Rrrrr
“ว่าไงไอ้ชาติ” มาร์ตินหันควับส่งสัญญานให้อีธานเดินออกไปคุยด้านนอกเพราะสายที่โทรมาคือความลับ เจ้านายของเขาไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาเป็นมาเฟียที่มีลูกน้องหลายร้อยคน มาร์ตินแสดงตัวตนออกมาเพียงแค่เด็กวิศวะที่บ้านรวยเพราะทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กับคลับนี้เท่านั้น ซึ่งเขาก็มีอสังหาริมทรัพย์อยู่หลายแห่งจริงๆ
“ไงมึง?” มาร์ตินเลิกคิ้วถามพร้อมยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม
“ไอ้เสี่ยปืนมันไม่ยอมคืนเงิน ตอนนี้ไอ้ชาติจับลูกสาวมันมาเป็นตัวประกัน” อีธานกระซิบรายงานเจ้านายของตัวเองไป
“ยอดหนี้เท่าไรวะ?”
“10 ล้าน”
“แล้วไอ้ชาติมันปล่อยให้ไอ้เสี่ยนั่นติดเยอะขนาดนี้ได้ไง?”
“กูก็ไม่รู้ ยังไงคืนนี้ก็ต้องไปหามันที่คาสิโน ลูกสาวเสี่ยปืนอยู่ที่นั่น”
หลังจากดื่มกับรุ่นน้องจนเกือบจะตี 1 อย่างติดลม อีธานเตือนมาอีกครั้งว่าเขาต้องไปที่คาสิโนนั้น
“แม่ง!!! เมื่อไหร่พ่อกูจะกลับมาวะไอ้อีธาน กูเปลี่ยนลุกจนจะเป็นไบโพลาร์อยู่แล้วเนี่ย! ไอ้สัส”
มาร์ติน บ่นออกมาอย่างหัวเสียทั้งที่ในตัวก็มีฤทธิ์ของแอลกอฮอล์วิ่งอยู่อย่างพลุ่งพล่าน
“ขอบคุณมากนะครับลูกพี่” เด็กปีหนึ่งเดินมาเจอรุ่นพี่หน้าหล่อทั้งสองยืนอยู่หน้าคลับในสภาพไม่เหมือนก่อนหน้า พวกเขารีบยกมือไหว้ แล้วก็แยกย้ายกันกลับ
“เออ!!! กลับดีๆ ล่ะพวกมึง พรุ่งนี้เจอกันที่มหาลัย” มาร์ตินพูดเสียงยานแทบจะ ทรงตัวไม่อยู่
“เก็บทรงหน่อยเจ้านาย” อีธานพาคนเมามานั่งในรถพร้อมเปิดแอร์เย็นๆ เขารู้ดีว่าเวลาเหล้าเข้าปากนายน้อยแล้วมันพูดมากขนาดไหน
“ไอ้อีธาน มึงจะรีบไปไหนวะ? วันนี้กูยังไม่ได้หญิงเลย”
“ก็ลูกเสี่ยปืนไงครับรอเจ้านายอยู่” อีธานพูดเตือนสติ เพราะตอนนี้คนที่นั่งอยู่ข้างๆ เริ่มงองแง
“เหรอวะ?”
“โหล...พวกมึงออกมากันหรือยังวะ?” อีธานโทรตามลูกน้องอีกครั้ง ให้มาสมทบที่หน้าคลับ เพราะต้องเข้าไปที่คาสิโน กลัวคนของเสี่ยปืนจะรอบทำร้ายเจ้านายน้อยของเขาเอา
ตอนนี้ลูกน้องของเขาขับรถตู้สุดหรูเข้ามารับเจ้านายที่จอดรถรออยู่หน้าคลับ รถที่มาร์ตินใช้จะต้องเป็นความลับ อีธานไม่อยากให้คนในบ่อนเห็น และจดจำรถของมาร์ตินได้เขาเลยเปลี่ยนรถอยู่เรื่อยๆ เรื่องนี้เขาค่อนข้างละเอียดเพราะถูกพ่อฝึกมาเป็นอย่างดี
@คาสิโน 02.10 น.
เขามาถึงคาสิโนของคลับในช่วงเวลาตีสอง และดูเหมือนว่ามาร์ตินจะเริ่มส่างเมา
“ยังไงครับเจ้านาย” อีธานถามที่เห็นมาร์ตินขยับตัว ในขณะที่รถจอดนิ่ง
“ถึงแล้วเหรอวะ?”
“ครับเจ้านาย”
“เปิดประตู” มาร์ตินหันไปสั่งคนที่ทำหน้าที่ขับรถตู้ที่อยู่ด้านหน้า
ก่อนที่จะก้าวเท้าลงโดยมีลูกน้องยืนเคลียร์อยู่ด้านหน้าตรงที่เขากำลังจะเดินลงไป
เขาตรงไปที่โต๊ะทำงานก่อนที่สุชาติจะเดินเข้ามาหา
“ไอ้ชาติ มึงปล่อยให้ไอ้เสี่ยปืนติดหนี้เยอะขนาดนั้นได้ไงวะ”
“คือ...ผม”
“ตอบ” อีธานเข้าไปกระชากเสื้อเค้นถามอีกครั้ง
“คือทีแรกเสี่ยมันเอาโฉนดมาวางไว้ครับ...แต่ผมพึ่งมารู้ว่ามันโดนยึดไปจากบ่อนที่อื่นแล้ว”
“ไอ้เวร....กล้าตบตากูเหรอวะ” น้ำเสียงทรงอิทธิพลและหน้าเกรงขามของ มาร์ตินเริ่มดังขึ้นจนลูกน้องของเขาถึงขั้นสะดุ้ง
เขารู้ดีว่ารุ่นพ่อของเขาฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น ซึ่งรุ่นลูกก็น่าจะไม่แพ้กัน ยิ่งเป็นคนหนุ่มเลือดร้อนขนาดนี้มีหวังถ้าใครมาแหยมก็คงจะตายไม่เหลือซาก
“แต่....ผมจับลูกสาวมันมาแล้วนะครับนาย”
“ห๊ะ! ใครบอกให้มึงจับมันมา”
“ก็ผมไม่รู้จะทำยังไงอ่ะครับ ได้ยินวันนั้นนายบอกว่าลูกสาวมันสวยผมก็เลยไปจับมาเป็นตัวประกันเอาไว้ก่อน”
“กูแค่ให้มึงไปขู่มัน...กูไม่เคยเห็นหน้าลูกสาวมันเลยด้วยซ้ำ...ไอ้เวร”
“....”
“แล้วตอนนี้มึงจับไปไว้ที่ไหน?”
“ห้องพักชั้นสามครับ ผมมัดไว้อย่างดี”
มาร์ตินส่ายหัวให้กับลูกน้องที่ทำนอกเหนือคำสั่ง เขาแค่ต้องการจะขู่ แต่ก็ต้องเดินไปดูลูกสาวของเสี่ยปืนที่ลูกน้องจับมาขัดดอกในคืนนี้
แกร่ก เสียงประตูเปิด พร้อมกับเสียงแทรกของหญิงสาวที่ร้องขอความช่วยเหลือ
“ช่วยด้วยค่ะ” เธอร้องลั่น สวนคนที่เดินเข้ามาใหม่ เพราะอยากจะตะโกนให้คนภายนอกได้ยินว่าเธอโดนจับตัวอยู่ในนี้
มาร์ตินเดินตรงไปที่หญิงสาวที่โดนมัดมือนั่งอยู่ที่โซฟา
“อย่า!!! อย่าทำอะไรฉันนะ” แสงไฟด้านนอกสาดส่องสว่างจ้าเข้ามาจนเธอมองไม่เห็นหน้าคนที่กำลังเดินตรงมาหาเธอ
“หยุดร้องได้แล้ว” เสียงเข้มตะหวาดหญิงสาวที่เอาแต่ร้องอยู่ตรงหน้า
“ก็ปล่อยฉันไปสิไอ้เลวจะจับตัวฉันมาทำไม?”
