ปฐมบท

1646 Words
หมู่บ้านโนมกระแห ชนบทที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง แต่ไม่ได้ห่างไกลความเจริญ ผู้คนมีอาชีพเพาะปลูกและทำการเกษตรเลี้ยงสัตว์ ปลูกข้าว มีการดำเนินชีวิตความเป็นผู้ที่เรียบง่าย สบายๆ ไม่มีพิธีรีตองเหมือนคนในเมือง ผู้คนในหมู่บ้านต่างถ้อยทีถ้อยอาศัยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หมู่บ้านโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติขุนเขาป่าไม้และธารน้ำตก จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของนักอนุรักษ์และผู้คนที่อยากจะสัมผัสกับธรรมชาติแบบเต็มที่ ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติติดอันดับของประเทศ นักท่องเที่ยวหลายคนต่างแวะมาสูดอากาศบริสุทธิ์และใช้ชีวิตตามวิถีของชาวบ้าน ร่วมทำกิจกรรมทางการเกษตรและอีกมากมายที่จัดขึ้นเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีและจะหยุดปิดหมู่บ้านสองเดือนในช่วงมรสุมหน้าฝนเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับมาสวยงามเหมือนเดิมและเป็นการพักผ่อนของชาวบ้านไปในตัว “พ่อจ้า แม่จ้า หนูมีเรื่องจะปรึกษาหน่อยจ๊ะ ไม่ทราบว่าพ่อกับแม่ว่างหรือเปล่า” ติณณภพหนุ่มหล่อเหลาใบหน้าคมสัน รูปร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำกร้านแดดจากการทำงานกลางแจ้ง ดวงตาคมสีน้ำตาล จมูกโด่งคมสันสอดรับกับริมฝีปากหนาแดงระเรื่อ หนุ่มโสดเสน่ห์แรงแห่งบ้านโนมกระแหลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนายอำเภอเตวิชและแม่วิมล ซึ่งหลังจากเรียนจบปริญญาโทก็กลับมาช่วยกิจการที่บ้านหลังจากพี่ชายตัวดีหนีไปเรียนต่อ ป.เอก ที่อเมริกา และไม่ยอมกลับถ้าหากเรียนไม่จบภาระทั้งหมดเลยตกอยู่ที่ติณณภพเพียงคนเดียวที่ต้องจัดการดูแลกิจการของพ่อแม่ทั้งหมดโดยมีท่านทั้งสองเป็นที่ปรึกษาในบางครั้งและเวลาว่างส่วนมากก็แวะไปจีบลูกสาวคนโตของพ่อผู้ใหญ่ “เอ็งจะปรึกษาเรื่องอะไรล่ะเจ้าติณณ์ เรื่องงาน หรือ เรื่องส่วนตัว” นายอำเภอเตวิชเงยหน้ามองลูกชายคนเล็กในขณะกำลังอ่านรีวิวเพจท่องเที่ยวที่ช่วยโปรโมตรีสอร์ตของเขาให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น จนตอนนี้ยอดจองห้องพักเต็มหมดจนถึงสิ้นปี “เรื่องส่วนตัวจ้ะ หนูนอนคิดมาหลายคืนจนนอนไม่หลับ ไม่รู้จะทำยังไงดี เลยมาปรึกษาพ่อกับแม่ดีกว่า น่าจะให้คำตอบหนูได้ดีที่สุด อีกอย่างพ่อกับแม่ก็อาบน้ำร้อนมาก่อน ยังไงแล้วก็ต้องมีทางช่วยคลายปัญหาในใจของหนูตอนนี้ได้” ชายหนุ่มนั่งลงเก้าอี้ตรงหน้าท่านทั้งสองพลางทำสีหน้าสลดลงเล็กน้อยอย่างหนักอกหนักใจ “เอ็งก็อย่าพล่ามมากสิ ไหนลองเล่าให้แม่ฟังสิ” นางวิมลเริ่มชักจะหงุดหงิดที่เจ้าลูกชายไม่ยอมบอกปัญหาของตนเองเสียทีทำเล่นตัวอยู่ได้ไม่รู้จะอะไรหนักหนา “คือแบบว่า....” ชายหนุ่มยังคงอ้ำอึ้งไม่ยอมบอก เริ่มชักทำให้บิดาไม่สบอารมณ์ขึ้นมาอีกคน “แบบว่าอะไรของเอ็งไอ้หนู!!” นายอำเภอเตวิชตวาดเสียงลั่นอย่างไม่สบอารมณ์ที่ไม่ยอมพูดออกมาเสียที “หนูชอบพี่ปาน อยากได้พี่ปานเป็นเมียจ้ะ” ติณณภพบอกด้วยน้ำเสียงดังลั่นทำเอาพ่อกับแม่ถึงกับอึ่งไปชั่วขณะพลางหันหน้ามองกันตาปริบๆ กับคำตอบที่ได้รับโดยแทบไม่เชื่อเลยว่าสิ่งที่ลูกชายพูดออกมานั้นคือเรื่องจริง “คือแบบว่า....” ชายหนุ่มยังคงอ้ำอึ้งไม่ยอมบอก เริ่มชักทำให้บิดาไม่สบอารมณ์ขึ้นมาอีกคน “จ้ะ” เขายิ้มแห้งๆ ให้กับท่านแล้วทำตาปริบๆ ใส่อย่างออดอ้อน “เห้อ... เอ็งหาเรื่องให้ข้าโดนผู้ใหญ่ถอนหัวหงอก” นายอำเภอเตวิชถึงกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนักใจ “แต่หนูชอบพี่ปานจริงๆ นะจ๊ะพ่อ หนูอยากได้พี่ปานเป็นเมีย หลงรักมานานแล้วด้วย หมดหนทางที่จะตามจีบแล้ว” “เอ็งจีบหนูปานเมื่อไรกัน แม่ไม่เคยรู้มาก่อน” นางวิมลถามกลับด้วยความสงสัย ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าลูกชายนางแอบหลงรักลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน เคยวันๆ ทำแต่งานอย่างเดียวไม่เคยเห็นสนใจผู้หญิงคนไหนเลยแล้วทำไมเรื่องนี้ถึงได้รอดพ้นสายตาเธอไปได้ “หลายครั้งแล้วแม่ พี่ปานก็เมินเฉยใส่หนู ไม่สนใจอีกต่างหาก หรือว่าหนูอายุน้อยกว่าเลยไม่สนใจแน่ๆ” พูดแล้วก็นึกน้อยใจตัวเองที่โดนสาวเจ้าแสดงท่าทางรังเกียจและเฉยชาทุกครั้งเวลาเจอหน้ากัน ทั้งที่เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่ามีใจให้ตลอดทุกครั้งที่แวะไปจีบ แต่ก็กินแห้วกลับมาทุกครั้งเหมือนเช่นเคย นี่แหละชะตากรรมของคนอาภัพรักอย่างเขา “อายุไม่สำคัญหรอก แต่เอ็งนะเคยบอกหนูปานหรือยังว่าเอ็งชอบ เอ็งมีใจให้เขา” นางวิมลถามกลับ “ไม่ได้บอกจ้ะ” เขายิ้มแหย่ๆ ให้กับท่าน “งั้นเอ็งก็กินแห้วต่อไป ชอบเขาทั้งที่ทำไมไม่บอกความในใจให้เจ้าตัวรู้ละ เอ็งจะเก็บไว้ทำซากอะไร ไม่แปลกที่หนูปานไม่สนใจเอ็ง เพราะคิดว่าเอ็งคงแซวไปทั่ว เป็นผู้ชายลอยลม แล้วแบบนี้หนูปานจะมาสนใจเอ็งได้ยังไงกัน” ไอ้เราก็คิดว่าฝ่ายผู้หญิงรู้แล้วว่าโดนจีบ แต่ไม่สนใจเท่านั้น ที่ไหนได้!!! ดันไปหยอดคำหวานใส่โดยไม่บอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าตัวเองกำลังจีบอยู่ แล้วแบบนี้ผู้หญิงที่ไหนจะสนใจล่ะ อีกอย่างปานชีวาก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้วด้วย จะมาทำแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ มันน่าเกลียดอีกอย่างเขาคงคิดว่าคงแค่จีบเล่นๆ แน่นอน “ทำไมพ่อพูดแบบนั้นล่ะ หนูไม่เคยแซวผู้หญิงคนอื่นหรือหว่านเสน่ห์ใส่ใครเลยนะ นอกจากพี่ปานคนเดียว พ่อกับแม่ต้องช่วยหนูนะจ๊ะ ถ้าไม่ได้พี่ปานเป็นเมียชาตินี้หนูจะครองโสดไม่แต่งงาน” เขายื่นคำขาดทันทีอย่างไม่ยอม ไม่รู้แหละถ้าไม่ได้พี่ปานเป็นเมียเขาจะไม่ยอมแต่งงานกับใครแน่นอน เมียของเขาจะต้องเป็นพี่ปานคนเดียวเท่านั้น ผู้หญิงคนอื่นไม่มีสิทธิ์!! “ไอ้หนู!!! เอ็งกล้าขู่พ่อกับแม่รึ” นายอำเภอตบหน้าขาดังฉาดเมื่อเจอคำขู่ของลูกชายตัวดี มีที่ไหนอยากได้เมียแล้วมาเดือดร้อนพ่อแม่อีก มันน่าตบกระบาลสักป๊าบสองป๊าบจริงๆ เจ้าลูกชายคนนี้ “ไม่ได้ขู่แค่พูดความจริง” “ใจเย็นๆ ก่อนสิพ่อ เอาอย่างนี้แล้วกัน ไอ้หนูเอ็งก็ไปสารภาพรักกับหนูปานซะ แล้วตั้งหน้าตาจีบให้เขารู้ว่าเอ็งจริงใจ ไม่ใช่แซวเล่นๆ ถ้ามีปัญหาอะไร แม่กับพ่อจัดการเอง” นางวิมลพูดเคลียร์ปัญหาทั้งหมดก่อนที่สองพ่อลูกจะเถียงกันไปมากกว่านี้ แค่นี้เธอก็ปวดหัวมากพอแล้ว “แล้วพี่ปานจะรับรักหนูมั้ยล่ะแม่” “อันนี้แม่ก็ตอบเอ็งไม่ได้เหมือนกัน ถ้าเอ็งมีความพยายามตามตื๊อบ่อยๆ แม่คิดว่าหนูปานต้องเปิดใจให้แน่นอน แต่เอ็งอย่าพลี่พล่ามทำอะไรบ้าๆ ลงไปละ ถ้าไม่อยากกินลูกปืนพ่อผู้ใหญ่” “พ่อช่วยไปเคลียร์ทางให้หนูหน่อยได้มั้ย” เขาบอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อนวิงวอนให้ท่านเห็นใจ ถ้าหากได้พ่อกับแม่ช่วยเปิดทาง เขาอาจจะจีบพี่ปานสำเร็จก็ได้ “ไม่!! อยากจะมีเมียต้องลงมือจัดการเอง ข้าจะไปพบพ่อผู้ใหญ่ก็ต่อเมื่อเอ็งจีบหนูปานได้แล้วเท่านั้น เอ็งต้องแสดงความพยายามและความตั้งใจให้ฝ่ายนั้นเห็น พ่อผู้ใหญ่และแม่เปรมเห็นถึงจริงใจที่มีต่อลูกสาวเขา” นายอำเภอเตวิชปฏิเสธเสียงแข็งไม่ยอมช่วยทันที ถ้าเรื่องอื่นเขาพอช่วยได้หรอกนะ แต่นี่เป็นเรื่องของคนสองคนเขาไม่อยากเข้าไปยุ่งวุ่นวายเรื่องหัวใจบังคับกันได้ที่ไหนละ ต้องลงมือจัดการเองถึงจะได้รู้ว่าอีกฝ่ายมีใจให้ตนเองหรือเปล่า ไม่ใช่ให้พ่อแม่เคลียร์ทางให้ แล้วแบบนี้สาวที่ไหนจะยอมตกลงด้วยล่ะเพราะว่าไม่มีความพยายามและความจริงใจให้ ใครจะกล้าฝากชีวิตด้วยละเป็นเธอคงไม่กล้าหรอกนะ “งั้นพรุ่งนี้หนูจะลงมือจีบใหม่นะพ่อ หนูจะบอกความในใจให้พี่ปานรู้ด้วย ถ้าได้ผลยังไงหนูจะมาบอกนะ” เขานิ่งไปสักพักแล้วคิดทบทวนถึงคำพูดทั้งหมดของพ่อแม่ แล้วตัดสินใจเดินหน้าจีบใหม่ด้วยวตนเอง และจะบอกความในใจที่มีให้กับพี่ปานรู้ในวันพรุ่งนี้ จะได้ไม่ต้องคิดว่าเขาเป็นหมาหยอกไก่อย่างทุกวันนี้ “แต่เอ็งต้องพูดดีๆ นะ ทำให้หนูปานเชื่อว่าจริงใจไม่ใช่มาจีบเล่นๆ” “จ้ะพ่อ หนูจะทำให้เต็มที่” น้ำเสียงและสายตาที่มุ่งมั่นทำให้นายอำเภอเตวิชและแม่วิมลถึงกับหันหน้ามองกันแล้วยิ้มออกมาถึงความตั้งใจของลูกชายในการจีบสาวและที่สำคัญหนูปานชีวาก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่จีบง่ายๆ เหมือนผู้หญิงทั่วไปด้วย ด้วยความที่หญิงสาวทุ่มเทให้กับงานและการดูแลพ่อแม่ทำให้ไม่สนใจผู้ชายที่เขามาจีบเลยสักคนและอีกทั้งพ่อผู้ใหญ่ก็โหดอีกด้วยทำเอาผู้ชายที่เขามาจีบหนีป่าราบแทบทุกราย มีแต่ติณณภพนี่แหละที่กล้าเข้าหาและพูดคุยด้วยเป็นประจำนอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีใครกล้าอีกเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD