@ โรงแรมหรู
"แอนนี่แอบไปดูมาแล้ว วันนี้เจ้าสาวสวยมากเลยนะคะ ส่วนเจ้าบ่าวของแอนนี่ก็หล่อมากๆ เช่นกันค่ะ"
"ริษาว่าสวยหล่ออย่างกับกิ่งทองใบหยก"
คำเยินยอที่ออกมาจากปากสไตล์ลิสประจำตัวถึงสองคน ถึงแม้มันจะเป็นคำชมตามมารยาทแต่ก็ทำให้ริชาร์ดรู้สึกมั่นใจมากขึ้น ด้วยว่าเจ้าสาวที่กำลังจะเข้าประตูวิวาห์ด้วยอายุห่างกันถึง20ปี
"แอนกับษาก็ชมผมเกินไป หล่อขนาดนั้นเลย แต่นี่อีก3ปีผมก็จะเกษียณแล้วนะ"
ริชาร์ดผู้บริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับต้นๆ ของเมืองไทย มองตัวเองในชุดเจ้าบ่าวผ่านกระจกบานใหญ่แล้วคลี่ยิ้มให้กับคำชมของสไตล์ลิสที่กำลังแต่งตัวให้ ซึ่งวันนี้เป็นวันที่เขาจะเข้าประตูวิวาห์กับมิลานเจ้าสาวของเขา
"ไม่เหมือนคนจะอายุ60เลยค่ะท่าน ท่านยังหล่อและดูดีมากจริงๆ ค่ะ" แอนนี่สไตล์ลิสประจำตัวริชาร์ดเอ่ยชมอย่าเป็นกันเอง ทว่ายังไม่ทันจะหยิบเสื้อสูทออกมาสวมประตูห้องพักก็ถูกเปิดออกอย่างแรงด้วยมือของลูกชาย
ปัง!
"พ่อ! ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย"
ร่างสูงที่เปิดประตูพรวดพราดเข้ามาอย่างไร้มารยาท เรียกความสนใจให้ทุกคนในห้องแต่งตัวหันไปมองอย่างพร้อมเพรียงกัน
"มาถึงก็โวยวายเลย ไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังแต่งตัวอยู่"
"เห็น ผมไม่ได้ตาบอด"
ริชาร์ดได้แต่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของลูกชายที่นับวันยิ่งเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ "แล้วนี่ลุกออกจากเตียงได้แล้วเหรอฉันนึกว่าแกจะขลุกอยู่ที่ผับของแกจนตายซะอีก"
"พ่อไม่ต้องมาแดกดันผม" ร่างสูงตวัดสายตามองหัวหน้าสไตล์ลิสที่กำลังหยิบเสื้อสูทออกมาเตรียมสวมใส่ให้ริชาร์ด ก่อนจะออกคำสั่ง "พวกคุณออกไปก่อน"
"แกมีสิทธิ์อะไรมาสั่งคนของฉัน"
"สิทธิ์ของลูกไง ทุกคนออกไปก่อนครับ!" เขาเอ่ยด้วยถ้อยคำสุภาพหากแต่ว่าเยือกเย็นจนไม่มีใครกล้าขัด ทุกคนเชื่อฟังและรีบออกจากห้องแต่งตัวไปทันที ทิ้งเอาไว้เพียงท่านประธานใหญ่กับลูกชายของท่าน
"แกนี่นะ ฮึ่ย! พิธีกำลังจะเริ่มแล้วมีอะไรก็รีบๆ พูดมา" ริชาร์ดพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหลือทน เมื่อลูกชายจอมเอาแต่ใจตั้งท่าจะมาพังงานแต่งงานของเขาที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
พรึ่บ
โทรศัพท์หรูในมือถูกเปิดหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของแม่และน้องสาวแล้ววางลงโต๊ะกระจกตรงหน้าคนเป็นพ่อ
"ว่าที่เมียใหม่พ่อทำให้แม่กับน้องต้องตาย"
ปัง!
ฝ่ามือหนาของประธานใหญ่แห่งคาร์เกอร์กรุปฟาดลงบนโต๊ะกระจกอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง อีกทั้งดันตัวลุกขึ้นยืนจ้องหน้าลูกชายอย่างไม่พอใจสุดขีด เมื่อได้ฟังข้อกล่าวหาที่เรย์อาร์พุ่งประเด็นไปที่เมียใหม่ของเขา
"แกพูดเรื่องอะไรของแก แม่กับน้องแกตายเพราะอุบัติเหตุมันเกี่ยวอะไรกับมิลาน"
เรย์อาร์ถึงกับชะงักงันเพราะไม่คาดคิดว่าคนเป็นพ่อจะเอ่ยประโยคปกป้องเมียใหม่ออกมาหน้าตาเฉย ที่สำคัญคนเป็นพ่อยังไม่สนใจหลักฐานตรงหน้าอีกด้วย
"พ่อก็ดูให้หมดสิ มีคนเขาส่งข้อมูลมาให้ผมภาพมันสื่อว่าอีนั่นมันหลอกล่อให้แม่กับน้องขับรถตามไปตรงถนนที่กำลังก่อสร้างจนเกิดอุบัติเหตุนะ"
นั่นคือข้อมูลที่เขาได้รับมาหมาดๆ ภาพที่คมชัดหลายมุมทำให้เขาปักใจเชื่อว่ามิลานคือต้นเหตุที่ทำให้แม่และน้องของเขาต้องมาจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถ
ริชาร์ดหลุบสายตามองภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วดึงสายตานิ่งเรียบกลับไปมองหน้าลูกชายอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
"แกเอาข้อมูลพวกนี้มาจากไหน"
"เรื่องนั้นมันไม่สำคัญเท่ากับต้นเหตุที่ทำให้แม่กับน้องต้องตายหรอก วันนั้นเรามีนัดฉลองให้น้องแต่พ่อกลับไม่มา เพราะพ่อไปฉลองวันเกิดกับอีนั่น"
"เลิกปรักปรำแล้วพูดถึงมิลานดีๆ หน่อย อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเธอก็จะมาเป็นแม่เลี้ยงแกแล้วนะ" ริชาร์ดย้ำเตือนสติลูกชาย
"นี่พ่อยังจะเอามันมาทำเมียอีกเหรอ มันฆ่า..."
"ถามจริงๆ เถอะ นี่แกเชื่อเรื่องที่คนไม่มีตัวตนส่งมาให้จริงๆ เหรอฮะ"
"มีอะไรไม่น่าเชื่อ พ่อดูสิว่าแม่ทะเลาะกับมันที่ลานจอดรถจากนั้นก็ขับรถตามมันไป อีนั่นมันต้องรู้ว่าถนนเส้นนั้นปิดซ่อมแซมอยู่แล้วเพราะเป็นระแวกบ้านมัน มัน หลอก แม่ ไป" เขาย้ำด้วยน้ำเสียงแสดงโทสะ
"งั้นฉันขอถามแกหน่อย แล้วมันเรื่องอะไรที่แม่แกถึงต้องตามไปตบตีมิลานแถมยังขับรถไล่บี้แบบในคลิปอีก"
"เพราะแม่รู้ว่าพ่อกับมันเล่นชู้กันยังไงล่ะ " ริชาร์ดถึงกับมองบนแล้วเสมองไปทางอื่นราวกับกำลังสะกดกลั้นอารมณ์บางอย่าง "ทำหน้าแบบนี้ผมพูดถูกใช่ไหม"
"เหอะ!" ริชาร์ดกลั้วขำราวกับเรื่องที่ลูกชายกล่าวหาเป็นเรื่องตลก ในขณะที่ภายในอกนั้นจุกเจ็บไปหมดถึงความจริงบางอย่างที่เขาเก็บงำมานานหลายปี
"พ่อคงคิดถึงไม่สินะว่าแม่จะรู้เรื่องที่พ่อเล่นชู้กับอีนั่น มันยอมรับกับแม่เองผมไปหาข้อมูลแชตไลน์ของแม่มาได้แล้ว"
ก่อนหน้านั้นที่ไม่ได้สนใจหาข้อมูลเพราะคิดว่าเป็นอุบัติเหตุธรรมดาและโทรศัพท์ของคนเป็นแม่ก็ถูกไฟไหม้เสียหายไปแล้ว
"พอเถอะเรย์อาร์ จบเรื่องนี้สักทีเถอะน่า"
"จบได้ไงวะ นั่นแม่กับน้องนะพ่อ พ่อไม่รักพวกเขาเลยเหรอ ไม่รู้สึกเคียดแค้นแทนพวกเขาเลยเหรอ" อารมณ์ของเรย์อาร์เดือดดาลขึ้นเรื่อยๆ
"เชื่อฉันสักครั้งเถอะ เลิกสนใจเรื่องนี้ได้แล้ว"
"เหอะ! เชื่อเหี้ยอะไร เชื่อว่ามันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งๆ ที่หลักฐานชัดเจนขนาดนี้น่ะเหรอ"
"เรย์อาร์!" ริชาร์ดขึ้นเสียงใส่ลูกชายด้วยอารมณ์โทสะที่กำลังไต่ระดับขึ้นไม่ต่างกัน ตอนนี้ร่างสูงใหญ่ของชายวัยกลางคนสั่นเทาไปด้วยความโกรธ
ทว่าไม่สามารถเล่าความจริงทั้งหมดออกมาได้ จึงเลือกทิ้งให้มันตายไปกับคนตายยังไงล่ะ
"ผมผิดหวังในตัวพ่อจริงๆ ไม่คิดเลยว่าผมจะเกิดมาเป็นลูกคนอย่างพ่อ"
"ฉันไม่รู้นะว่าแกเอาข้อมูลนี้มาจากใครหรือเอามาจากไหน แต่มันจะเป็นผลดีกับแกมากกว่าถ้าจบเรื่องการตายของแม่และน้องแกไว้แค่ตรงนี้"
"พ่อจะปล่อยคนที่มันเป็นต้นเหตุให้แม่ต้องตายลอยนวล แถมยังจะแต่งงานกับมันอีก นี่พ่อยังมีความเป็นคนอยู่ไหม ... แต่เดี๋ยวนะ หรือจริงๆแล้วพ่อจงใจฆ่าพวกเขากันแน่"
ทุกถ้อยคำของเรย์อาร์เต็มไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวด ต่างจากริชาร์ดที่หันหลังให้ลูกชายยืนมองวิวเมืองเบื้องหน้าผ่านทางกระจกบานใหญ่ด้วยแววตาเฉยชาว่างเปล่า
"เอาเถอะ แกอยากพูดอะไรก็พูดไป แต่ขอให้รู้ไว้ว่าที่ฉันทำทุกอย่างก็เพื่อแก และมันจะดีกับตัวแกเองถ้าเลิกขุดคุ้ยเรื่องนี้"
"ทั้งหมดที่พ่อทำมันดีกับคนเห็นแก่ตัวอย่างพ่อคนเดียวต่างหาก"
"เชื่อพ่อสักครั้งเถอะเรย์อาร์ เลิกจมปลักกับคนที่จากเราไปสบายแล้วสักที ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้ดีเถอะ เชื่อพ่อ"
"เหอะ ถ้าการใช้ชีวิตให้ดีคือการยอมให้พ่อแต่งงานอยู่กินกับอีนั่นล่ะก็ ผมก็ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า..."
"..."
"ผมจะทำทุกทาง เพื่อให้ชีวิตคู่ของพ่อกับมันฉิบหาย"
"..." ไม่ว่าลูกจะพูดยังไงริชาร์ดก็นิ่งไม่โต้ตอบ
"ผมจะลากคอมันมารับกรรมที่มันทำกับแม่และลีน่าให้ได้ คอยดูหายนะได้เลย"