ปัง!
พิมพ์พลอยเผลอมองไปยังต้นเสียงดัง ประตูบานใหญ่ถูกปิดลงด้วยแรงสนั่นตามอารมณ์ของผู้ใช้งาน นาวินออกไปแล้วเขาทิ้งเธอไว้ยังห้องหอคนเดียวตั้งแต่ค่ำคืนแรกของวันวิวาห์ เจ้าสาวคนสวยถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า ชายหนุ่มคงไปหาผู้หญิงที่เขารักซึ่งนั่นก็คือ ‘พิชชา พลากร’ พี่สาวต่างเลือดลูกสาวเพียงคนเดียวของเมียน้อยบิดา
สองแม่ลูกที่เธอเรียกว่ากาฝากได้อย่างไม่อายปาก พวกเขาเข้ามาพังทลายสิ่งที่พิมพ์พลอยมีนั่นคือความสุขจนพังยับเยิน ทั้งคู่พรากมันไปจนไม่สามารถหวนคืนกลับมาดังเดิมได้อีก ไม่เว้นแม้กระทั่ง ‘เขาคนนั้น’
ชายหนุ่มเลือกเชื่อคนอื่นมากกว่าแทนที่จะเป็นเธอ คนที่เขาเอ่ยปากบอกว่ารักกัน พิมพ์พลอยยังจำแววตายิ้มแย้มซึ่งเพียงไม่นานก็เริ่มกระด้างจนเธอไม่ทันตั้งตัว ทุกความเย็นชามันเหมือนบาดแผลซึ่งฝังรากลึกลงในความทรงจำต่อให้หลับตาก็ไม่อาจลืมเลือนไปได้
แปดปีก่อน…
‘ทำไมเราถึงกลายเป็นเด็กขี้โกหกใจร้ายแบบนี้’ นาวินเดินเข้ามาพร้อมต่อว่าเธอราวกับไม่ต้องการรับฟังเหตุผล เล่นเอาคนที่โกรธเคืองเขามาเกือบทั้งสัปดาห์มองค้อนกลับไป น้ำเสียงด่าทอรวมถึงดวงตาอันเป็นประกายสะท้อนถึงความไม่พอใจนั่นมันทำให้เธอรู้สึกปวดร้าว การกระทำทั้งหมดแล่นความรู้สึกผิดหวังเข้าสู่ขั้วหัวใจดวงน้อย โกรธพิมพ์ขนาดนั้นเลยเหรอคะพี่วิน…
‘พิมพ์ทำอะไรให้พี่วินไม่พอใจอีก’
‘ยังมีหน้ามาถาม…เราทิ้งตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นของพีชใช่มั้ย!...ทำแบบนี้ทำไม อิจฉาพีชมากรึไง’ มือบางกำแน่นจนเกร็งแทบทุกประโยคเหมือนกับมีดแหลมบาดลึกลงไปในจิตใจคนฟัง สิ่งที่ฉุดรั้งให้เขามาโวยวายอยู่ตรงหน้านี้ต้นเหตุทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพียงเพราะพิชชา ผู้หญิงคนนั้นใส่ร้ายอะไรเธออีกล่ะ
ตั้งแต่หล่อนก้าวเข้ามานาวินก็เริ่มเปลี่ยนไป อาจจะเป็นเพราะวัยซึ่งใกล้เคียงกันหรือตัวชายหนุ่มเองมองโลกในแง่ดีทั้งยังเป็นคนขี้สงสาร เขาจึงเปิดรับพิชชาเข้ามาอย่างรวดเร็ว
…เร็วจนบางครั้ง พิมพ์พลอยก็รู้สึกเสียใจเมื่อคนที่ไว้ใจเลือกให้ใครอีกคนเข้ามาแทนที่ ไหนบอกว่าจะรักจะดูแลเธอคนเดียวไง ที่ตรงนี้มีไว้เพื่อเธอตลอดไปไม่ใช่หรือ สัญญาทั้งหมดที่เขาเคยพร่ำเพ้อมามันมีค่าเท่ากับคำโกหกหลอกลวง นาวินขายฝันจนคนฟังรู้สึกดีไปด้วย
‘พี่ถามจริงๆ นะ เมื่อไหร่เราจะเลิกนิสัยเสียแบบนี้สักที’ จ้องมองเขม็งคล้ายกับโกรธเกลียด เกินไปรึเปล่านาวินเริ่มกระชากเสียงเกรี้ยวกราดพร้อมตะคอกใส่คนตัวเล็กอย่างไม่ไว้หน้า
ในเมื่อเขาอยากให้เลวอยากให้ร้ายนักพิมพ์พลอยก็จัดให้ หญิงสาวผู้อยู่ในสงครามอารมณ์จึงตัดสินใจผลักอกแกร่งออกไปจนสุดแรง
‘ใช่! พิมพ์มันนิสัยเสีย พิมพ์ฉีกตั๋วมันเพราะไม่อยากให้มันไปกับครอบครัวเรา แล้วพี่มายุ่งอะไรด้วยมันเป็นแค่กาฝากที่มาเกาะครอบครัวพิมพ์ ทำไมพิมพ์จะไม่มีสิทธิ์’
‘พิมพ์พลอย!’
‘ทำไม!? โกรธเหรอ เสียใจมากหรือไงที่มันไม่ได้ไป พี่ก็รู้ทริปนี้คุณป้าจัดเพื่อให้เราสานสัมพันธ์กันในฐานะคู่หมั้น’ ล่วงรู้กันดีว่าทั้งคู่ถูกจัดวางไว้ในฐานะอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการของผู้ใหญ่ซึ่งผ่านมานาวินก็ไม่เคยปฏิเสธออกจะเต็มใจเสียด้วยซ้ำ เขาปฏิบัติกับเธออย่างอ่อนโยนราวกับรู้สึกพิเศษต่อกันเสมอมา
พิมพ์พลอยในตอนนั้นจึงได้แต่คิดว่าพี่วินหวงเธอยิ่งกว่าอะไร ทว่าทั้งหมดมันเป็นแค่ภาพลวงตาเรื่องปรุงแต่งทั้งสิ้น อัศวินขี่ม้าขาวในอดีตไม่มีอยู่จริง
สายตาเจ็บแค้นแทนใครบางคนรวมถึงการกระทำในวันนี้พิสูจน์แล้วว่าเขาไม่เคยรักกัน ใจทั้งหมดวางอยู่ตรงแทบเท้าผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ยและเธอก็กลายเป็นเพียงส่วนเกิน นาวินมองผู้หญิงคนนี้ไม่ต่างอะไรกับนางมารร้ายส่วนพิมพ์พลอยเองก็ยินดีสวมบทบาทนั้นอย่างไม่เกี่ยงงอน
‘คิดเหรอว่าฉันจะยอมหมั้นกับเธอยายเด็กแก่แดด! ต่อไปนี้อย่าหวังจะได้เฉียดเข้าใกล้ฉันอีก ฉันรังเกียจเธอ! ได้ยินมั้ย
‘พี่วิน…’
‘อย่ามาเรียกชื่อฉัน! ผู้หญิงน่ารังเกียจแบบเธอไม่มีสิทธิ์เข้าใจมั้ย’ ถ้อยคำแสนโหดร้ายถูกเปล่งออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างเล็กไม่อาจขยับเขยื้อนไปไหนเธอยืนนิ่งสนิทราวกับไร้เรี่ยวแรง ทำได้เพียงแค่มองดูด้วยความอาลัยจนกระทั่งเขาเดินจากไปลับสายตา
สาวน้อยทรุดตัวนั่งยังเก้าอี้ข้างกายพลางร้องไห้ระงมอย่างกับคนสิ้นสติ ระหว่างเราทำไมต้องมีวันนี้ด้วยความผูกพันทั้งหมดที่เคยมีให้กันมันไร้ค่ามากใช่มั้ย บัดนี้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แตกหักจนไม่เหลือชิ้นดี ได้แต่มองรอบกายผ่านม่านน้ำตาซึ่งไหลนองลงมาอาบแก้มสีแดงระเรื่อ ไม่สามารถต่อต้านหรือทำอะไรไปมากกว่านี้ได้เลย สิ่งเดียวที่ทำได้คือพยายามพยุงร่างกายอันสั่นเทาไม่ให้ล้มลง
จำวันนี้เอาไว้ให้ดีนะพิมพ์พลอย วันที่เธอไม่เหลืออะไรเพราะแม้แต่คนที่คิดว่าไว้ใจสุดท้ายเขาก็ปล่อยมือจากไปอย่างง่ายดาย ไม่มีแม้แต่เยื้อใย!
จากนี้ต่อไปอย่าเอาหัวใจไปฝากในกำมือใครอีก ที่ว่างของความเสียใจค่อยๆ หลอมละลายให้เด็กสาวแสนอ่อนโยนกลายเป็นพิมพ์พลอยคนใหม่ผู้แสนเย็นชา
เธอรู้ว่าตนเองมาอยู่ที่นี่เพียงเพราะหน้าที่ซึ่งเคยรับปากครอบครัวไว้เท่านั้น หัวใจดวงน้อยไม่เคยคิดโบยบินกลับไปหาเขาอีกต่อให้รักมากแค่ไหนก็ตาม
‘ถ้าเรารู้จักรักตัวเองให้มากพอ…จะไม่มีทางเจ็บปวดใจ’ พิมพ์พลอยคิดเช่นนั้นตลอดมา มือบางจึงบรรจงลบเครื่องสำอางซึ่งฉาบอยู่บนใบหน้าหวานอย่างแผ่วเบา ก่อนผิวปากคล้ายกับอารมณ์ดี ร่างบางใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานกว่าที่เคยเพราะไม่ต้องรีบร้อนอะไรทั้งนั้น
ห้องนอนใหญ่ยามนี้มีเธอเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว จะเข้านอนเวลาไหนเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ไม่ต้องมานั่งเกรงใจใคร เสียงแผดร้องจากโทรศัพท์ดังขึ้นเรียกความสนใจของคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดี มือบางกดรับสายอย่างไม่ใส่ใจเพราะสนิทสนมกับปลายสายอยู่พอสมควร
‘ณฟ้า’ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย หนุ่มหล่อหุ้นส่วนบริษัทออแกไนเซอร์ชื่อดังอย่าง ‘Let event’ ซึ่งทั้งสองร่วมมือกันก่อตั้งหลังจากเรียนจบ
ณฟ้าเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนักการเมืองชื่อดัง การสนิทสนมกับเขาจึงได้รับความเห็นชอบจากบิดา เพราะปกติแล้วท่านมักสอนให้เธอคบเพื่อนเพียงเพื่อผลประโยชน์เท่านั้น และณฟ้าก็ยื่นข้อเสนอลงทุนให้ก่อนโดยที่พิมพ์พลอยไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว
นั่นยิ่งทำให้ ‘เพลิงพล’ พึงพอใจ ผู้ชายใจดีคนนี้พร้อมจะเป็นป๋าประเคนทุกอย่างให้เธออยู่แล้ว ทว่าคนมักน้อยก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมอยู่วันยังค่ำ เธอจึงขอทำงานหนักพร้อมแบ่งรายได้จากเงินเดือนบางส่วนเพื่อชดใช้ให้กับเพื่อนรัก
[ว่าไง] น้ำเสียงหวานเอ่ยถามปลายสาย พิมพ์พลอยหวั่นใจว่าเขามีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจอะไรรึเปล่าถึงได้กล้าโทรหาเธอในเวลาแบบนี้
หมอนั่นก็รู้นี่นาว่าวันนี้คือวันวิวาห์อยากล่มคืนเข้าหอของเพื่อนรึไงกัน คิดอย่างขบขันหัวใจต่อให้ไม่มีสายนี้ทุกอย่างมันก็แตกสลายอยู่ดี
[สวัสดีเจ้าสาว เสียงแกดูไม่มีความสุขเหมือนกับคนที่พึ่งแต่งงานเลยนะ] ชายหนุ่มหัวเราะรั่วเสียงดังพร้อมกล่าวแซว
[อือฮึ แกก็รู้ว่าฉันแต่งงานทำไม]
[ก็เพราะรู้ไงถึงต้องรีบโทรมารายงาน]
[รายงาน] คนตัวเล็กถามกลับเสียงหลงพลางขมวดคิ้วราวกับไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนรักต้องการจะสื่อ
[ทายสิว่าฉันเจอเจ้าบ่าวของแกอยู่กับใคร]
[ไม่อยากทาย อย่าลีลาจะพูดอะไรก็รีบพูดมา]
แม้จะมีคำตอบอยู่ในใจแต่กลับเลือกที่จะไม่เอื้อนเอ่ยมันออกมา ยอมรับว่ารู้สึกไม่ชอบใจ เมื่อคิดว่าชายหนุ่มนั้นทำอะไรต่อมิอะไรเพื่อหักหน้าเมียกอดทะเบียนสมรส
[ฉันเจอเจ้าบ่าวแกกับพี่พีช]
สิ่งที่ณฟ้าเฉลยนั่นไม่ได้ทำให้พิมพ์พลอยประหลาดใจเท่าไร เป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ นั่นแหละนาวินออกไปหาคนที่เขาเรียกว่า ‘เจ้าของหัวใจ’
[แล้ว]
[นี่แกไม่ร้อนใจเลยรึไง วันแต่งงานแท้ๆ แต่เจ้าบ่าวกลับออกมาเที่ยวกับผู้หญิงคนอื่น]
[ฟ้า…แกก็รู้ว่าระหว่างฉันกับเขาไม่มีคำว่ารักเกี่ยวข้อง]
ผู้หญิงอื่นที่เพื่อนสนิทว่านั่นไม่ใช่คนอื่นสำหรับนาวิน เธอซึ่งเป็นเจ้าสาวต่างหากคือคนอื่นสำหรับเขา
พิมพ์พลอยรู้ดีว่าเขาวางเธอไว้ในฐานะคนนอกหัวใจและเธอพร้อมจะทำหน้าที่ภรรยาในนามอย่างดีที่สุด เพื่อปลดเปลื้องพันธะทุกอย่างให้จบสิ้นเสียที
[แต่มันไม่ให้เกียรติแก]
[ช่างเขาเถอะ…อีกไม่กี่เดือนก็จะจบแล้ว]
[ดี!...แกจะได้หลุดพ้นจากผู้ชายห่วยๆ แบบนี้สักที]
ณฟ้าต่อว่าคนที่พูดถึงอย่างไม่ไว้หน้า แค่นึกถึงใบหน้าเปี่ยมสุขของคนซึ่งทำอะไรลับหลังเพื่อนสนิทใจมันยิ่งโมโห รู้สึกเดือดดาลจนอยากชกใบหน้าคมคายให้หายหมั่นไส้
[แต่ยังไงก็ขอบใจแกมาก เจอกันพรุ่งนี้นะ]
ปากว่าก่อนกดตัดสายหลังจากที่ล่ำลากันเสร็จ แต่มือเจ้ากรรมกลับกดเข้าไปยังแอปพลิเคชันสีเขียว ภาพต่างๆ มากมายซึ่งถูกส่งมาจากผู้หวังดีแสดงถึงความสนิทสนมของบุคคลที่ถูกแอบถ่าย
นาวินกอดเกี่ยวพิชชาอย่างไม่อายฟ้าอายดิน เขาทำเหมือนกับว่างานแต่งวันนี้มันไร้ค่าไร้ความหมาย ถ้าเป็นพิมพ์พลอยเมื่อก่อนเธอต้องร้องไห้ด้วยความเสียใจจนพานนอนไม่หลับไปทั้งคืน
ทว่าตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว หญิงสาวดูมันเพียงชั่วครู่ก่อนเลือกปิดเครื่องมือสื่อสารลงไปพร้อมเข้าสู่ห้วงนิทราราวกับว่าไม่ต้องการรับรู้อะไรอีก ไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดต้องหนีความจริงอะไร แม้ภายใต้หน้ากากแสนเย็นชานั่นจะซุกซ่อนความรู้สึกเอาไว้มากมาย
มีเพียงเจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ใจตนเองดียิ่งกว่าใคร…พิมพ์พลอยเวลานี้เยือกเย็นสมกับฉายาเจ้าหญิงน้ำแข็งแห่งวงการอีเว้นต์ เจ้าตัวถูกขนานนามมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ล่วงเลยไปกว่าครึ่งค่อนคืนกว่านาวินจะกลับเข้ามายังห้องหอ ค่ำคืนแรกของชีวิตคู่ผ่านไปโดยไร้เจ้าบ่าว เขาไม่คิดแยแสสนใจในความรู้สึกของเจ้าสาวแม้แต่น้อย จะใส่ใจไปทำไมแค่มาร่วมงานแต่งจอมปลอมตามความต้องการของมารดาก็เพียงพอแล้ว ดวงตาสีรัตติกาลมองยังร่างบางซึ่งนอนขดตัวหลับใหลภายใต้ผ้าห่มราวกับฝันดี
ภาพเบื้องหน้าไม่ใช่สิ่งที่เขาคุ้นเคยเลยสักนิด ชายหนุ่มไม่เคยปรารถนาถึงวันนี้แม้แต่น้อย…
วันที่มีเธออยู่เคียงข้างกัน ใจแกร่งแม้จะเกลียดชังคนตัวเล็กมากแค่ไหน แต่เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งมีเลือดมีเนื้อ ความหวั่นไหวจึงซุกซ่อนอยู่ในทุกอณูของความรู้สึก ใครบ้างจะไม่หลงใหลในความงามตรงหน้า แต่ทุกอย่างกลับต้องหยุดชะงักเมื่อหวนนึกถึงสิ่งเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
นาวินจึงสะบัดใบหน้าหล่อเหลาเพื่อขับไล่ความคิดฟุ้งซ่านของตนเองออกไป ร่างสูงเคลื่อนกายเข้าห้องน้ำเพื่อระงับอารมณ์วาบหวาม เพราะกลิ่นหอมของแป้งเด็กจากร่างงามยังแตะจมูกอยู่จนกระทั่งบัดนี้
สายน้ำเย็นเฉียบช่วยดับความเหนื่อยล้าพร้อมทั้งยังผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี ออกไปข้างนอกตามคำขอร้องของพิชชา หล่อนอ้อนวอนพร่ำเพ้อว่าอยากให้ค้างคืนด้วยกันที่คอนโดหรู ถ้าเป็นเมื่อก่อนไม่มีทางที่นาวินจะปฏิเสธ แต่เวลานี้เขาไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะทำอะไรตามใจตนเองได้อีกแล้ว
เมื่อพิชชาเคยเอ่ยปากบอกเองว่าคิดแค่เพื่อน ดังนั้นนาวินจึงสวมบทบาทเป็นเพียงเพื่อนที่แสนดีให้ เพราะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ขาดความรักความอบอุ่นมาตั้งแต่เด็ก ไม่มีความโกรธเคืองอะไรต่อกันแม้แต่น้อย เมื่อหล่อนปฏิเสธทั้งที่ตนเองขอสานความสัมพันธ์แต่ชายหนุ่มกลับยินดีด้วยซ้ำที่ได้อยู่เคียงข้างกันต่อไป
หรือเขาไม่เคยรู้สึกอะไรกับหล่อนนะ ทำเพียงเพื่อประชดใครบางคนให้หันมาสนใจใช่รึเปล่า…
ทว่าในวันนี้พิชชากลับเปลี่ยนใจ หล่อนบอกว่าแท้จริงแล้วรักเขาเสมอมาความรู้สึกนี้ทำให้นาวินกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก เพราะลึกแล้วข้างในก็แอบสงสารพิชชาอยู่ไม่น้อย ครอบครัวพลากรเอาเปรียบลูกเลี้ยงมาโดยตลอด
เมื่อเห็นหล่อนร้องขอเขาก็ใจอ่อนอีกครั้งไม่ต่างจากในอดีต นัยน์ตาหวานเอ่อล้นไปด้วยน้ำตารวมถึงเสียงสะอื้นปานจะขาดใจนั่นทำให้นาวินรู้สึกผิด เขาไม่แน่ใจว่าตนเองคิดถูกหรือไม่ที่ตัดสินใจแต่งงานกับนางมารร้ายอย่างพิมพ์พลอย
เอาเถอะในเมื่อเธอยื่นข้อเสนอว่าจะคืนอิสระให้หลังจากหกเดือน นาวินก็จะรอวันนั้นแล้วเขาจะได้กลับไปดูแลคนที่เคยอยู่เคียงข้างกันในยามทุกข์ใจ นาวินผ่านความขมขื่นมานับครั้งไม่ถ้วน
‘พีชรอผมหน่อยนะ ผมขอโทษที่ไม่เคยมีโอกาสได้ดูแลคุณ’