มาร์ตินเดินไปจับปลายคางของเธอให้เชิดขึ้น
“อย่ามาปากดีกับฉัน”
เธอมองใบหน้าหล่อคม และก็ถึงขั้นตกตะลึง เขาไม่ใช่ผู้ชายคนที่จับตัวเธอมาเมื่อตอนเย็นหนิ! แถมยังเป็นหนุ่มหล่อที่ดูจะเป็นรุ่นพี่เธอเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น
“รู้ไหมว่าพ่อของเธอติดหนี้ที่บ่อนฉันไว้เท่าไหร่?”
“นี่เขาเป็นเจ้าของบ่อนนี้อย่างนั้นเหรอ? ไม่น่าเชื่อ!” เธอแอบคิดในใจเพราะอายุของเขาก็ยังน้อย และดูเหมือนว่ากำลังเรียนอยู่
“ฉันไม่รู้...อยากทวงก็ไปทวงกับพ่อฉันสิ ฉันเกี่ยวอะไรด้วย?”
“ก็พ่อของเธอไม่ยอมจ่าย...ลูกน้องของฉันเลยพาเธอมาที่นี่ไง” เขาพูดด้วยใบหน้าที่เย้ยหยัน
“พาฉันมาทำไม ฉันไม่มีอะไรให้นายนะ” เธอมองหน้าคมอย่างสงสัย
ส่วนเขาก็จ้องหน้าเธอกลับ ไม่นึกเลยว่าลูกสาวเสี่ยปืนที่เขาพูดไปส่งๆ ว่าเธอสวย จะสวยสมกับที่ปากเขาพูดเอาไว้จริงๆ
“ไม่ได้เงินแต่ได้ตัวก็ยังดี” เขาเดินเข้ามาลูบไล้ไปที่ต้นขาอ่อนของเธอทั้งที่อยู่ในชุดนักศึกษา และกระดุมเสื้อก็เผยให้เห็นว่าเป็นสถาบันเดียวกับที่คู่อริของเขาเรียนอยู่
“นายเมา” หญิงสาวหน้าสวยถามขึ้น ส่วนเขาก็ยื่นใบหน้าหล่อคมเข้ามาใกล้
“ก็แค่มึนๆ”
“ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอร้อง”
“ปล่อยได้แต่เธอต้องหาเงินมาคืนภายในพรุ่งนี้ 10 ล้าน”
“....” เธอได้แต่เงียบพรางคิดถึงผู้เป็นพ่อ ที่ทำให้เธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างไม่เต็มใจ
“เธอชื่ออะไร” ใบหน้าหล่อคมไล่ไปตามซอกคอขาวระหง ที่อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ เขาแค่สูดดมกลิ่นกายจากซอกคอของเธอเท่านั้นมันยังไร้การสัมผัส แต่แค่นี้มันก็ทำให้หญิงสาวเกิดอาการสยิวขนลุกไปทั้งตัว
“ฉะ...ฉันชื่อปิ่น ปิ่นมุข”
“ชื่อเพราะดีหนิ”
“นายล่ะ”
“เธอไม่ต้องรู้”
เขาเริ่มขยับเข้ามาใกล้เธอให้มากขึ้นไปอีก ตอนนี้แอลกอฮอล์ที่ดื่มมาก่อนหน้ามันก็ยังพอจะหลงเหลืออยู่ แต่ก็ไม่ได้มากเท่าสองชั่วโมงก่อน
เขาผลักเธอลงไปที่โซฟา ทั้งที่มือของเธอยังไม่เป็นอิสระ
“พี่หน้าหล่อคะ ปล่อยปิ่นไปเถอะนะคะ” เธอกลัวเลยลองอ้อนวอนเขาดูอีกครั้ง
“เมื่อกี้เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ?” หน้าคมถึงขั้นขมวดคิ้วถาม
“พะ...พี่หน้าหล่อ” เธอมองการกระทำของเขาที่กำลังรวนรามเธอเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นทำหน้ายักษ์ใส่
ใบหน้าคมได้แต่นิ่งอึ้งไป ตอนนี้ใบหน้าสวยไร้เดียงสาของยัยถั่วงอกมันแวบมาในจอประสาทตาของเขาพอดี และมันก็ทำให้เขาหมดอารมณ์
“แม่ง!!! ทำไมถึงไปนึกถึงหน้ายัยนั่นได้วะ?”
