือ…” นีรญาลำบากใจที่จะตอบรับ ทั้งๆ ที่นัดดื่มกาแฟกันเอาไว้แล้ว ทว่าเขากลับถือวิสาสะมารับเธอโดยไม่บอกกล่าว หญิงสาวไม่ชอบสถานการณ์ที่ชวนให้รู้สึกลำบากใจแบบนี้เลยสักนิด ปากเล็กอ้าปากตั้งใจจะปฏิเสธ แต่เป็นเพราะเสียงที่ดังแทรกขึ้นมาจากทางด้านหลัง ทำให้นีรญาจำต้องกลืนคำพูดลงคอ “คุณเอริคอุตส่าห์มารับ ไม่เห็นต้องปฏิเสธเลยนี่ จริงไหม อรุณสวัสดิ์ครับคุณเอริค” ประโยคแรกฟอซโซพูดกับนีรญา ก่อนจะหันมากล่าวทักทายเอริคตามมารยาท “อรุณสวัสดิ์ครับคุณฟอซโซ คุณคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับถ้าผมจะขอไปส่งน้องสาวของคุณที่ทำงาน” ฟอซโซแสดงสีหน้าเรียบเฉยเย็นชา หากแต่ในอกกำลังกรุ่นๆ อย่างไม่ทราบสาเหตุ เมื่อความจริงอย่างหนึ่งกระแทกใจเข้าอย่างจัง “น้องสาวของคุณ” ตั้งแต่เขากับนีรญาจูบกันอย่างไม่ตั้งใจในคืนนั้น ไม่ว่าหญิงสาวจะพูดหรือจะทำอะไรก็ดูขวางหูขวางตาเขาไปเสียหมด เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรเหมือนกัน บ้าเอ๊ย! ฟอซโซสบถในใจ “ได้ไหมครับคุณฟอซโซ” เมื่อเห็นฟอซโซเงียบไปนาน เอริคจึงถามย้ำอีกครั้ง ฟอซโซมองนีรญาแว่บหนึ่งก่อนจะให้คำตอบเอริค “ได้ครับ” “ขอบคุณมากนะครับ” เอริคบอกฟอซโซ ก่อนจะหันไปหานีรญา “ให้ผมไปส่งนะครับคุณนีร” นีรญามองฟอซโซอย่างตัดพ้อ ชายหนุ่มพยายามยัดเยียดเธอให้คนอื่นครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งที่เธอพยายามอยู่ห่างจากเขาแล้วแท้ๆ แต่เขากลับยังไม่พอใจอีกอย่างนั้นหรือ ก็ได้ หากเขาต้องการแบบนั้น “ได้ค่ะ ถ้าพี่ชายของนีรอนุญาต นีรก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ” นีรญาเลือกแทนตัวเองกับเอริคอย่างสนิทสนม ก่อนจะเป็นฝ่ายเปิดประตูขึ้นรถไปเสียเอง เอริคส่งยิ้มบางๆ ให้ฟอซโซ แล้วรีบก้าวขึ้นรถไปราวกับเกรงว่าหญิงสาวจะเปลี่ยนใจ ฟอซโซมองตามรถของเอริคไปจนกระทั่งลับสายตา ในอกของเขารู้สึกร้อนรุ่มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน บ้าเอ๊ย! ทำไมต้องหงุดหงิดด้วยวะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD