บทที่2 ฉันคิดถึงเธอ

1740 Words
เราจัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็มาพบคุณพ่อคุณแม่ที่ห้องตามคำสั่ง "นั่งลงก่อนสิลูกนิด" "ค่ะคุณแม่" เราหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาด้วยสีหน้าแอบเศร้าๆเพราะรู้จุดประสงค์ของพ่อแม่ดีว่าต้องการอะไร "พ่ออยากให้ลูกนิดแต่งงานกับคู่หมั้นที่พ่อแม่กับเพื่อนของพ่อทางนี้หมั้นหมายลูกทั้งสองคนไว้ตั้งแต่เด็ก ตอนนี้ลูกก็เรียนจบแล้วก็ควรแต่งงานมีครอบครัว และอีกอย่างก็จะได้ลบคำครหาว่าลูกเลี้ยงเด็กสองแฝดเอาไว้ว่าลูกมีสามีแล้ว ลูกก็จะไม่ได้เป็นข่าวอีก" "คุณพ่อคุณแม่หมั้นหมายเอาไว้ให้ลูกตั้งแต่เด็กโดยที่ไม่ถามนิดสักคำเลยเหรอคะ ว่าอยากแต่งงานกับคนที่พ่อแม่หาให้ไหม นิดคงแต่งงานให้พ่อแม่ไม่ได้หรอกค่ะ" เราตัดสินใจดีแล้ว สิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือลูกแฝดสองคน "ทำไมล่ะลูกนิด" คนเป็นแม่ถามด้วยความแปลกใจ "แล้วคนที่จะมาแต่งงานกับนิดเขาจะยอมหรือคะ ถ้าหากรู้ว่านิดมีลูกแล้ว เขาคงไม่อยากแต่งกับแม่ม่ายมีลูกติดได้หรอกค่ะ" บางทีการใช้วิธีนี้อาจจะยกเลิกงานแต่งงานก็ได้ แล้วเราก็จะได้อยู่กับลูกด้วยกันสามคนแม่ลูกอย่างมีความสุขสักที! "ไม่ได้!" คำเด็ดขาดของคุณพ่อเปรียบเสมือนฟ้าผ่าลงกลางใจของเราทันที นี่เราไม่สามารถเปลี่ยนใจคุณพ่อได้เลยใช่ไหม "คุณพ่อ!" "ลูกนิดทำตามที่พ่อบอกเถอะ มันเป็นคำสัญญาระหว่างผู้ใหญ่เขา ถือว่าทำเพื่อพ่อแม่สักครั้งในชีวิตเถอะ ไม่แน่นะ พอลูกได้เจอกับคู่หมั้นของลูกก็อาจจะเปลี่ยนใจ อยากแต่งงานเร็วๆก็ได้" "ในชีวิตนี้นิดจะไม่แต่งงานกับใครเด็ดขาด! เอาเป็นว่านิดจะยอมทำเพื่อคุณพ่อเพื่อตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่สักครั้ง ถือว่าเป็นการแต่งงานที่จำใจแล้วกันค่ะ" เราขอตัวเดินออกไปจากห้องของคุณพ่อคุณแม่อย่างสมองว่างเปล่า ไม่ได้คิดอะไร เธอยอมเป็นลูกอกตัญญูทำได้เพื่อพ่อแม่ทุกอย่าง แม้กระทั่งต้องเสียสละความสุขส่วนตัวก็ตาม! END TALK หนูนิด . . . @รัสเซีย Talk เซบาสเตียน "อะไรนะครับคุณแม่! บังคับแต่งงานของพี่แคสยังไม่พอ ยังจะมาบังคับให้ผมแต่งงานกับคู่หมั้นที่ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนนะเหรอครับ ผมไม่แต่ง!" เซบาสเตียนหัวค้านชนฝาอย่างที่สุดที่คุณแม่แพทเรียกตัวผมมาก็เพื่อบังคับให้แต่งงานกับคนที่ผมไม่ได้รัก มันไม่มีทางเป็นไปได้! "ถึงยังไงแกก็ต้องแต่ง! แม่จะบอกให้ผู้หญิงคนนี้ทั้งสวย ทั้งเก่งด้านการบริหารแถมยังเป็นถึงลูกสาวเศรษฐีเจ้าของส่งของเพชรอับดับต้นๆของเมืองไทย แล้วอีกอย่างพวกเขาก็จะเดินทางมาที่นี้พรุ่งนี้ด้วย" "หึ! อยากมีผัวมากจนต้องบินมาถึงที่นี้เลยเหรอครับ โอ้! อเมซิ่ง" เขาแค่นยิ้มเยาะเย้ยแก่ผู้หญิงคนนั้น คงมีหน้าตาขี้เหร่สิน่ะถึงหาผัวตัวเองไม่ได้! "ตาเซบาส! ทำไมแกถึงพูดใส่หนูนิดอย่างนั้นล่ะ เดี๋ยวแม่จะฟาดแกตีซะให้เข็ด โดยเฉพาะปากเสียอย่างแก" คำพูดของคุณแม่สะดุดหูกับคำว่าหนูนิด คุณแม่หมายถึงผู้หญิงคนนั้นชื่อหนูนิดงั้นเหรอ? "เธอชื่อหนูนิดเหรอครับคุณแม่" "ใช่ หนูนิด นิรชา สิริตานันท์ เธอเป็นหญิงสาวที่ผู้ชายหลายคนหมายปอง แต่ไม่มีทีท่าว่าเธอจะมีแฟนหรือสนใจใคร สงสัยเธอคงอยากจะทำงานมากกว่าอยากแต่งงาน" ชื่อนิรชา ทำไมมันเหมือนชื่อผู้หญิงคนที่มีอะไรกันกับเขาแค่คืนเดียวเมื่อ5ปีก่อน เขาพยายามหาตัวเธอคนนั้นแล้วแต่ยังไม่เจอสักที! มันคงไม่ใช่คนเดียวกันหรอก! "แล้วทำไม?" "หนูนิดก็คงถูกพ่อแม่ของเธอบังคับให้แต่งงานกับคู่หมั้นที่ทางผู้ใหญ่หมั้นหมายกันเอาไว้ตั้งแต่เด็ก ก็เหมือนกับที่ฉันทำกับแกนี่ล่ะตาเซบาส" "อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง" เขาพอจะเข้าใจกับเรื่องราว เราสองคนบังคับให้แต่งงานด้วยกันนี่เอง "แต่ถ้าลูกสองคนลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันก็ได้เห็นมุมมองของกันและกัน ตอนนั้นแกอาจเปลี่ยนใจหันมาชอบหนูนิดของแม่ก็ได้นะ" "ไม่มีทางหรอก เพราะผมมีคนอยู่ในใจและไม่มีใครมาแทนที่คนในหัวใจผมได้หรอก ผมขอตัวไปพักก่อนนะครับ พอดีผมทำงานหนักไม่ได้นอนมาหลายวัน" เอ่ยตัดบทกับคุณแม่แพทเสียดื้อๆพลางลุกเดินออกไปจากห้องนั้นอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจคำพูดของคุณแม่ ร่างสูงใหญ่เดินหลีกขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเองพลางคิดถึงเรื่องเมื่อ5ปีก่อนที่เกิดขึ้นและฝังในใจไม่เคยลืมเลือน แต่ก่อนผมเคยแอบรักผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งก็รู้มาทีหลังว่าเขามีเจ้าของอยู่เดียว กลายเป็นว่าเป็นรักเขาข้างเดียวในสมัยเรียนปี2ในเมืองไทย เธอคนนั้นชื่อแตงโม ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมาหัวใจผมก็ปิดตายเรื่องความรัก จนมาเจอเธอคนนี้ นิรชา...เธอผู้เข้ามามีอิทธิพลในหัวใจเย็นชาของเขา ตั้งแต่ภาพในหัวคืนนั้นก็ไม่สามารถมีอารมณ์เพศกับผู้หญิงคนไหนได้อีก เป็นเพราะอะไรกัน! "นิรชา ทำไมฉันถึงคิดถึงเธอมากมายขนาดนี้" แล้วมันจะมีทางใดที่ทำให้เขาได้เจอกับเธออีกครั้ง ในเมื่อเขาจะแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก "เฮ้อ!" เสียงถอนหายใจดังเฮือกใหญ่อย่างกลัดกลุ้มใจ หนูนิดที่คุณแม่ว่า เป็นเธอคนนั้นก็ยังดี! . . . [วันต่อมา] ดูวันนี้มาดามแพทแพทจะอารมณ์ดีผิดปกติพลางตื่นตั้งแต่เช้าสั่งแม่บ้านและลูกสะใภ้ที่รักทั้งสามคนจัดเตรียมทำอาหารเลิศรสมากมายกว่าปกติ พอลูกชายๆทั้งสามคนสงสัยจึงถาม รู้ว่าวันนี้มีแขกสำคัญกำลังจะมาทานข้าวร่วมเดียวกันกับเรา เขารู้แล้วละว่าแขกของคุณแม่แพทเป็นใคร ครอบครัวของเพื่อนแม่ที่อยากให้ผมแต่งงานกับลูกสาวของพวกเขานั่นเอง ซึ่งเซบาสเตียนไม่มีทางยอมแต่งงานคลุงถุงชนนี้เด็ดขาด! "นี่ฉันได้ข่าวว่ามาว่าแขกของคุณแม่ที่จะมาในวันนี้ ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับนายแน่นอนใช่ไหมไอ้น้องเซบาส" แคสเตอร์ออกมาจากห้องอาหารมาตามหาน้องชายที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์ยืนอยู่ด้านหลังของบ้านใหญ่ "นี่พี่แคสไม่มีงานการทำหรือไงถึงได้มายุ่งเรื่องของน้อง ถ้าพี่แคสว่างมากนักก็ไปจู่จี๋กับพี่อัญสองคนโน่นไป ยัยเอมจะได้มีน้องเพิ่มมาอีกคน" เซบาสเตียนหันไปพูดเสียงแข็งขึ้นใส่พี่ชายคนเล็กอย่างไม่มีอารมณ์มาล้อลิ้นกับใคร ตอนนี้ยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ "ไม่ต้องบอกพี่ก็ทำทุกวันอยู่ด้วย อีกอย่างตอนนี้ยัยเอมก็จะได้มีน้องเพิ่มอีกคนแล้วด้วย" "อย่าบอกนะว่า..." เขาพอจะเดาออกว่าตอนนี้พี่สะใภ้คนเล็กกำลังตั้งท้องลูกคนที่สองอยู่ พี่ชายของเขาแต่ละคนขยันปั๊มมากจริงๆ จนออกมาเกือบเต็มบ้านใหญ่แล้วเนี่ย "จุ๊ๆ เดี๋ยวพี่จะบอกข่าวดีต่อหน้าทุกคนในห้องอาหารเอง เรียกว่าเป็นข่าวดีที่เซอร์ไพร์สคุณแม่มากแน่นอน" พี่แคสเตอร์ยิ้มร่าเริงอารมณ์ดีอย่างมีความสุขทุกวันที่ได้มีเมียกับลูกมาอยู่เคียงข้างๆกันทุกวันๆ "ยังไงก็ยินดีด้วยนะครับพี่แคส" "นายเองก็รีบแต่งงานมีเมียตามให้ทันพวกพี่ๆก็แล้วกัน เดี๋ยวไอ้นั่นของนายจะแห้งเหี่ยวยังไม่ทันได้ใช้งานสักก่อน" แคสเตอร์รู้ดีว่าน้องชายคนเล็กเป็นคนบ้างานมากเพียงนี้ เรื่องผู้หญิงเซบาสเตียนไม่แตะต้องเรื่องอย่างที่ว่านั่นเลยสักคนเดียวก็ไม่แปลกที่พี่แคสจะพูดแบบนั้น "ครับพี่แคส" เซบาสเตียนพยักหน้าตกลงรับความหวังดีของพี่ชายเล็กไปตามมารยาททั้งที่ในใจกลับไม่คิดอย่างนั้น "อ้าว สองหนุ่มมายืนคุยกันอยู่ที่นี้นี่เอง คุณแม่แพทให้มาตามน้องเซบาส เพราะว่าแขกของท่านกำลังจะมาถึงที่นี้แล้ว" พี่อัญญา เมียสาวของพี่แคสเตอร์เดินมาตามผมตามคำสั่งคุณแม่ 'รีบร้อนมาอยากมีผัวสิน่ะ เดี๋ยวฉันจะจัดให้เธอสมอยากเลย!' สันกรามแกร่งขบฟันกรามแน่นเก็บกดความโกรธที่มีต่อคู่หมั้นที่ไม่เคยเห็นหน้าเอาไว้ในใจพร้อมเดินเร็วไปยังหน้าคฤหาสน์ อยากเห็นหน้าผู้หญิงร่านนั้นเต็มทน! "อัญเดินมาทำไม ผมบอกแล้วว่าอย่าเดินออกมาแบบนี้ อัญกำลังท้องกำลังไส้อยู่นะ" แคสเตอร์เข้ามาประคองภรรยาที่กำลังท้องอ่อนๆอย่างเป็นห่วง "อัญไม่เป็นไรหรอก คุณแคสไม่ต้องเป็นห่วง" "จะไม่ให้เป็นห่วงเมียแล้วจะให้ห่วงใครได้ล่ะ เข้าไปนั่งโต๊ะรอเลย" ผู้เป็นสามีกำราบภรรยาด้วยการช้อนอุ้มร่างบางแนบอกแล้วเดินตรงไปยังห้องอาหารโดยไม่แคร์สายตาใคร ก็คนมันรักมากก็ห่วงมากเป็นเรื่องธรรมดาของผัวเมีย เซบาสเตียนเดินมาตรงหน้าคฤหาสน์เห็นคุณแม่กับคุณพ่อกำลังรอรับแขกอยู่ พอดีรถของบ้านที่ไปรับมาถึงพอดี ผมอยากดูหน้าผู้หญิงคนที่จะมาแต่งงานกับเขาจะหน้าด้านสักแค่ไหนกันเชียว พอผู้หญิงร่างบางคนนั้นก้าวเดินลงมาจากรถ หัวใจก็เต้นแรงหนักขึ้นทันทีที่รู้ว่าเป็นนิรชาคนนี้ คนที่เขาเฝ้าคิดถึงโหยหาตลอดเวลา ไม่นึกว่าจะเป็นคนที่ต้องแต่งงานด้วย "นิรชา!" "คุณรู้จักฉันด้วยเหรอคะ?!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD