บทที่1 ความผิดพลาดที่ไม่ตั้งใจ

1645 Words
"2ขีด!" วินาทีแรกที่ตรวจมันขึ้น2ขีด เรายังไม่ปักใจเชื่อว่าท้อง จึงทดสอบตรวจครรภ์อีกแท่งหนึ่งปรากฏว่า2ขีดเหมือนๆกัน เข่าอ่อนแทบทรุดลงไปกับพื้นที่รู้ว่าท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้จะทำยังไงต่อ หนทางมันมืดแปดด้านไปหมด ถ้าพ่อแม่รู้ว่าท้องตอนเรียนอยู่ พวกท่านจะโกรธและเสียใจมากที่ลูกสาวทำตัวแหลกเหลว ท้องไม่มีพ่อ! มือบางวางลูบไล้บนหน้าท้องแบนราบที่มีสิ่งมีชีวิตอันใหม่กำลังก่อกำเนิดอยู่ข้างในนี้ คุณพ่อคุณแม่ค่ะ นิดขอโทษแต่มันจำเป็นต้องทำจริงๆ! ................. "ยัยนิดกลับมาถึงบ้านนานหรือยัง" คุณหญิงกลับมาพร้อมสามีตนเพราะรู้ข่าวจากหนูนัยน์ เพื่อนสนิทว่ายัยนิดไม่สบายเลยต้องกลับมาพักก่อน เธอเป็นห่วงลูกสาวตัวเอง.... "กลับมาได้สักพักแล้วค่ะคุณหญิง พอกลับมาบ้านก็เดินตรงไปยังห้องนอนของตัวเองและไม่ยอมออกมาเลยค่ะ" แม่บ้านรายงานตามความจริง "ดิฉันเป็นห่วงลูกของเรา พักหลังๆนี้ยัยนิดดูเปลี่ยนไป หน้าตาก็ซึมเศร้าไม่สดใสเหมือนก่อน ดิฉันกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกเรา" "งั้นเราขึ้นไปดูลูกที่ห้องหน่อยไหม ผมเองก็เป็นห่วงลูกไม่แพ้กันกับคุณหรอก" ผู้เป็นพ่อก็ห่วงลูกสาวเหมือนกัน สองสามีภรรยาขึ้นไปยังห้องนอนของลูก "ยัยนิด เปิดประตูให้พ่อแม่หน่อยสิ พ่อกับแม่อยากคุยด้วยนะ" เธอพลางเคาะประตูเรียก แต่กลับไร้เสียงตอบกลับ "เอ๊ะ! ประตูไม่ได้ล็อค" ผู้เป็นแม่ชักเป็นห่วงลูกพลางเปิดประตูเข้าไปทันที กลับพบว่าไม่เจอลูกที่เตียง "ยัยนิด อยู่ที่ไหนกัน" อภิรักษ์ ผู้เป็นประมุขของบ้านนี้กวาดสายตาหาร่างลูกสาวแต่ไม่พบ เจอแต่กระเป๋าวางไว้ที่ข้างเตียง "คุณ! ยัยนิด!" เสียงคุณหญิงร้องกรี๊ดดังจากห้องน้ำ เขารีบเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นปรากฏว่า ภาพลูกสาวอยู่ในชุดนักศึกษานอนหมดสติ ข้อมือของเธอถูกกรีดออกมาจนเลือดซึมออกมาเต็มอ่างอาบน้ำ "คุณ ทำยังไงดีค่ะ" คุณหญิงทำอะไรไม่ถูกมัวแต่ช็อคที่เห็นลูกสาวคิดสั้น จะฆ่าตัวตาย "รีบพาลูกนิดไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย!" เขารีบเข้าไปช้อนอุ้มร่างลูกสาวตัวเองออกไปจากห้องนอน จุดมุ่งหมายคือโรงพยาบาล เขาไม่รู้เหรอว่าลูกมีปัญหาอะไร แต่ทำแบบนี้หัวอกคนเป็นพ่อแม่จะเสียใจอย่างมาก ................. @โรงพยาบาลเอกชน "คนไข้มีอาการเครียดหนักจนอยากจะทำแบบนี้ ยังไงคนเป็นพ่อแม่ต้องให้กำลังใจนะครับเพราะร่างกายและจิตใจของคนไข้เปราะบางมาก ยิ่งเวลาช่วงตั้งครรภ์อ่อนๆก็ยิ่งอ่อนไหวมากเป็นพิเศษ" หมอบอกอาการของลูกสาวให้พ่อแม่รับรู้พร้อมทั้งตกใจที่รู้ว่าลูกสาวท้อง! "ว่าไงนะครับ! ยัยนิดท้อง" เขากับภรรยาต่างช็อคที่รู้ว่าที่ลูกสาวต้องทำอย่างนี้เพราะท้อง! "ครับ คนไข้ตั้งครรภ์ได้2สัปดาห์แล้ว ขอแสดงความยินดีด้วยครับ" พอหมอขอตัวเดินออกไปจากห้องพักฟื้น ปล่อยให้พ่อแม่ลูกอยู่ด้วยกันตามลำพัง "นั่นคุณรักษ์จะไปไหนคะ" คุณหญิงเห็นว่าสามีตนเดือดดาลกำลังจะหุนหันเดินออกไป "ผมจะไปตามตัวคนที่มาทำกับยัยนิดของเรามาให้ได้ มันต้องรับผิดชอบในสิ่งที่มันทำ!" "แล้วคุณรู้หรือคะว่าใครเป็นพ่อของเด็กของลูกนิด" คำถามของภรรยาทำให้คนที่โมโหกลับหยุดชะงักลงพร้อมอารมณ์เริ่มค่อยเย็นลง "ไม่รู้" ตอบเสียงอ่อน "ฉันว่าเราควรให้ลูกนิดฟื้นขึ้นมาก่อนแล้วค่อยถามว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่!" คำพูดของภรรยาทำให้เขาคิดได้ "อืม" เขาเห็นด้วยกับภรรยา รอให้ลูกสาวฟื้นมาดีกว่าจะได้รู้ว่าพ่อของเด็กมันเป็นใคร .................... Talk หนูนิด นี่เรายังไม่ตายใช่ไหม จำได้ว่าเราตัดสินใจทำความผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงคืออยากจะฆ่าตัวตายไปพร้อมกับเด็กในท้อง เพราะไม่รู้จะทำยังไง น้ำตาคลอเบ้าเมื่อรู้ว่าฟ้ายังเห็นใจเราให้มีชีวิตอยู่ต่อ? "อื้ม~" เสียงหวานครางในลำคอเบาๆพลางลืมตาตื่นขึ้นมา เห็นเพดานห้องไม่คุ้นเคยแถมกลิ่นที่ไม่ค่อยรู้จัก "คุณรักษ์ ลูกเราฟื้นแล้ว" เสียงคุณพ่อคุณแม่นี่น่า นี่เรายังมีชีวิตอยู่เหรอ "คุณแม่" "ลูกนิดเป็นยังไงบ้าง พ่อกับแม่ใจคอไม่ดีเลย ลูกทำแบบนั้นทำไม" "คุณพ่อคุณแม่รู้แล้วเหรอคะว่านิด..." เราไม่อยากพูดคำต่อไปที่ทำให้ต้องอับอาย ไม่รู้มันเกิดขึ้นได้ยังไง ตัวเราเองก็ไม่รู้เหมือนกัน พอตื่นขึ้นมาก็พบว่านอนอยู่กับผู้ชายที่ไม่รู้จักซะแล้ว!! "พ่อกับแม่รู้แล้ว นิดเล่าให้ฟังได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วพ่อของเด็กเป็นใคร" คำถามของแม่ที่ดูเหมือนจะตอบง่าย แต่คนที่เพิ่งเจอแบบนี้มันน้ำท่วมปาก อึดอัดใจที่จะตอบไปตรงๆ "ว่ายังไงล่ะยัยนิด พ่อจะไม่ยอมให้ลูกท้องไม่มีพ่อโดยเด็ดขาด มันคนนั้นต้องรับผิดชอบ!" คนเป็นพ่อโกรธผู้ชายคนนั้นที่ทำกับยอดดวงใจของเขาที่อุตสาห์เลี้ยงดูไว้ อยู่ในกรอบ โอวาทของพ่อแม่มาโดยตลอด "มันเป็นความผิดพลาดที่ไม่ตั้งใจ ตอนนั้นนิดไปฉลองกับพวกๆเพื่อน แต่มีเพื่อนชายตั้งใจจะวางยาแก่นิด" เรายังเล่าไม่ทันจบ พ่อก็สรุปเอาเออเองซะงั้น "ไอ้เลว! มันกล้าทำแบบนี้กับยัยนิดได้ยังไง พ่อจะไปแจ้งความเอามันเข้าคุก โทษฐานข่มขืนลูกสาวพ่อจนท้อง" "นิดขอร้องอย่าเอาเรื่องเลยนะคะ ลูกนิด นิดเลี้ยงเองได้ค่ะ ส่วนเรื่องเรียนนิดจะดรอปเอาไว้1ปีก่อน พ่อเห็นแก่หน้าหลานที่กำลังจะเกิดมาด้วย นะคะคุณพ่อ" เราไม่อยากให้ใครมารับผิดชอบด้วย ในเมื่อเขาเกิดมาแล้วก็จะเลี้ยงดูให้ดีที่สุด! "แต่ทว่ามันทำกับลูกแบบนี้ ลูกจะยอมง่ายๆงั้นเหรอ" ดูท่าพ่อจะหัวแข็ง ไม่ยอมเชื่อคำขอร้องของลูกสาวคนนี้ง่ายๆ "คุณรักษ์ทำตามยัยนิดขอร้องไว้เถอะค่ะ คุณรอเลี้ยงหลานกับดิฉันดีกว่านะคะ" คุณหญิงแม่ขอร้องอีกคนทำให้คุณพ่อยอมใจอ่อนลง "ก็ได้" "ขอบคุณนะคะพ่อ นิดขอกราบขอโทษคุณพ่อคุณแม่ด้วยที่นิดเป็นลูกที่ดีแก่พ่อแม่ไม่ได้" เราพนมมือแนบอกกราบคุณพ่อคุณแม่ด้วยน้ำตาคลออย่างรู้สึกผิดเต็มอก "แม่กับพ่อให้อภัยลูกสาวคนนี้ได้เสมอจ๊ะ ไม่เป็นไรนะลูกนิด แม่จะช่วยลูกเลี้ยงหลานเอง" "นิดรักคุณแม่กับคุณพ่อมากที่สุดเลยค่ะ" "แม่กับพ่อก็รักลูกสาวคนนี้มากเหมือนกันจ๊ะ" สามคนพ่อแม่ลูกต่างกอดกันกลมด้วยความรักใคร่ เราโชคดีมากที่พ่อแม่เข้าใจและคอยสนับสนุนเรา นับจากนี้ไป ต่อให้เราต้องเจอกับอะไรก็ไม่กลัวแล้ว นิรชาคนใหม่จะเข้มแข็งเพื่อลูก! . . . 5 ปีผ่านไป รถตู้คันใหญ่ของบริษัทส่งออกเครื่องเพชรอันดับต้นๆของเมืองไทยจอดแล่นตรงหน้าคฤหาสน์สิริตานันท์ ร่างบางก้าวลงมาจากรถตู้พร้อมร่างหนาสูงใหญ่อย่างเจ้าของบริษัทก้าวลงมาตามหลัง "เป็นยังไงบ้างลูก ทำงานวันแรกสนุกไหม" คุณพ่อในชุดสูทหล่อคมเข้มประธานบริษัท ถึงแม้อายุท่านจะมากแต่ความหล่อเหลายังเป็นที่สนใจแก่สาวใหญ่มากมาย "สนุกค่ะคุณพ่อ นิดแค่ยังเป็นเด็กฝึกงานอยู่ ยังต้องเรียนรู้เพิ่มเติมอีกเยอะ" ถึงแม้ว่าเราจะเรียนสายการบริหารธุรกิจมาแล้วแต่ก็ใช่ว่าจะทำได้ตั้งแต่วันเดียว ทุกอย่างมันค่อยๆเป็นค่อยๆไป "คุณแม่นิดกลับมาแล้ว" ไม่ทันจะถึงห้องนั่งเล่นก็ได้ยินเสียงเด็กเจื้อยจ้าวเข้ามาหากอดแม่ทันทีเลย เจ้าเด็กสองแฝด "มาร์วิน ม่านฟ้าคิดถึงแม่นิดมากเลยเหรอคะ" เราจับลูกสองแฝดชายหญิงหอมแก้มซ้ายขวาทีด้วยความคิดถึงสุดใจ พวกเขาคือแรงใจสำคัญที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่ต่อได้ก็เพราะลูก "พวกเราเล่นกับคุณยายเบื่อแล้วก็เลยคิดถึงคุณแม่มากเลยครับ" มาร์วินแฝดพี่ชาย ตอบได้อย่างชัดเจนมากไม่เหมือนกับแฝดน้องสาวที่ยังพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง อยากอ้อนแม่มากกว่าพี่ชาย "แม่นิดก็คิดถึงลูกทั้งสองเหมือนกันค่ะ แต่ตอนนี้แม่เพิ่งทำงานมาเหนื่อยๆ ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะแล้วค่อยมาเล่นกับลูก โอโครไหมคะ" "โอเครค่ะ" สองแฝดรับคำสั่งผู้เป็นแม่พลางยิ้มแฉ่งน่ารักน่าเอ็นดูกันทั่วบ้าน "ดีมากจ๊ะ" พอลูกสองแฝดไปอยู่กับพี่เลี้ยงแล้วนั้น คุณแม่ก็บอกเราก่อนจะขึ้นไปข้างบน "พอลูกนิดทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วมาพบกับพ่อแม่ที่ห้องส่วนตัว แม่กับพ่อมีเรื่องอยากจะคุยด้วย" "เรื่องอะไรหรือคะ" "ไว้ลูกไปพบพ่อแม่ที่ห้องแล้วลูกจะรู้เอง" คุณแม่พูดให้เราค้างคาใจอยู่เรื่อยเลย คงจะเป็นเรื่องอะไรได้ก็คงเป็นเรื่องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่พ่อแม่หมั้นหมายเอาไว้ตั้งแต่เด็กนะสิ แต่เราคงขัดคำสั่งพ่อแม่ไม่ได้!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD