“นี่พี่ทับแอบดูเรเหรอเนี่ย พี่ทับทำอย่างนี้ได้ไง เรจะไปไหนมันก็เรื่องของเรนะ”
“เรไปไหนก็เรื่องของเรอย่างนั้นเหรอ ลืมไปแล้วรึไงว่าเราเป็นยังไงกัน เรเป็นเมียพี่นะ!”
ประโยคนั้นของอาทับทำเอาฉันตกใจและสตั๊นท์ไปสิบวิ อะไรนะ...เมียเหรอ? นี่ฉันหูฝาดไปรึเปล่า ถ้าน้าเรไรเป็นเมียอาทับ แล้วแม่ฉันล่ะ?
“พี่ทับอย่ามาอ้างสิทธิ์กับเรแบบนี้นะ พูดอะไรไม่อายเลย”
น้าเรไรเถียงและฉันเห็นอาทับดึงมือน้าเรไร ไม่ได้จับไว้เฉย ๆ แต่ดึงตัวน้าสาวของฉันไปกอดไว้แล้วพูดได้ยินชัดเจนเลยว่า
“จะอายทำไมในเมื่อเราเคยเอากันแล้วตั้งหลายหน!”
เอากันหลายหน! อันนี้สิเด็ดยิ่งกว่าที่ได้ยินเมื่อกี๊นี้ซะอีก ตายละวา...นี่ถ้าไม่เห็นกับตาได้ยินกับหูผึ่ง ๆ ทั้งสองข้างก็ไม่มีวันรู้เลยว่า น้าเรไรกับอาทับเคยแอบเย่อกันลับหลังแม่ แบบนี้เขาเรียกว่าชู้ใช่มั้ย?...ว๊าย! ยังจะบ้าถามตัวเองแบบโง่ ๆ อีกนะ พอได้ยินอย่างนั้นต่อมอยากเผือกมันก็ยิ่งทำงาน ฉันไม่สามารถเดินกลับไปที่ห้องหรือผละไปจากตรงนั้นได้เพราะมันเป็นมุมที่เห็นทั้งสองคนชัดเจน ได้ยินเสียงที่ทั้งสองพูดคุยชัดยิ่งกว่าอะไร ขณะนั้นอาทับก็กอดรัดน้าเรไรไว้แล้วพูดว่า
“บอกพี่มานะเรว่าไปที่ไหนกับใคร ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันเป็นใครถึงได้กอดเร หอมเรแบบนั้น”
“เขาเป็นเพื่อนเรนะพี่ทับ”
“เป็นเพื่อนแล้วกอดกันแบบนั้นได้เหรอ?”
“ทีพี่ทับยังกอดพี่นารีได้เลยนะ”
“ก็นารีเขาเป็นเมียพี่ จะไม่ให้พี่กอดเขาได้ยังไง”
“ก็ไม่รู้ล่ะ พี่ทับกอดพี่สาวของเรได้เรก็กอดคนอื่นได้เหมือนกัน”
“มันไม่เหมือนกันนะ พูดแบบนี้เรหึงพี่ใช่ไหม เรหึงที่พี่กอดหอมเมียพี่น่ะ”
“ใช่สิ!” เสียงน้าเรไรสั่นเครือ “หลัง ๆ มานี่พี่ทับเอาใจแต่พี่นารี กอดจูบไม่เกรงใจเร เอาใจกันสารพัด ไม่สงสารเรบ้างว่าเรจะรู้สึกยังไง หลายวันแล้วนะที่พี่ทับไม่ยอมไปหาเรที่ห้อง”
“จะให้พี่ไปได้ยังไง เวลานารีเขาไม่ออกไปไหนจะให้พี่แอบไปหาเรน่ะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ”
คำพูดของอาทับกับน้าสาวทำให้ฉันถึงบางอ้อในบัดนั้น หายสงสัยเลยว่าทำไมอาทับถึงไม่สะทกสะท้านหรือแสดงอารมณ์ไม่พอใจเวลาแม่ออกไปรำพัดบ้านเพื่อนครั้งละนาน ๆ ที่แท้เวลาที่แม่ไม่อยู่มันมันป็นโอกาสทองของทั้งสองคนที่จะได้พบกัน แล้วฉันก็ต้องขนลุกซู่เมื่อได้ยินอาทับพูดว่า
“เรอย่างอนพี่เลยนะ เรหึงพี่เลยออกไปกับผู้ชายคนอื่นประชดพี่อย่างนั้นสินะ”
“ก็จะไม่ให้เรหึงได้ยังไง พี่มับกับพี่นารีหวานกันไม่เห็นใจเรบ้างเลยว่าจะเหงาขนาดไหน”
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้พี่ไม่ไปหาเรที่ห้องก็แล้วกันนะ แต่เรามาเปลี่ยนบรรยากาศอยู่ข้างนอกกันบ้างดีไหม”
“ว๊าย! พี่ทับทำอะไรน่ะ...อ๊าย!”
น้าเรไรร้องออกมาแต่ไม่เห็นว่ามันจะเป็นการขัดขืนตรงไหนเมื่ออาทับซุกไซ้หน้ากับลำคอของน้องสาวเมีย ทั้งกอดรัดและประกบปากจูบน้าเรไรอย่างดูดดื่มทำเอาฉันใจหายใจคว่ำ ใจเต้นตึกตักเพราะไม่คิอว่าจะได้มาเห็นอะไรแบบนี้ นี่มันเรื่องบ้าชัดๆ...เออ...บ้าจริง ๆ ที่ต้องมารับรู้ว่าพ่อเลี้ยงกำลังนอกใจแม่ แถมผู้หญิงที่ผัวแม่นัวเนียด้วยก็ไม่ใช่ใครที่ไหน กลับกลายเป็นน้องสาวแม่ซะเอง วุนวายดีนะ ตอนแรกฉันกะว่าทนรับไม่ไหวกำลังจะหันหลังให้แต่พอได้ยินเสียงดังขึ้นว่า
“เรจ๋า...ถอดเสื้อออกเถอะ เอากันตรงนี้ล่ะ เดี๋ยวนารีกลับมาจะไม่ทันเวลาสนุกนะเมียจ๋า”
เสียงของอาทับชัดเจนมากและทำให้ฉันเปลี่ยนใจกะทันหัน ตอนแรกต่อมเผือกทำงานแผ่วแต่พอได้ยินอย่างนั้นมันกลับยิ่งทำงานแข็งขันขึ้นมาทันที ฉันก็อยากรู้ว่าน้าเรไรจะปฏิเสธไหม ปรากฏว่า...ไม่ฏิเสธจ้า
บทที่ 4
ฉันถึงกับใจหายใจคว่ำเมื่อเห็นน้าเรไรยินยอมให้อาทับถลกชายเสื้อของเจ้าหล่อนขึ้นแล้วถอดออกเหลือแต่บราเซียตัวจ้อยที่ปกปิดโนมเนื้อไม่จ้อยสักนิดของน้าสาว
“โอ้โหว...นั่นมันแตงโมหรือส้มโออ่ะ นมน้าเรใหญ่ขนาดนี้เลยเชียว”
ฉันร้องกับตัวเองและถึงกับอ้าปากค้างเมื่อเห็นสองเต้าของน้าเรที่มันอวบอูมจนล้นบราเซีย ฉันไม่เคยเห็นน้าสาวถอดผ้าแบบนี้ บางทีเห็นน้องสาวแม่นุ่งผ้าถุงแต่กลับไม่ได้สนใจเลยว่าเจ้าหล่อนมีหน้าอกใหญ่มากขนาดที่อาทับเห็นถึงกับลนลาน ตะกรุมตะกรามก้มลงไปเอาหน้ามุดตรงร่องอกของน้าสาว มือสองข้างไม่อยู่นิ่ง ล้วงเข้าไปในบราเซียจากด้านล่างแล้วช่วยกันขยี้ขยำจนน้าเรร้องว่า
“ซี๊ดดดด...พี่ทับ....ซี๊ดดดด...อ๊าส์...อู๊ยยยย”
เสียงครางของน้าเรไรทำเอาฉันเสียวสั่นตามไปด้วย ยิ่งเห็นอากัปกิริยาส่อแสดงธาตุแท้ของพ่อเลี้ยงที่ฉันคิดและเชื่อมาตลอดว่าเขาเป็นคนดีอย่างเหลือเกินอย่างชัดเจนมันทำให้ฉันผิดหวังและตกใจไปพร้อมกัน ก็ดูซิ โกนหัวเหมือนผู้ทรงศีล อยู่ในศีลในธรรมและเรียบร้อยไม่พูดมาก รักเมียก็ปานนั้น ที่แท้ก็แอบเป็นชู้รักกับน้องเมียนี่เอง แต่นึก ๆ นะถ้าฉันเป็นผู้ชายก็คงปฏิเสธน้าเรไม่ได้ ดูนมของหล่อนนั่นสิ ใหญ่ยิ่งกว่าส้มโอ ผู้ชายที่ไหนเห็นก็ชอบ เพราะขนาดฉันเป็นผู้หญิงด้วยกันยังรู้สึกถึงความเสียวกระสันขึ้นมาทันใด