เขาดีดตัวให้นั่งตรงทั้งๆ ที่กำลังจะขึ้นคร่อมสาวสวยตรงหน้า
“วันนี้ฉันจะปล่อยเธอไปก่อน ถ้าฉันอยากได้เมื่อไหร่จะเรียกเธอมา ไม่ต้องคิดจะหนี เพราะฉันรู้ความเคลื่อนไหวของคนในบ้านเธอทั้งหมด”
“แล้วฉันต้องทำกี่ครั้งถึงจะใช้หนี้ที่พ่อฉันสร้างเอาไว้หมด?”
“ไม่รู้”
เธอมองหน้าเขาแล้วก็ได้แต่สงสัย แค่เรียกว่าพี่หน้าหล่อ เธอก็ลอดมาได้แล้วอย่างนั้นเหรอ ดูท่าทางจะมีปมอะไรหรือเปล่า ปิ่นมุขได้แต่คิดในใจ
มาร์ตินเดินกลับมาที่ห้องทำงาน โดยมีสาวสวยเดินตามหลังมาด้วย
“ไงครับเจ้านาย? เรียบร้อย?” อีธานเลิกคิ้วถาม พร้อมมองไปยังด้านหลัง จ้องมองเรือนร่างที่ขาวนวลอวบอิ่มที่กำลังยืนอย่างหวาดระแวง
“สวยใช้ได้เลยนี่หว่า”
“มึงเรียกไอ้ชาติให้พาเธอไปส่งที่บ้านด้วย”
“อ้าวไม่เด็ดเหรอวะ? ปล่อยกลับง่ายจัง”
“...” หญิงสาวถึงกับหน้ามุ่ยที่ได้ยินประโยคที่อีธานพูด ฟังดูแล้วมันดูถูกกันชัดๆ
เขาไม่ตอบและเดินไปนั่งลงที่โต๊ะทำงาน เอาแต่ครุ่นคิด ว่าทำไมเขาถึงได้แต่นึกถึงแต่หน้ายัยเด็กนั่น
แกร่ก
“ครับนาย”
“มาพาเธอไปส่งบ้านที” อีธานออกคำสั่ง เมื่อสุชาติเปิดประตูเข้ามา
สุชาติมองอย่างสงสัย เขาพยายามจับตัวเธอมาแทบตายแต่เจ้านายก็ปล่อยเธอไปไว และง่ายดายแบบนี้อย่างนั้นเหรอ?
“มึงไม่ต้องสงสัย...เพราะกูก็สงสัยเหมือนมึงนั่นแหละ” อีธานกระซิบบอกคนที่ยังทำหน้างง
“แล้วเรื่องหนี้ล่ะครับ”
“วันนี้มึงเอาไปส่งก่อน วันหลังค่อยเอามาขัดดอกใหม่กูอยากแล้วค่อยพามามึงเข้าใจไหม?”
“ครับๆ”
“ยังไงวะไอ้ติน น้องเขาไม่เด็ดเหรอวะมึงถึงทำหน้าซังกะตายแบบนั้น?” พอประตูปิดลงอีธานก็รีบเดินเข้ามาถามเพื่อนรักทันที
“เปล่า...กูยังไม่ได้ลอง”
“คนอย่างมึงเนี่ยนะจะปล่อยเหยื่อกับไปง่ายๆ”
“กูเห็นหน้าเมียเด็กของไอ้บรู๊คมันแวบขึ้นมา แล้วกูหมดอารมณ์เลยว่ะ”
“เชี้ย....แล้วมึงไปนึกถึงเธอทำไม? ชอบ?”
“เปล่า...แล้วกูก็ไม่เคยนึกถึง มันขึ้นมาเอง”
“โห...ไอ้เวร ของดีมาถึงปากเสือกตายด้านซะงั้น”