เช้าวันต่อมา 9:00 น.
สามสาวมารวมตัวกันที่บ้านของอาริส และเติ้ลก็ขับรถมาตามโลเคชั่นที่อาริสส่งไปให้
“จะไปไหนกัน?” เสียงเข้มเดินลงบันไดมาจากทางชั้นสองเห็นสามสาวแต่งตัวอย่างแปลกตาไม่เหมือนชุดอยู่บ้านเลยเอ่ยถาม
“ไปถ่ายรูปวิวส่งอาจารย์วิชาโฟโต้”
“ไหนกล้องล่ะ?” บรู๊คถามมาอย่างจับผิด
“อยู่ในรถ?”
ลูน่ากับโรสยืนกันนิ่ง ปล่อยให้อาริสตอบโต้กับพี่ชายของเธอไป
ปี๊น ปี๊น เสียงแตรรถดังมาจากทางหน้าบ้าน
“แล้วนั่นเสียงรถใคร” บรู๊คถามที่เห็นรถยนต์ไม่คุ้นตามาจอดอยู่ทางหน้าบ้าน
“รถเพื่อน...เพื่อนมารับ”
“ผู้ชาย?”
“ผู้ชาย เป็นเกย์” อาริสรีบตอบ ทั้งโรสและลูน่าถึงขั้นก้มหน้ากลั้นขำ
นี่เติ้ลเป็นเกย์ไปแล้วหรือเนี่ย! ยัยเพื่อนตัวแสบโกหกได้เป็นตุเป็นตะ กลัวพี่ชายจะห้ามไม่ให้ออกไปเที่ยว
“รีบไปรีบกลับพี่โทรมาแล้วก็ต้องรับสายด้วย พี่ไปรับน้องต่างจังหวัด 1 อาทิตย์ ห้ามก่อเรื่อง ห้ามเถลไถล”
“รู้แล้วน่า...”
บรู๊คหันมองคนที่กำลังลดกระจกลง และจ้องหน้าเขาตาเขม็งอย่างจับผิด
“เรารีบไปกันเถอะ” อาริสรีบเรียกเพื่อนทั้งสองของเธอให้รีบเดินออกจากบ้าน
“ฮ่าๆ” เสียงหัวเราะระเบิดขึ้น เมื่อประตูรถปิด
“พวกเธอหัวเราะอะไรกัน?” เติ้ลถามด้วยความสงสัย เสียงหัวเราะคริคัก จากสองสาวยังดังมาไม่หยุด
“ก็ยัยอาริสอ่ะดิ บอกพี่ชายว่านายเป็นเกย์”
“หึ! นี่พี่ชายเธอหวงขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“เออดิ! ไม่งั้นนายก็โดนซักยาว เผลอๆ เราอาจจะไม่ได้ออกไปเที่ยวก็ได้”
“มีน้องสาวสวยก็งี้แหละ”เติ้ลตอบพร้อมมองไปยังพี่ชายที่ยังทำหน้าโหดอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน
“หูยยยยย จากเรื่องตลกเปลี่ยนเป็นฉากหวานได้เร็วเลยนะนายเติ้ล” ลูน่าเอ่ยแซวที่เห็นเขาชมเพื่อนจอมแสบของเธอซะดื้อๆ
อาริสแก้เขิน โดยการเปิดมือถือให้ GPS นำทางไปยังสถานที่ที่เธอกำลังจะไป
รถแล่นออกจากบ้านมาไกลเกือบนับชั่วโมง ตรงมาที่ชาญเมืองที่มีแต่ทุ่งหญ้าเขียวชะอุ่ม
@ สนามพารามอเตอร์
“เลี้ยวซ้ายเข้าทางนั้นเลยเติ้ล”
“นี่มันที่ไหนวะ ยัยบ้าอาริส!!” ลูน่าร้องเสียงหลงทันทีที่รถจอดตรงลานดินที่มีเครื่องร่อนลอยอยู่กันเต็มท้องฟ้า และเธอพอจะรู้แล้วว่าตรงหน้าเธอต้องเจอกับอะไร
“ก็ที่เล่นแอดเวนเจอร์แบบที่ฉันบอกไง”
“ฉันไม่เล่นนะ ฉันกลัวความสูง” โรสรีบตอบ
“มันก็น่าสนุกดีนะ”
“เนอะเติ้ล มันน่าสนุกดีออก...ไปลงรถกันเถอะ”
โรสกับลูน่าลงรถอย่างระแวง ส่วนสองคนข้างหน้ากับเห็นเป็นเรื่องสนุก
“สวัสดีครับคุณอาริส” ครูฝึกที่คุ้นเคยทักอาริสขึ้น
“สวัสดีค่ะ..ครูโจ”
“วันนี้คุณบรู๊คไม่มาด้วยเหรอครับ?”
“ไม่ได้มาค่ะ อาริสมากับเพื่อน”
ใช่! แต่ก่อนพี่ชายเธอพามาเล่นพารามอเตอร์ที่นี่เป็นประจำเมื่อตอนที่พี่ตัวดียังไม่ติดเพื่อนติดหญิง ตอนนั้นเขาใส่ใจเธอมากกว่านี้ และเธอก็ได้ความกล้าความแก่นมาจากพี่ชายของเธอนั่นแหละ
“วันนี้ขึ้นบินทั้ง 4 คนเลยหรือเปล่าครับ” ครูฝึกถาม
“หนูสองคนไม่เอานะคะ” โรสกับลูน่าจับมือกันแน่นด้วยความกลัว
“เติ้ลล่ะ?” อาริสหันไปถามทดสอบความกล้าของผู้ชายเพียงคนเดียวของกลุ่ม
“เราบินด้วย”
“สองคนค่ะ”
“พร้อมแล้วเชิญด้านนี้ครับ”
อาริสเอากระเป๋าสะพายส่งให้โรส และเดินตามครูฝึกไปพร้อมกับเติ้ล
เติ้ลกับอาริสยืนฟังครูฝึกอธิบายอย่างละเอียด และใส่ชุดเซฟตี้สำหรับป้องกันทุกขั้นตอนอย่างเคร่งครัด
ตอนนี้เติ้ลขึ้นบินพร้อมครูฝึก ส่วนอาริส เธอชำนาญแล้ว จึงได้ขึ้นบินคนเดียว บนพารามอเตอร์ที่ค่อยๆ ลอยตัวขึ้นสู่ท้องฟ้ากว้าง
เธอชูสองนิ้วยิ้มให้จากในอากาศ แล้วตะโกนใส่วิทยุสื่อสาร
“โอเค ใช่ไหมเติ้ล?”
“โอเคมาก...บรรยากาศข้างบนดีมาก สวยมากเลย”
อาริสชมบรรยากาศชานเมืองที่มองไปเห็นทุ่งหญ้าสีเขียว และบ้านเรือนหลังใหญ่อยู่ไกลๆ
วันนี้อากาศและท้องฟ้าชั่งเป็นใจมาก ลมเย็นๆ กับท้องฟ้าสีครามมันช่างสวยงามจนน่าเก็บภาพเอาไว้จริงๆ แต่บนนี้มีแต่พารามอเตอร์กับวิทยุสื่อสาร เธอเอามือถือฝากเอาไว้กับเพื่อนของเธอแล้วนะสิ “เสียดายจัง!”
เธอเลิกนึกถึงมือถือ และมองภาพบรรยากาศทั้งหมด และเสพมันด้วยตาเปล่าของเธออย่างมีความสุข มันทำให้เธอรู้สึกเป็นอิสระ และปลดปล่อยอารมณ์ได้แบบสบายใจ
กระแสลมพัดปะทะหน้าอย่างแรง และมันก็รู้สึกว่าแรงขึ้นกว่าเดิม เธอพยายามบังคับเครื่องร่อนที่แกว่งไกว แต่กระแสลมมันยิ่งทำให้พารามอเตอร์แกว่งหนักขึ้น
อะ...โอ๊ย...!!!
กระแสลมพัดมาแรงมาก ทำให้ลมเปลี่ยนทิศ และเครื่องร่อนของเธอเกิดเสียการทรงตัวเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน
ว๊าย!!!!
เธอพยายามบังคับให้มันกับมาในทิศทางเดิม....แต่...แต่มันไม่เป็นผล
“คุณอาริส...คุณอาริสครับ” เสียงวอจากครูฝึกที่มองเห็นเธอส่งสัญญาณเรียก แต่มันก็ขาดๆ หายๆ จนดับไป
“แย่แล้ว!!!!”
อ้าส์......เครื่องร่อนของเธอบินต่ำลงไร้การควบคุม
“กรี๊ด.....ต้นไม้ โอ๊ย!!!!”
เสียงใบไม้สั่นไหวแรง พร้อมเสียง “โครม!”
อาริสรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบโคลงเคลง ก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดลง...
เธอลืมตาขึ้นมาช้าๆ พบว่าตัวเองกำลังห้อยต่องแต่งอยู่บนต้นไม้ใหญ่กลางลานกว้างบ้านของใครก็ไม่รู้สายรัด รั้งร่างเธอค้างไว้พอดี เธอรอดจากการตกลงพื้นมาได้หวุดหวิด
“โอ๊ย...นี่ฉันมาอยู่ที่ไหนอีกเนี่ย...”
เธอหันซ้ายหันขวา หวังจะมีใครเดินผ่านมาบ้าง และในจังหวะนั้นเอง เสียงชายหนุ่มนับสิบที่ยืนใส่ชุดดำคล้ายๆ บอร์ดี้การ์ด วิ่งกรูกันเข้ามาพร้อมอาวุธปืนครบมือ ส่องมาทางเธอเป็นสิบๆ กระบอก
แก็ก แก๊ก แก๊ก ปืนนับร้อยกระบอกที่ว่าขึ้นไกลปืนพร้อมที่จะยิง บวกกับใบหน้าที่เหี้ยมโหดของชายชุดดำ
“ใคร?” เสียงชายฉกรรจ์คนนึงตะโกนถาม
“อย่า!!! อย่ายิงนะคะ” เธอรีบดึงหมวกที่ปกปิดใบหน้า ปัดผมที่ยุ่งเหยิงพร้อมแสดงตัวตน
เธอมองไปโดยรอบ ที่มีแต่ชายฉกรรจ์ชุดดำที่ยืนอยู่เต็มบริเวณ นี่ไม่นับรวมที่ยืนอยู่ตรงรั้วบ้านยังกับกำแพงหนาอีกนะ
“คือ...เครื่องร่อนมันเสียการทรงตัว ทำให้ ฉัน...หล่นลงมาอ่ะค่ะ อย่ายิงนะคะ”อาริสรีบห้ามด้วยความกลัว
“นี่ฉันพลาดหล่นมาบ้านมาเฟียหรือเปล่าเนี่ย!? ทำไมถึงมีแต่ชายชุดดำยืนอยู่เต็มไปหมดแบบนี้นะ!”
“เกิดอะไรขึ้นวะ?” เสียงทุ้มเข้มของผู้ชายอีกคนดังมาจากทางด้านหลังของพวกเขาอีกที
ฝีเท้าหนักสาวเท้ายาวก้าวเข้ามา และมุ่งตรงมาทางเธอ